ปัญหาสิวในช่วงวัยรุ่น ถือเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติเลยก็ว่าได้ เพราะบางคนจิตตกถึงกับตัดสินใจซื้อครีมสเตียรอยด์ที่ขายตามท้องตลาด ที่เคลมว่าหายในชั่วข้ามคืน แต่หากรู้ไหมว่า นี่เป็นการรักษาสิวแค่ในระยะสั้น ผลที่ตามมานั้น คือสิวรเห่อทั่วหน้าแถมยังขึ้นมาเยอะกว่าอีกเคย วันนี้ฉันจึงอยากจะให้วัยรุ่นที่กำลังประสบปัญหาการมีสิว ลองมาเปิดใจใช้ยารักษาสิวที่หมอผิวหนังเชี่ยวชาญเรื่องผิวหนัง แนะนำยารักษาสิว ซึ่งมีอยู่ 3 ตัวด้วยกันที่มนุษย์เป็นสิวอย่างเรา ควรมีเก็บในตู้ไว้!1.เบนเซค Banzac เบนเซค ถือเป็นยาสามัญประจำบ้านที่คนเป็นสิวต้องมีเลยก็ว่าได้ เพราะมันสามารถรักษาทุกปัญหาสิวได้จริง ๆ โดยเฉพาะสิวอักเสบ สิวผื่น หรือสิวอุดตัน โดยยารักษาสิวตัวนี้เป็นลักษณะเนื้อเจล สีขาว วิธีการใช้ของมัน คือทาทั่วใบหน้าก่อนล้างหน้า 5 นาที จากนั้นก็บำรุงหน้าได้ตามปกติ หรือแต้มเฉพาะจุดที่เป็นสิวก็ได้เหมือนกัน ยารักษาสิวตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่สิวน้อยถึงปานกลาง ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ราคาประมาณ 125 - 145 บาท 2.คลินดาเอ็ม Clinda M คลินดาเอ็ม คือยารักษา สิวอักเสบ โดยเฉพาะสิวหัวหนองเห็นผลได้เร็วมว๊าก! ตัวยาจะเป็นยาชนิดน้ำ ยารักษาสิวตัวนี้จะนิยมให้ใช้คู่กับผงพิเศษ โดยวิธีการใช้ คือนำผงพิเศษผสมกับคลินดาเอ็มผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาแต้มตรงสิวอักเสบ หรือจะทาคลินดาเอ็มเพียว ๆ ก็ได้เช่นกัน สิวจะยุบภาย 2-3 วัน ยาตัวนี้แนะนำสำหรับผู้ที่มีสิวประปราย หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ราคา 65 - 80 บาท3.เรตินเอ Retin A ตัวสุดท้าย คือเรตินเอ มีชื่อเสียงเลื่องลือเสียงในวงการเเพทย์ผิวหนังเป็นอย่างมาก เพราะเรตินเอ นอกจากจะเป็นยารักษาสิวแล้ว ยังทำให้หน้าเนียนใสขึ้นอีกด้วยเมื่อใช้ในระยะยาว เรตินเอเหมาะสำหรับคนที่มีสิวปานกลางถึงเยอะมาก ๆ โดยเรตินเอจะมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เวลาใช้ในช่วงแรก ๆ สิวจะเห่อ และหลังจากนั้นสิวก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น และหน้าจะเนียนใสขึ้นอย่างน่าตกใจ ผู้ที่ใช้ยารักษาสิวตัวนี้อาจจะต้องใช้ความอดทนสูงหน่อย แต่รับรองว่าผลลัพธ์คุ้มค่าแก่ความอดทนอย่างแน่นอน ตัวนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปได้เลยค่า แต่ก่อนใช้แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาด้วยนะคะ ราคาอยู่ที่ 110-140 บาท สรุป 3 ตัวยาข้างต้นจะเห็นได้ว่า เป็นยารักษาสิวที่แพทย์ผิวหนังเขาเคลมว่าหายได้จริง ๆ ราคาหลักร้อย อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไปอีก ดังนั้น วัตถุประสงค์ที่ฉันมาแบ่งปันบทความนี้ เพื่อยากให้คนที่ประสบปัญหาสิวเช่นเดียวกับฉัน หันมาสนใจใช้ยารักษาสิวที่แพทย์ผิวหนังเขาแนะนำจะดีกว่า การใช้ครีมตามมั่วซั่วตามท้องตลาด ที่เคลมว่าสิวหายเพียงชั่วข้ามคืน เพราะเมื่อใช้ไปนาน ๆ ผลลัพธ์ไม่คุ้มค่ากับคำที่เคลมว่าดีขึ้นภายในพริบตา การรักษาที่ดี คือสิวจะค่อย ๆ ดีขึ้น ตามปริมาณสิวบนใบหน้า หากมีสิวเยอะ ก็อาจจะใช้เวลาใการรักษาได้นานหน่อย เพราะฉะนั้น เมื่อใช้ยารักษาสิว ต้องมีความอดทน ใจเย็น ไม่รีบร้อน และควรมีวินัยในการใช้ยารักษาสิว เพียงแค่นี้รับรองว่าทุกคนจะมีหน้าใสไร้สิวกันได้แน่นอนค่าาา เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ ^^