ไลฟ์แฮ็ก

3 เทคนิคตั้งรหัสผ่านที่ง่ายและปลอดภัย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
3 เทคนิคตั้งรหัสผ่านที่ง่ายและปลอดภัย

3 เทคนิคตั้งรหัสผ่านที่ง่ายและปลอดภัย

  • ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกรรมมากมายบังคับให้ตั้งรหัสผ่านอาจเริ่มตั้งแต่การเปิดใช้งานโทรศัพท์ การเข้าใช้งานอีเมล การใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือแม้แต่การทำธุรกรรมผ่านบริการของธนาคาร ครั้นจะตั้งเปิดเข้าใช้งานอัตโนมัติทุกครั้งหรือไม่ตั้งรหัสผ่านก็เสี่ยงกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
  • จำรหัสผ่านไม่ได้เพราะตั้งซับซ้อนและขาดเทคนิค

หากใส่รหัสผ่านผิดต้องเสียเวลาดำเนินการเปลี่ยนรหัสผ่าน
หากใส่รหัสผ่านผิดต้องเสียเวลาดำเนินการเปลี่ยนรหัสผ่าน

  • ​​      หลายคนประสบปัญหาจำรหัสผ่านไม่ได้จึงตั้งรหัสผ่านตามความสะดวก บางคนตั้งรหัสผ่านเป็น 1234 จำได้ง่ายก็จริงแต่ไร้ประโยชน์ด้านการป้องกัน หลายผู้ให้บริการจึงไม่อนุญาตให้ตั้งรหัสผ่านที่มิจฉาชีพคาดเดาได้ง่าย บางกรณีกำหนดให้มีทั้งตัวอักษรและตัวเลข บางกรณีบังคับทั้งตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่โดยต้องมีจำนวนรวมไม่น้อยกว่าที่กำหนด หลายคนต้องเพิ่มความซับซ้อนให้กับรหัสผ่านของตัวเอง เมื่อจะเข้าใช้งานปรากฏว่าลืม ทำให้ต้องยุ่งยากกับขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสผ่านอีก เสียเวลามากกว่าเดิม บางคนตั้งรหัสที่ซับซ้อนคาดเดาได้ยากและตัวเองก็จำไม่ได้จึงเขียนใส่กระดาษแปะไว้ให้เห็นเด่นชัดใกล้อุปกรณ์ใช้งานเช่นนี้ย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากการตั้งรหัสผ่าน
  • คาดเดายากแต่ผู้ตั้งจดจำง่ายเพราะเป็นระบบ
  • รหัสผ่านที่ดีต้องป้องกันการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและเป็นรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยากแต่ผู้ตั้งรหัสผ่านนั้นเองสามารถจดจำได้ง่ายเพราะเป็นระบบ

Advertisement

Advertisement

3 เทคนิคที่ข้าพเจ้าคิดค้นและใช้ได้ผลมาแล้วกับหลายคน

  • 1. ข้อมูลเก่า
  • เป็นข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจุบันโดยสิ้นเชิง มีกลุ่มคนที่รู้น้อยมากแต่ผู้ตั้งรหัสจะจำได้แน่ เช่น เลขประจำตัวนักเรียนสมัยเรียน เลขรุ่น เลขห้อง รหัสวิชา กลุ่มงานหรือกิจกรรม บางคนอาจตั้งรหัสผ่านยาวและดูเหมือนซับซ้อน ความจริงแล้วเป็นระบบซึ่งผู้ตั้งทราบดีว่าประกอบด้วยข้อมูลใดจึงง่ายต่อการจำ
  • 2. สูตรเฉพาะตัว
  • ผู้ตั้งรหัสผ่านอาจกำหนดสูตรเฉพาะไว้ในใจเป็นเกณฑ์สำหรับการตั้งรหัส อาจตั้งเป็นการบวกหรือการลบ

สมมติตั้งสูตรว่าบวก 2 โดยต้องการตั้งรหัสจากวันและเดือนเกิด กรณีเกิดวันที่ 29 กันยายน ใช้สูตรบวก 2 จะเป็น 29 บวก 2 และ 9 บวก 2 ได้รหัสผ่านเป็น 3111

สมมติตั้งสูตรว่าลบ 1 กรณีเกิดวันที่ 29 กันยายน จะได้รหัสผ่านเป็น 2808 เป็นต้น

  • 3. แปลงรหัส
  • ผู้ตั้งรหัสสามารถแปลงตัวอักษรเป็นตัวเลขและแปลงตัวเลขเป็นตัวอักษรได้โดยกำหนดแบบไว้ในใจ อาจกำหนดถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ใช้สิ่งนั้นมาตั้งเป็นรหัสผ่านโดยตรง ผู้ตั้งรหัสอาจชอบสิงโตเป็นพิเศษ อาจเลือกคำว่า lion แปลงเป็นตัวเลขได้ 1291514 หรือหากต้องผสมกับตัวอักษรอาจกำหนดใช้อักษรที่ 2 ตามด้วยตัวเลขจะได้ i1291514

Advertisement

Advertisement

เทคนิคสำคัญใดก็ไม่สำคัญเท่าความไม่ประมาทกับธุรกรรมทุกชนิด เก็บรหัสผ่านไว้ในความทรงจำเสมอ หากจำเป็นต้องจดหรือจัดเก็บในอุปกรณ์ใดต้องมั่นใจว่าเป็นที่เก็บที่ปลอดภัย บ่อยครั้งที่มิจฉาชีพได้รหัสผ่านจากผู้ตั้งรหัสหรือบุคคลใกล้ตัว โดยที่บุคคลเหล่านั้นไม่รู้ตัวว่าได้เปิดเผยข้อมูลบางอย่างไปแล้ว

ภาพถ่ายทั้งหมดโดย Tongluay/ต้นกล้วย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์