ไลฟ์แฮ็ก

4 Steps ออกแบบความสำเร็จด้วยตัวเอง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
4 Steps ออกแบบความสำเร็จด้วยตัวเอง

‘เป้าหมาย’ เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนให้ชีวิตก้าวต่อไปข้างหน้า ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราทุกคนก็ต่างมีชีวิตอยู่ด้วยความหวังที่ว่าวันพรุ่งนี้จะดีกว่า และเชื่อว่าวันต่อๆ ไปชีวิตเราจะประสบความสำเร็จอย่างใจหวัง หากคุณคือคนหนึ่งที่รู้เส้นทางของชีวิตตัวเองแล้ว ยินดีด้วยนะคะ อย่างไรก็ตาม การมีเป้าหมายที่ดี ก็ไม่สำคัญเท่าการรู้ว่าต้องวางแผนไล่ตามความฝันนั้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ และไม่ลอยออกทะเลไปเสียก่อน วันนี้ภัสตัดสินใจลุกขึ้นมาถอดแบบบทเรียนในคลาสตอนอยู่ปี 2 ซึ่งเป็นคลาสสอนออกแบบ Social enterprise (ธุรกิจเพื่อสังคม) แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทฤษฎีที่เรียนในคลาสนี้ สามารถเอาไปประยุกต์ใช้กับการไล่ล่าตามความฝันได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ไม่รอช้า ภัสขอพาทุกคนมารู้จักกับ "Theory of Change"

โดยปกติแล้ว Theory of Change จะเป็นทฤษฎีที่เอาไว้อธิบายภาพรวมของธุรกิจ (Business Model) ซึ่งหลักๆ ก็คือการสรุปสั้นๆ ให้นักลงทุนเข้าใจว่าธุรกิจของเราคืออะไร ทำอะไร และต้องการอะไรผ่านการใช้เจ้าทฤษฎีนี้นั่นเอง มีทั้งหมด 4 ข้อย่อยที่ภัสตัดรวบรัดมาให้เข้าได้ง่ายๆ มาดูทำความเข้าใจดูกันค่ะ

Advertisement

Advertisement


1. Final Goal

Final Goal

การกำหนดเป้าหมายต้องเริ่มจากการเขียน Final Goal หรือเป้าหมายสูงสุดที่ต้องการให้กับตัวเองก่อน ภัสแนะให้เริ่มจาก 1 เป้าหมายก่อนนะคะ การมีหลายๆ เป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จพร้อมกันจะทำให้เราสับสน และรู้สึกว่าทุกอย่างมันเยอะแยะอีรุงตุงนังจนสุดท้ายก็ล้มเลิกไปค่ะ

เคล็ดลับสำคัญคือการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน และมีช่วงเวลากำกับที่แน่ชัดว่าเราจะจับความสำเร็จนั้นได้เมื่อไหร่ ปริ้นภาพความสำเร็จนั้นแปะไว้ที่ข้างฝา เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้เราหาทางทำทุกอย่างจนได้มันมาภายในเวลาที่ตั้งไว้ ฟังดูท้าทายใช่มั้ยล่ะคะ หากใครยังไม่เห็นภาพมาดูตัวอย่างกันค่ะ

ตัวอย่าง: Final Goal = ต้องการมีเงินเดือน เดือนละ 30,000 บาทภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2019


2. Intermediate Outcome

Short term goals

หลังจากที่กำหนดเป้าหมายสูงสุดแล้ว เราจำเป็นต้องเขียนเป้าหมายย่อย หรือการเปลี่ยนแปลงที่เราอยากจะเห็นอยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลาที่เราไล่ล่าความสำเร็จนั้นค่ะ ที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้ จำเป็น ต้องสร้างผลลัพธ์โยงไปหาเป้าหมายสุดท้ายได้ ถ้าหาก Intermediate Outcome ในข้อไหนที่ไม่ได้ช่วยให้ไปถึงเป้าหมายได้ ให้ตัดออกค่ะ

Advertisement

Advertisement

ภัสแนะนำให้เซต Intermediate Outcome ไว้ประมาณ 2-3 ข้อนะคะ

ตัวอย่าง: Intermediate Outcome =

1. เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดี มีความมั่นใจมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน

2. สามารถสร้างรายได้จากอาชีพการเป็นนายตัวเอง

3. สร้างมารถสร้างอาชีพหลักและอาชีพเสริมให้ตนเองได้เพื่อการเงินที่มั่นคง

ปล. จะสังเกตุได้ว่า Intermediate Outcome ของภัสทุกข้อ ผลลัพธ์ที่ได้สามารถนำไปสู่การมีเงินเดือน 30,000 บาทได้ทั้งสิ้นค่ะ


3. Activity

Activity

และแล้วก็มาถึงหัวข้อโปรดของภัสค่ะ ภัสสนุกทุกครั้งกับการออกแบบเป้าหมาชีวิตให้กับตัวเอง และสนุกยิ่งกว่าเมื่อได้ลองนั่งคิดถึงกิจกรรม หรือวิธีสร้างสรรค์ แปลกใหม่ใดๆ ก็ตามที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมาย Activity คือการที่เราหยิบ Intermediate Outcome ในแต่ละข้อมาลงลึกอีกทีว่า ถ้าอยากไปถึง Intermediate Outcome นี้ จะต้องทำกิจกรรมใดบ้าง

Advertisement

Advertisement

ตัวอย่าง:

Intermediate Outcome 1 = ต้องดูแลผิวหน้า ผิวกาย ฝึกแต่งตัวให้ดูดีขึ้น ออกกำลังกายให้หุ่นสวย ทานอาหารเสริม ฝึกแต่งหน้า

Intermediate Outcome 2 = ขายของออนไลน์, หารายได้จาก YouTube

Intermediate Outcome 3 = งานประจำคือเป็น ติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ส่วนงานเสริมคือเป็นแม่ค้าออนไลน์

เพื่อนๆ จะสังเกตุว่าภัสแจกแจงกิจกรรม อาชีพหรือสิ่งที่ภัสต้องทำเพื่อให้สามารถจับ Intermediate Outcome ที่ตั้งไว้ในตอนต้น


4. Input

Input

เดินทางมาถึงหัวข้อสุดท้ายกันแล้วล่ะค่ะ Input ให้เข้าใจว่าเป็น ทรัพยากรณ์ อุปกรณ์ หรือสิ่งที่ต้องมีเพื่อจะสามารถเริ่มทำกิจกรรมที่แจกแจงไว้ด้านบนได้ค่ะ ซึ่งเป็นได้ทั้งรูปธรรมและนามธรรม เช่น สิ่งของ ความรู้ ทักษะความสามารถ และความเชื่อ มาดูตัวอย่างกันค่ะ

ตัวอย่าง:

Activity 1 = ต้องมี สูตรสครับผิวเด็ดๆ แผ่นมาร์กบำรุงผิว ครีมกันแดด ความรู้เรื่องการแต่งตัว รองเท้าออกกำลังกาย  อาหารเสริมที่มีคุณภาพ และความรู้เรื่องการแต่งหน้า

Activity 2 = สินค้าที่จะขายออนไลน์ เช่น เสื้อผ้า

Activity 3 = ความรู้เรื่องภาษาอังกฤษที่จะสอนนักเรียน และความรู้ในการทำการตลาดขายของออนไลน์ให้ปัง


เป็นยังไงกันบ้างคะ กับบทความการกำหนดเป้าหมายด้วย Theory of Change ภัสได้ลองใช้จริงทั้งในคลาสและกับตัวเอง ประทับมากๆ เนื่องจากทฤษฎีนี้ช่วยทำให้ขั้นตอนกระบวนการทุกๆ อย่างในการพิชิตเป้าหมายถูกตีแผ่ออกมาให้เห็นชัดเจนเป็นห่วงโซ่ เราจะไม่มีวันหลงทางหรือลืมไปว่าเรากำลังถึงจุดไหน และต้องทำอะไรต่อไป เพราะทุกคนจะเห็นว่าทั้ง 4 ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ทุกๆ อย่างที่เรากำหนดจะสร้างผลลัพธ์ออกมาเพื่อความสำเร็จเพียงหนึ่งเดียวก็คือ Final Goal นั่นเองค่ะ

ชีวิตที่มีเป้าหมาย คือชีวิตที่สนุกสนาน ท้าทายและมีสีสันอยู่เสมอ มาร่วมกำหนด Final Goal ไปพร้อมกับภัสนะคะ แล้วพบกับใหม่ค่ะ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์