ใครอายุ 30 แล้วกดเข้ามาดูหัวข้อนี้ บอกเลยว่าเราน่ะเพื่อนกัน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกคนต้องกักตัว และได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น เชื่อเหลือเกินว่า"เงินเก็บ" เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องหันกลับมานั่งทบทวนว่าเดือนนี้ หรืออีก 3-4 เดือนข้างหน้า จะใช้ชีวิตอย่างไร วันนี้ผมจะมาแชร์วิธีการสร้าง mindset ที่ดีทางการเงิน และการวางแผนทางการเงินแบบง่ายๆ เผื่อใครจะได้เป็นแนวทางในการปรับใช้ ตั้งสติก่อน อายุเข้า 30 แล้ว ไม่ต้องกลัวนะว่ามันจะสายไปที่จะมาเริ่มคิดเรื่องเงินเก็บ ข้อสำคัญอย่าเอาตัวคุณไปเปรียบเทียบกับใคร ยิ่งคุณเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่มีมากกว่า มีแต่จะบั่นทอน และนั่นก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ที่ดีให้กับตัวคุณ สิ่งที่ควรทำคือให้มองคนที่เขาลำบากกว่าเรา แล้วนั่นจะทำให้คุณมีกำลังใจว่าตัวคุณโชคดีกว่าคนอีกหลายๆคนที่ขาดโอกาส นะครับ 2. เป้าหมายมีไว้พุ่งชน จงตั้งเป้าหมายทางการเงินที่วัดได้จริง และสามารถเป็นไปได้นะครับ เช่น คุณมีรายได้ประจำเดือนละ 20,000 บาท ตามหลักแล้ว ควรออมเงินอย่างน้อย 10 เปอร์เซนต์ของรายได้ นั่นก็คือ 2,000 บาท หรือจะมากกว่านั้นก็ได้ ถ้าคุณหักค่าใช้จ่ายแล้วไม่่ลำบากตัวเองจนเกินไป แต่ถ้าคุณตั้งเป้าหมายสูงเกินไป เช่น ใน 1 ปี อยากมีเงินเก็บ 1 ล้าน แต่รายได้หลักหมื่น ก็คงจะเป็นไปได้ยาก แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะว่า ถ้าคุณขยันเรียนรู้ เพิ่มรายได้หลายทางมากขึ้น ก็มีแนวโน้มเป็นไปได้ 3. ลงมือทำอย่างตั้งใจ เพราะกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ดูเป็นเรื่องง่าย แต่ทำได้ยากมากนะครับ ต้องอาศัยวินัยสูง ขั้นตอนนี้ผมว่ายากที่สุด หลายคนจะล้มเลิกไปกลางทางหรือระหว่างทาง เพราะมีสิ่งยั่วยุต่างๆที่เข้ามาทำให้เป็นอุปสรรคต่อความตั้งใจที่เก็บเงิน มีคนเคยบอกผมว่า ถ้าเราล้มเลิกความตั้งใจ ไม่ใส่ใจที่จะทำมัน นั่นหมายความว่า เราไม่ได้รู้สึกอยากได้สิ่งนั้นมากพอ แม้เป็นประโยคที่ดูเรียบง่าย ธรรมดา แต่มันจริงมากๆนะครับ ผมเคยลองเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง แล้วก็หายไปกับการเที่ยว จนหลงลิมไปเลยว่า แท้จริงเราเก็บเงินไปเพื่ออะไร ลองเขียนเตือนตัวเองไว้ก็ได้ ผมใช้วิธีเขียนแล้วเซฟเป้าหมายเป็นหน้าจอของโทรศัพท์ ทุกครั้งที่เราเอามือถือขึ้นมาดู มันทำให้เราฉุกคิดได้ตลอดเวลาจริงๆ แล้วความสำเร็จของการเก็บเงินก็จะตามมาเอง ขอยกตัวอย่างวิธีที่ผมเก็บเงินก็มีหลายวิธีที่จะทำให้ไปสู่เป้าหมาย 3.1 ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เคยทำๆเลิกๆอยู่หลายช่วง จดใส่กระดาษบ้าง สมุดบ้าง ไม่ต่อเนื่อง ล่าสุดก็หันมาลองกับบันทึกแอพมือถือที่ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่สุดท้ายผมชอบที่จะจดด้วยการเขียนมากกว่า แม้จะเสียเวลาสักหน่อย แต่มันทำให้เราได้ตระหนักเลยนะว่า ใน 1 วัน เราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง หมดกับค่ากาแฟ ชา หรือ อาหารขยะไปเยอะ เหมือนได้สำรวจพฤติกรรมตัวเอง และมันก็ส่งผลเป็นทอดๆกับสุขภาพของเราด้วยนะครับ3.2 เหรียญหยอดกระปุก ทุกวันที่มีเศษเหรียญ ผมหยอดกระปุก ย้ำนะว่าเหลือ 1 บาทก็หยอด คำกล่าวที่ว่า อย่าหมิ่นเงินน้อย เรื่องจริงนะครับ ผมเองเคยสะสมมาเรื่อย ๆจนครบปี ได้เงินหลักหมื่นเลยนะครับ แต่ระหว่างนั้นอย่าแคะมาใช้ซะก่อนละ 3.3 โอนเข้าบัญชีแยกปิดตาย หลังเงินเดือนออก ก็คือเก็บก่อนเลย 10 เปอร์เซนต์ ที่เหลือค่อยมาบริหารใช้จ่าย วิธีนี้เหมาะกับคนที่ประเมินตัวเองแล้วว่า ไม่มีวินัย และกลัวว่าจะเก็บเงินไม่ได้ แนะนำเลยครับ เวิร์กสุดๆ4. ศึกษาเครื่องมือทางการเงิน ปัจจุบัน มีเครื่องมือที่จะทำให้เงินงอกเงยได้ โดยที่เราต้องศึกษาทำความเข้าใจเพื่อลดความเสี่ยง การออมเงินที่ดีนอกจากมีเงินสำรองฉุกเฉินแล้ว ก็ควรมีการต่อยอดเงินด้วยการนำเงินเหล่านั้นไปลงทุน ข้อนี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการเก็บเงินของเราให้พอกพูนมากขึ้น อย่างน้อยก็ควรจะต้องลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนนั้นชนะเงินเฟ้อ ขอยกตัวอย่างเครื่องมือทางการเงินที่ผมลงทุน 4.1 กองทุนรวม ลักษณะของการระดมเงิน ผ่านการซื้อหน่วยลงทุน โดยจะมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดูแลเงินของเรา นำเงินเราไปลงทุนตามนโยบายกองทุนที่เราเลือก ในหลากหลายสินทรัพย์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น เงินฝาก พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้นสามัญ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ น้ำมันการลงทุนประเภทนี้เหมา่ะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาในการติดตาม แต่เราก็ต้องเลือกกองทุนที่มีผู้จัดการที่เป็นมืออาชีพมาดูแลเงินของเรานะครับ4.2 หุ้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง มีโอกาสที่จะได้กำไรสูง หรือขาดทุนก็ได้ การเลือกซื้อหุ้นต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในพื้นฐานของบริษัท การอ่านและวิเคราะห์งบการเงิน ผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้น จะมี 2 ส่วนคือ เงินปันผล กับส่วนต่างกำไร แต่ส่วนตัวผมเน้นซื้อหุ้นบริษัทที่พื้นฐานดี แล้วมีปันผลให้ทุกปี หวังกินปันผลไปเรื่อยๆครับ สำหรับ 2 เครื่องมือทางการเงินที่ผมแนะนำ ลองศึกษาเพิ่มเติมได้จาก https://www.set.or.th/set/mainpage.do เว็บนี้มีข้อมูลความรู้มากมายเกี่ยวการลงทุนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไป จนขั้นสูงเลยครับ (การลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ แต่เราจะลดความเสี่ยงได้ก็ด้วยการศึกษาหาความรู้ก่อนลงทุนครับ) จากที่กล่าวเนื้อหามาทั้งหมด เป็นคำแนะนำจากประสบการณ์ของผม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คนวัย 30 ที่เข้ามาอ่าน แล้วตั้งใจจะเริ่มเก็บเงินตอนนี้ก็ยังไม่สาย....เริ่มต้นวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่าครับ....... ขอขอบคุณ รูปภาพปกที่ออกแบบผ่านเว็บ https://www.canva.com/th_th/create/book-covers/ รูปภาพประกอบที่ 1 https://images.pexels.com/ รูปภาพประกอบที่ 2 https://images.pexels.com/ รูปภาพประกอบที่ 3 https://images.pexels.com/