ปีนี้ก็เข้าสู่ปี 2020 ซึ่งปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากในอุตสาหกรรมโลก ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การบริการ การสื่อสาร และอีกหลายด้าน ส่งผลให้การพัฒนาไปได้ไกลและเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งในด้านการศึกษาก็เช่นกัน โดยมีการนำอุปกรณ์หลายอย่างมาใช้ในห้องเรียน เช่น โปรเจคเตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น เพื่ออำนวยตวามสะดวกแก่ครูและนักเรียน อีกทั้งยังทำให้นักเรียนเห็นภาพและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น แต่สำหรับเราวัยเรียน วัยทำงานก็ควรมีอุปกรณ์ดี ๆ สักเครื่อง ที่ทำให้การเรียนเป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหา เราก็แนะนำว่า iPad ก็เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจมาก เพราะไม่ใช่แค่ใช้เพื่อความบันเทิง เพื่อการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องการเรียนเป็นอย่างมาก สามารถนำมาใช้แทนหนังสือ เอกสาร ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องแบกหลาย ๆ เล่มให้หนัก ส่วน airdrop ที่มีในตัวเครื่องก็เวิร์คมาก ๆ ทำให้การส่งเอกสาร หรือรูปภาพได้รวดเร็วและง่ายมาก โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต เพียงแค่เปิดแอร์ดรอป ก็สามารถเชื่อมได้กับทุกเครื่องที่เป็น iOS ทั้ง iPhone , iPad และ Macbook และที่สำคัญถ้าใครซื้อ iPad แล้ว ก็ควรซื้อ apple pencil มาด้วย เพื่อใช้จด วาด เขียน เปรียบเสมือนกับกระดาษและดินสอแบบดิจิตอล แต่ถ้าซื้อทั้งคู่ก็มีส่วนลดพิเศษสำหรับนักเรียน นักศึกษามากขึ้นด้วยหละ แถมตอนนี้ก็ยังมีข่าวว่าถ้าซื้อ iPad จะแถม Airpods ด้วย คุ้มมาก ๆ เลย ได้ทั้งสองต่อเลย ซึ่งตัวเครื่องก็มีหลายขนาด หลายคุณสมบัติให้เลือกใช้กันตามความชอบ ความถนัด หลังจากที่เกริ่นกันมานานแล้ว ถ้าใครซื้อเครื่องมาแล้วหรือมาดูบทความเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ แล้วสงสัยว่าซื้อมาแล้วใช้อะไรได้บ้าง มีแอปอะไรน่าสนใจบ้าง คุ้มค่ากับความต้องการของตนหรือไม่ เราก็จะมาแนะนำ 10 แอปเรียนที่ควรมีติด iPad รับรองว่าได้ใช้งานจริง ๆ ซึ่งมีทั้งแอปจดงาน ทำการบ้าน ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันได้เลย 1.Goodnote เป็นแอปที่ควรมีติดเครื่องเป็นอย่างมากสำหรับใครที่ชอบการจด ซึ่งสามารถจดได้ทั้งบน PowerPoint , PDF และ Word หรือรูปภาพ และยังเปลี่ยนลายมือเป็นข้อความได้อีกด้ว หัวของปากกาก็มีให้เพื่อน ๆ ได้เลือกกันมากมายไม่ว่าจะเป็น ความหนา สี รูปแบบ (หมึกซึม ลูกลื่น พู่กัน) ถ้าสำหรับใครที่ใช้ตัวแอปนี้ไว้จดเลคเชอร์ในห้องเรียนต้องชอบฟีเจอร์เปลี่ยนปากกาเป็นไฮไลต์หรือยางลบได้แค่แตะที่ pencil 2 ครั้ง แน่ ๆ เพราะใช้เวลาอันรวดเร็วในการเปลี่ยน และมีฟีเจอร์ลบเฉพาะไฮไลต์สำหรับใครที่เน้นผิดคำ โดยไม่ต้องลบทั้งหมด ซึ่งสะดวกมาก ๆ ตัวแอปมีการให้อัปเดตใหม่ เพื่อเปิดสองหน้าพร้อมกันได้ ส่วนสำหรับใครที่มีเอกสารเยอะ แล้วหาไม่เจอ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะตัวแอพก็รองรับการค้นหาตำแหน่งข้อความลายมือที่เคยเขียนไว้ได้ และยังจัดเอกสารให้เรียบร้อยได้อีกด้วย โดยสร้างหมวดหมู่ของโฟลเดอร์แต่ละวิชา หัวข้อได้ และในการส่งออกก็มีให้เลือกทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปภาพ pdf และ goodnote ลิ้งค์ดาวน์โหลด : https://apps.apple.com/th/app/goodnotes-5/id1444383602?l=th 2. Procreate เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับวาดภาพบนดิจิตอลแทนกระดาษ โดยหน้าตาของแอปก็มีความเรียบ ๆ ใช้งานได้ง่าย สามารถแบ่งการทำงานได้เป็นเลเยอร์ เพื่อปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ง่ายในภายหลัง ซึ่งมึความคล้ายกับโปรแกรมแต่งรูปในคอมพิวเตอร์ที่หลายคนเคยเห็น ในตัวแอปก็ยังมี Brush ให้เลือกมากกว่า 300 แบบ และสามารถดาวน์โหลดหัวปากกาจากที่อื่นมาใช้ในแอปได้ ส่วนกระดาษก็สามารถกำหนดขนาดเองได้ตามความต้องการ และถ้าใครมีผลงานเยอะ ดูไม่เป็นระเบียบ ก็จัดเก็บรวมกันเป็น stack ได้ พอสร้างสรรค์ผลงานเสร็จก็สามารถส่งออกไฟล์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น PSD PNG JPG เพื่อนำไฟล์ไปทำงานต่อ ได้ทั้ง Photoshop หรือ Illustrato ลิ้งค์ดาวน์โหลด : https://apps.apple.com/th/app/procreate/id425073498?l=th 3.Canva เป็นแอปไว้สำหรับออกแบบงานพรีเซนต์ หรือหาเป็นไอเดียไว้ใช้คิดงานที่ใช้ความสร้างสรรค์ โดยในแอปจะมี template แบบสำเร็จรูป ให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งแบบสีสัน เรียบร้อย มินิมอล ให้เลือกใช้ ถ้าเราเลือกเทมเพลตที่ชอบ แล้วคลิกไปลงไปบน set นั้น ๆ จะเจอกับสไตล์เดียวกันที่มีหลากหลายรูปแบบ เราก็สามารถเพิ่มเนื้อหาและรูปภาพลงไปได้เลย ซึ่งเปลี่ยนฟอนต์ของข้อความได้มากกว่า 500 แบบ ง่ายต่อการทำงานมาก ๆ และแอปนี้ก็ยังสะดวกต่อการทำงานร่วมกัน โดยสร้างทีมเพื่อแชร์และแก้ไขงานกับเพื่อนได้พร้อมกัน แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการทำงานพรีเซนต์ ก็สามารถตัดต่อ story ลง ig , ออกแบบโลโก้ และอื่น ๆ อีกมากมาย พอทำเสร็จ ก็แชร์ได้ง่าย ๆ สู่ Instagram , WhatsApp , อีเมล และตัวเครื่อง 4.Google doc แอปนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการเขียนรายงาน หรือบทความ โดยมีการทำงานคล้ายกับโปรแกรม Microsoft Word ในการสร้างเอกสารใหม่เพื่อเขียนบทความนั้น ๆ ซึ่งแอปนี้มีข้อดีเยอะมาก เสมือนกับย่อ Microsoft Word แบบย่อส่วนมาอยู่ในไอแพด เป็นเวอร์ชั่นที่ปรับปรุงมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น โดยตัวแอปนี้อำนวยมาก ๆ กับการทำงานร่วมกับเพื่อนไม่ว่าจะเป็นคู่ หรือกลุ่มก็สามารถร่วมทำงานกับแบบออนไลน์ได้ และยังสามารถกลับมาแก้ไขได้ขณะออฟไลน์ได้ทุกเมื่อ ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเพื่อน ๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่างานจะหาย หรือลืมกดเซฟหรือเปล่า เพราะแอพจะบันทึกข้อมูลทุกอย่างไว้อัตโนมัติขณะที่พิมพ์ และยังสามารถค้นหาข้อมูลได้โดยตรงจากทางแอพ เมื่อทำงานเสร็จก็เลือกบันทึกเป็น Word และ PDF ได้เลย สะดวกสุด ๆ 5.Google slide แอปนี้มีหลักการการทำงานเหมือนกับแอปข้างบนเลย เพื่อน ๆ ก็ย้อนกลับไปดูได้ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจะพูดถึงความต่างกันของแอปเล็กน้อย ซึ่งแอปนี้ทำไว้เพื่อการทำพรีเซ้นท์โดยเฉพาะ และทำงานได้กับ PowerPoint ในการทำสไลด์ก็มีเทมเพลตให้เพื่อน ๆ เลือกสำหรับคนที่คิดไอเดียไม่ออก มีตัวอักษรให้เลือกมากมาย และแทรกวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหวได้ จุดเด่นของแอปนี้คือสามารถนำเสนอได้ทางแฮงเอาท์วิดีโอ แบบเปิดกล้องและไมโครโฟน โดยการประชุมที่กำหนดเวลาไว้จะปรากฏขึ้นอัตโนมัติ 6.Scanner Pro แอปนี้สำหรับสแกนเอกสารจากกระดาษ ไม่ว่าจะเป็นชีทหรือหนังสือ เพียงแค่เปิดแอปแล้วกดถ่ายรูปเท่านั้น ง่ายและสะดวกมาก ๆ โดยพอได้ภาพมา ตัวแอปก็จะมีการประมวลผลภาพให้ดูดีขี้นกว่าต้นฉบับของความผิดเพี้ยนและรูปทรงโดยอัตโนมัติ ให้ภาพไม่บิดเบี้ยว เพิ่มความชัด หรือทำเป็นสีขาวดำได้ และรองรับได้มากสูงสุดกว่า 21 ภาษา เมื่อบันทึกเอกสารแล้ว ก็สามารถแชร์หรืออัปโหลดไปยัง Sync iCloud Dropbox, Google Drive และ เครื่องปริ้นเตอร์ ได้ โดยสามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไขงานได้ทุกเมื่อ ซึ่งง่ายดายและรวดเร็วมาก เป็นอีกแอพหนึ่งที่เพื่อน ๆ ควรมีติดเครื่อง ลิ้งค์ดาวน์โหลด : https://apps.apple.com/th/app/scanner-pro-pdf-scanner-app/id333710667?l=t 7.Liner แอปนี้เป็นเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องทำรายงาน หาข้อมูลและเนื้อหาเป็นจำนวนมาก ไว้สำหรับไฮไลท์ keyword สำคัญ ผ่านบราวเซอร์ Safari หรือ Google Chrome ได้หลาย ๆ เว็บไซต์เพื่อมาดูภายหลัง โดยมีปากกาให้เลือกหลากสี ในแต่สีจะสามารถแยกหมวดหมู่ของข้อความได้ด้วย ข้อความที่ไฮไลต์จะถูกบันทึกอย่างเป็นระเบียบภายในแอป หรือเพื่อน ๆ จะแบ่งเป็น Folder ในหัวข้อหมวดหมู่ต่าง ๆ เพื่อให้ดูง่ายมากยิ่งขึ้นก็ได้ ตัวแอปนี้ก็ยังรองรับการ Sync ข้อมูลทั้งอุปกรณ์บนมือถือและเดสก์ท็อป ในการโอนย้ายข้อมูล ส่วนสำหรับใครที่ไฮไลต์มาเยอะและกลัวจะลืม เค้าก็มีฟังก์ชัน comment ให้เพิ่มความคิดเห็นและข้อความ เพื่อเตือนตวามจำ ที่สำคัญ จุดเด่นของ Liner คือ ฟังก์ชัน Look up ไว้สำหรับหาความหมายของศัพท์แปลก ๆ ที่เราไม่รู้และศัพท์เฉพาะทางได้ในตัวแอปได้เลย ไม่จำเป็นต้องคัดลอกไปแปลในแอปอื่นให้ยุ่งยาก และยังสามารถแชร์ข้อความได้ผ่านทาง Line , facebook , Message ได้ด้วย แต่สำหรับใครที่กลัวลืมก็ Export ออกมาเป็นไฟล์ออกมาเป็น Word หรือ ส่ง E-mail ได้เหมือนกัน ลิ้งค์ดาวน์โหลด :https://apps.apple.com/th/app/liner-highlighter-for-web/id955395198?l=th 8.Pinterest เป็นแอปที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเรียนโดยตรง แต่เป็นแอปสำหรับไว้มองหาไอเดียสร้างสรรค์ ไม่ว่าเป็นแฟชั่น คติ การออกกำลังกาย ท่องเที่ยว แต่งบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย จากทั่วทุกมุมโลกมาอยู่ในตัวแอป ในแบบของรูปภาพและวิดีโอ สำหรับใครที่ชอบโพสต์ไหน ก็สามารถบันทึกเข้าบอร์ดของตนเองไว้ดูภายหลัง ได้ทุกเมื่อ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานหรือทำรายงาน ถ้าใครว่าง ๆ ก็สามารถมาดูเพื่อผ่อนคลายในสิ่งที่ตนชอบก็ได้ เพราะเค้ามีหลายหลาย ตรงความต้องการของเพื่อน ๆ แน่นอน รับรองว่าถ้าเข้าเปิดเข้าแอปแล้วจะต้องดูไปเรื่อย ๆ หยุดไม่ได้แน่นอน ลิ้งค์ดาวน์โหลด :https://apps.apple.com/th/app/pinterest/id429047995?l=th 9.Grammarly แอปนี้เป็นแอปช่วยเรียนที่ดีมาก สำหรับใครที่กำลังเรียนหรือต้องการใช้ภาษาอังกฤษในการพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การทำรายงาน สมัครงาน หรืออื่น ๆ หรือถ้าใครที่รู้สึกว่าไม่แม่นหรือไม่มั่นใจในประโยคที่ตนเองพิมพ์ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะแอปนี้จะช่วยในการแก้ปัญหาเหล่านี้ ในการตรวจสอบคำผิด และแกรมม่าแบบอัตโนมัติในขณะที่เรากำลังพิมพ์ เมื่อเราโหลดแอปนี้มาต้องติดตั้งเข้ามาเพิ่มเป็นเหมือนอีกภาษาในแป้นพิมพ์ ในการเรียกใช้ก็ง่ายมาก เพียงแค่กดที่เปลี่ยนภาษา ซึ่งเป็นแอปนึงที่เราแนะนำว่าควรมีติดเครื่องไว้มาก ทั้งง่าย สะดวก และลดเวลาในการเข้าไปเช็คในหลาย ๆ แอป ลิ้งค์ดาวน์โหลด :https://apps.apple.com/th/app/grammarly-keyboard/id1158877342?l=th 10. Zoom สำหรับใครที่กำลังอยู่ในวัยเรียน วัยทำงาน เราเชื่อว่าต้องมีแอปนี้ไว้ในเครื่องแน่นอน เพราะตอนนี้หลาย ๆ องค์กร เปลี่ยนมาเรียนและทำงานกันแบบออนไลน์ ซึ่งแอปนี้จะเป็นแอปไว้สำหรับการประชุมกลุ่มที่จุได้สูงสุด 100 คน พร้อมกัน โดยที่ Share Screen ให้คนอื่น ๆ เห็นได้ในการพรีเซ้นท์ และสามารถส่งข้อความคุยกันได้แบบออนไลน์ ถ้ายังไม่ต้องการพูดระหว่างนั้นก็สามารถปิดกล้องและไมโครโฟนได้ และยังมีฟีเจอร์เพื่อเพิ่มความสนุกในการวิดีโอคอล โดยการเลือกพื้นหลังที่เราชอบจากคลังรูปภาพในเครื่องได้ตามโอกาสและความชอบ หรือถ้าเป็นเรื่องสำคัญและอยากเรียนทบทวนทีหลัง ตัวแอปก็สามารถ Record เก็บไว้ดูภายหลังได้เช่นกัน โดยจะแยกเซฟไฟล์ เช่น ไฟล์คลิป ไฟล์เสียง เป็น mpeg, mp3 ให้อัตโนมัติ ลิ้งค์ดาวน์โหลด : https://apps.apple.com/th/app/zoom-cloud-meetings/id546505307?l=th ขอบคุณภาพจาก App Store