ในยุค 722 -221 ก่อนคริสตศักราช ประเทศจีนได้กำเนิดปรัชญาของสำนึกขงจื่อ ปรัชญาขงจื่นั้นว่าการดำเนินชีวิต ณ ในสมัยนั้นเป็นยุคที่บ้านเมืองวุ่นวาย แว่นแคว้นต่างพุ่งรบกัน ทำให้เกิดสำนักแนวคิดนับร้อยเกิดขึ้น ในสมัยนั้นเหล่าปราชญ์จึงมุ่งหาว่าอะไรคือวิถีที่แท้ในการดำเนินชีวิตและการจัดระเบียบสังคม มากกว่าจะหาคำตอบว่าอะไรคือความจริงตัวของขงจื่อนั้นเชื่อว่าในตัวของมนุษย์นั้นมีศักยภาพที่จะสามารถขัดเกลาตนเอง เพื่อแก้ปัญหาในระดับปัจเจกบุคคลและสามารถแก้ไขปัญหาสังคมด้วยตัวของมนุษย์เองได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการยกระดับความเป็นมนุษยนิยม (humanism) ให้สูงขึ้นขงจื่อกล่าวไว้ว่า “มนุษย์สามารถทำให้มรรควิถียิ่งใหญ่ได้ แต่มรรควิธีไม่อาจทำให้มนุษย์ยิ่งใหญ่ได้”โดยได้กล่าวถึง 12 คุณธรรมเพื่อยกระดับคุณภาพจิตใจไว้ดั่งนี้1. จงอย่ากังวลว่าคนอื่นจะไม่รู้จักเรา แต่ให้กังวลว่า ตัวเรามีคุณค่าเพียงพอแล้วหรือยังที่จะให้คนอื่นรู้จัก2. คนที่มีความละโมบ และกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลา ยากที่จะมีความสงบและความมั่นคงในจิตใจ- ความกังวลสับสนและความเคร่งเครียด จะทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่สามารถขบคิดแก้ไขปัญหาได้ และส่งผลให้กิริยาที่แสดงออกมามีแต่ความเกรี้ยวกราดและรุนแรง ทำให้ลูกน้องหมดศรัทธา และไม่อยากจะร่วมงานด้วย ดังนั้น ขงจื๊อจึงสอนว่า เราควรประคับประคองจิตใจให้มีความสงบและสบาย เมื่อใจสบาย กิริยาและคำพูดที่แสดงออกมาก็จะน่าฟัง และน่าเชื่อถือ3. คนที่ไม่รู้จักวางแผนระยะยาว จะรู้สึกอึดอัดและกังวลต่อสิ่งที่กำลังทำอยู่เสมอ- การตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่รู้ตัวว่า กำลังทำอะไร ทำไปเพื่ออะไร ผลที่ตามมาคืออะไร และที่สำคัญคือ สิ่งที่เราทำอยู่นี้เป็นสิ่งที่เราต้องการทำจริงหรือ หรือทำไปเพื่ออยู่ไปวันหนึ่ง ๆ การทำงานอย่างไร้เป้าหมายในชีวิต นอกจากจะสร้างความอึดอัดและเคร่งเครียดแล้ว ยังจะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น เราควรสร้างมโนภาพเกี่ยวกับแผนที่ชีวิตของตนเองเสียตั้งแต่ต้น4. คนที่หมั่นศึกษาหาความรู้โดยการท่องตำราแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่นำความรู้ไปทบทวนหรือนำไปปฏิบัติเปรียบได้กับ “เต่าแบกคัมภีร์หรือตาบอดคลำทาง” ในขณะเดียวกัน คนที่ชอบแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลาโดยไม่สนใจข้อเท็จจริงใด ๆ เปรียบได้กับคนตาเป็นต้อ5. คนที่มีคุณธรรมจะไม่พูดจาเกินจากสิ่งที่ตนเองทำได้ เพราะคนที่มีคุณธรรมจะต้องมีปากกับใจตรงกัน6. แม้ว่าตัวท่านจะเป็นคนดีและมีความสามารถซักเพียงใดหากมีความอวดดี มีความตระหนี่ถี่เหนียว จะทำให้ตัวท่านเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการในหมู่คนที่คบหาสมาคมด้วย7. จงอย่าสนใจว่าคนอื่นจะมีชื่อเสียงและเกียรติยศมากน้อยเพียงใด แต่ให้สนใจว่าตัวเราเองยังขาดคุณสมบัติในด้านใดบ้างที่ยังต้องปรับปรุงแก้ไข8. จงอย่ากังวลว่าทำไมผู้อื่นจึงไม่เข้าใจเรา แต่ให้กังวลว่าทำไมเราจึงไม่เข้าใจผู้อื่น9. การค้อมหัวยอมรับชะตากรรมตนเองว่าเกิดมายากจนนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย แต่การถ่อมตัวและฝืนใจที่จะไม่โอ้อวดความร่ำรวยของตนเองทำได้ยาก10. สิ่งที่สำคัญที่สุดของความเป็นมนุษย์คือ ความซื่อตรงและซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น11. จงอย่าสุงสิงกับคนที่มีคุณภาพจิตต่ำกว่าเรา และจงอย่าลังเลที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเอง12. จงอย่าใส่ใจกับเรื่องความรวดเร็วและอย่าสนใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆเพราะยิ่งสนใจเรื่องความรวดเร็วเท่าไร เรายิ่งห่างไกลจากความเป็นจริง และถ้าเราสนใจเรื่องเล็กน้อย จะทำให้ทำการใหญ่ยาก เพราะคนที่มีจิตใจจะคับแคบ ย่อมไม่สามารถดึงดูดผู้คนมาช่วยเหลือให้การสนับสนุนได้