ไม่มีใครอยากตายทั้งนั้น แต่หลายพฤติกรรมที่เราชอบทำติดจนเป็นนิสัย อาจทำให้เราถึงที่ตายได้ในทันที วันนี้แอดจึงรวบรวมพฤติกรรมเสี่ยงตายทั้งหลายมาให้คุณผู้อ่าน เพื่อเตือนใจไม่ให้เผลอประมาททำพฤติกรรมดังต่อไปนี้ ถ้าคุณยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป 1. ลุกขึ้นพรวด เครดิตรูปภาพ : https://pin.it/2rjm2bl6one6vp เคยนอนหลับแล้วตกใจกับเสียงอะไรสักอย่างกันบ้างไหมคะ เช่น ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก แล้วรีบลุกขึ้นพรวดจะเดินไปปิด หรือลุกขึ้นพรวดทันทีที่รู้ว่าสายแล้ว ! เคยมีข่าวที่คนลุกขึ้นพรวดแล้วเสียชีวิตกระทันหันมาแล้วนะคะ สาเหตุเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้เราเกิดอาการวิงเวียนศีรษะและอาจวูบเสียชีวิตอย่างกระทันหันได้ในทันที แอดเคยมาแล้วค่ะ แต่ดีที่ไม่เสียชีวิต แค่วิงเวียนจนยืนไม่ไหว ต้องลงไปนอนพักต่อค่ะ เมื่อดีขึ้นจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นมาอีกทีนึง เรื่องเล็กน้อยที่หลายคนมองข้าม นับว่าอันตรายมากเลยนะคะ 2. ออกกำลังกายหักโหม เครดิตรูปภาพ : https://pin.it/ywjbdsm7jbi76z เวลาที่เราออกกำลังกายปกติไม่ได้ออกแรงมากจนเกินไป สัก 10 – 20 นาที จะสังเกตได้ว่าหัวใจของเราจะเต้นเร็วมากขึ้นแล้วค่ะ ยิ่งถ้าเราฝืนออกกำลังกายมากเกินไป ทั้งที่รู้ว่าไม่ไหวแล้ว จะยิ่งทำให้หัวใจของเราเต้นเร็วจนผิดปกติ ขนาดร่างกายของเราเอง ทำงานหนักไปยังไม่สบาย หัวใจของเราก็เช่นเดียวกันค่ะ หักโหมมากไป ก็สามารถน็อคตายได้ตาย ดังเช่นที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ปั่นจักรยานจนตาย วิ่งบนลู่วิ่งจนตาย โดยเฉพาะบางคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจหรือเป็นโรคหัวใจ แต่ยังหักโหมออกกำลังกายมากจนเกินไป ทั้งที่รู้ว่าสุขภาพร่างกายของตัวเองนั้นไม่ไหวแล้ว จึงทำให้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น อย่างแอดเองต่อให้วันนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะออกกำลังกายสัก 20 นาที แต่ถ้าไม่ไหวแล้วต่อให้ได้แค่ 10 นาที แอดก็หยุดพักไม่ออกกำลังกายต่อแล้วค่ะ เพราะกลัวตัวเองจะน็อค ได้ไม่คุ้มเสียเลยนะคะ 3. มักง่าย เครดิตรูปภาพ : https://pin.it/7pb745wk2lmgoy แอดเองก็เคยมักง่ายกับเรื่องง่าย ๆ ที่คิดว่าไม่เป็นอะไร เช่น เข้าห้องน้ำ ล้างมือออกมา มือเปียกน้ำ ก็ไปกดปิดสวิทช์ไฟห้องน้ำ จนไฟช็อตมือ แต่ไม่มากค่ะ ทั้งที่รู้ว่าอันตรายไม่ควรทำ เป็นเรื่องที่เราเรียนมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่จำสักที หรือการที่เราเผลอดึงปลั๊กไฟโดยไม่ระวัง การชาร์จสมาร์ทโฟนไว้ใกล้ที่นอนและเล่นสมาร์ทโฟนขณะชาร์จไปด้วย อาจทำให้เกิดไฟช็อตและอาจถึงขั้นระเบิดคามือเราได้เลยนะคะ เพราะเครื่องร้อนเกิดไปนั่นเอง ถ้าจะเล่นจริง ๆ ก็ควรรอให้สมาร์ทโฟนชาร์จแบตฯ จนเต็ม 100 % ก่อน แล้วค่อยหยิบมาเล่น จะปลอดภัยกว่านะคะ ดูไม่น่าเสียชีวิตเลยใช่ไหมคะ แต่ก็กลับเสียชีวิตได้ง่าย ๆ เพราะการที่เราทำจนติดเป็นนิสัย ทำให้เรามองว่าเป็นเรื่องปกติ ให้พยายามเปลี่ยนนิสัยของตัวเองใหม่ นึกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นให้มาก ๆ เพียงเท่านี้ เราก็จะไม่กล้าทำแล้วล่ะค่ะ เขียนโดย : Neemmy BK เครดิตรูปภาพ : https://bit.ly/363xEuZ