อื่นๆ
10 เรื่องตราตรึงพ่อลูก 2020
ในยุคสมัยที่สังคมเปลี่ยนไปจากเมื่อ 20 ปีก่อนอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักคือการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่รวดเร็วเสียจนคุณพ่อบางคนตกยุคตกสมัยไปเลย เรื่องราวหรือที่จะถ่ายทอดทั้งหมดเกิดขึ้นจากการได้พูดคุยกับคุณพ่อที่หลากหลายสถานภาพ จนกลายมาเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำและตรึงใจของคุณพ่อหลาย ๆ ท่าน เราจึงอยากจะขอแชร์ไฮไลท์ 10 เรื่องราวที่ประทับตราตรึงใจระหว่างคุณพ่อกับลูก ๆ ดังต่อไปนี่้
- การเดินเล่น การเดินเล่นกับลูก ๆ เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ แต่น่าจดจำมาก ๆ ระยะทางที่เดินไปจะผ่านสิ่งของต่าง ๆ มากมาย เช่น ต้นไม้ ร้านค้า รถยนต์ เพื่อนบ้าน สัตว์เลื้ยงที่หลากหลาย ถ้าคุณพ่อได้เดินเล่นไปกับลูก ๆ ในเส้นทางเดิม ๆ จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ของลูก ๆ พ่อบางคนเล่าว่าการเดินเล่นกับลูก ๆ นั้นช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก ๆ ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมันเสริมกำลังใจให้กับคนเป็นพ่อได้อย่างน่าเหลือเชี่อ
- การเล่านิทาน หากคุณพ่อท่านใดสามารถเล่านิทานได้เก่งและสนุกอยู่แล้วจะรู้ดีว่าการที่ได้รับการตอบกลับและการต่อล้อต่อเถียงของลูก ๆ จะเป็นภาพที่ตรึงใจและน่าอัศจรรย์ใจที่ได้เห็นแนวคิด แนวการพูด แนวการปฏิบัติตอบรับ อย่างเป็นธรรมชาติของบรรดาลูก ๆ แต่คุณพ่อท่านใดไม่ถนัดเล่านิทานหรือเล่าไม่เป็นเราขอแนะนำเป็นร้องกลอนสั้น เช่น คุณพ่อร้องว่า "ค้างคาวเอยจะไปสวนไหน......สวนไหนดีน้า......(รอให้ลูก ๆ แย่งกันตอบ) ไปสวนทุเรียนค่ะ(ลูกสาวคนรองตอบ)...ลูกชายคนเล็กอาจจะพูดแทรกว่าสวนทุเรียนมันอยู่ระยองต้องขึ้นรถไป บินไปไม่ไหวหรอก... เป็นการเล่าผ่านการถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบไร้เดียงสา คุณพ่อก็รับฟังแล้วแสดงความคิดเห็นและอธิบายอย่างอ่อนโยน ลูกอาจยังไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพ่ออธิบายอันนี้แหละสำคัญ เพราะจะมีคำถามตามมาจากบรรดาลูก ๆ จนตอบไม่ทันกันเลยทีเดียว การแลกเปลี่ยนพูดคุยหรือเล่าเรื่องจะทำให้คุณพ่อสังเกตเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างในตัวลูก ๆ แต่ละคน การร้องกลอนสั้นวนไปเรื่อย ๆ จากสวนทุเรียนก็ไปที่อื่น ๆ บ้าง นี่แหละที่คุณพ่อท่านหนึ่งเล่าให้เราฟังและลูก ๆ ของเค้าก็ชอบการร้องกลอนสั้นของพ่อคนเดียว คนอื่นมาร้องให้ฟังก็ไม่เหมือนคุณพ่อร้อง
- การร้องเพลง กิจกรรมร้องเพลงและเต้นเข้าจังหวะไปด้วยนั้นช่วยให้เด็กสนุกกับจังหวะและคำร้องที่สนุกสนาน เป็นการพัฒนาพลังด้านบวกในตัวของเด็ก ๆ ดังนั้นการร้องเพลงร่วมกันจึงเป็นกิจกรรมที่ดีมากสำหรับลูก ๆ ใช่ครับการร้องเพลงคงไม่ใช่บัญหาของคุณพ่อสายเอนเตอร์เทนแน่นอน แต่สำหรับคุณพ่อบางท่านต้องยอมรับครับว่าเรื่องร้องเพลงยากกว่าร้องไห้เสียอีก แต่เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการร้องเพลงให้มากนัก เราไปดูข้อต่อไปกันเลย
- การเล่นต่อคำ การเล่นต่อคำนั้นเป็นการเล่นที่ไม่มีสูตรหรือวิธีการที่ตายตัวมีหลากหลายแนวมากและปรับประยุกต์ได้หลากหลาย แต่เราขอเสนอแนวที่น่าสนใจ จากคุณพ่อท่านหนึ่งบอกเล่าให้เราฟังซึ่งดูแล้วเป็นแนวเฉพาะทางที่น่าสนใจ วิธีการคือคุณพ่อจะบอกลูกว่าถ้าเราทำแบบนี้แล้วจะเกิดอะไรต่อไปบ้าง เช่น จะสอนลูกเรื่องการแปรงฟันก่อนนอน คุณพ่อก็จะพูดว่าถ้าเราแปรงฟันทุกวันจะดียังไง.....(เป็นคำบอกเล่ากึ่งคำถาม) พูดแล้วหยุดให้ลูกพูดตามความคิดของเค้าต่อไป ไม่ว่าจะผิดหรือถูกคุณพ่อก็ต้องรับฟัง ซึ่งสิ่งที่ลูกพูดต่อจะเป็นสิ่งที่คุณพ่อได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างในตัวลูก และคุณพ่อสามารถนำไปเป็นแนวทางในการดูแลลูก ๆ ได้เป็นอย่างดี
- การเล่นสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำ คุณพ่อท่านหนึ่งชอบเล่นน้ำกับลูก ๆ ในสระว่ายน้ำเป็นประจำและได้เล่าว่าการเล่นน้ำก็เหมือนกับการเล่นของเล่นที่ปรับรูปแบบได้หลากหลายเนื่องจากน้้ำเป็นของที่เปลี่ยนสภาพไปมาได้มากมาย แต่การเล่นในอ่างน้ำหรือสระน้ำคุณพ่อต้องใกล้ชิดมากเป็นพิเศษ เพราะมีข้อต้องระวัง เช่น ลูก ๆ จมน้ำ ลื่นล้มขอบสระหรือขอบอ่าง เล่นมากก็อาจมีไข้ ดังนั้้นคุณพ่อทั้งหลายต้องพึงระวังให้มาก ๆ
- การเล่นชิงช้า คุณพ่อจากต่างจังหวัดท่านหนึ่งเล่าว่าลูก ๆ ชอบเล่นชิงช้ากับพ่อมาก ๆ โดยเฉพาะถ้าชิงช้านั้นทำขึ้นด้วยฝีมือคุณพ่อและอยู่ใต้ต้นไม้ที่ร่มรื่น การได้เล่นชิงช้ากับลูกๆใต้ต้นไม้ข้างบ้าน มันเป็นการทำกิจกรรมที่มีความสุขมากเพราะมีองค์ประกอบให้จดจำคือชิงช้าที่พ่อทำ ต้นไม้ข้างบ้านเรา คุณพ่อและลูก ๆ องค์ประกอบทั้งหมดมันยอดเยี่ยมมาก บางครั้งคุณพ่อต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน ลูก ๆ ยังคงเล่นชิงช้าของคุณพ่อเพื่อรอคอยการกลับมาของคุณพ่อทุกวัน ครั้งหนึ่งลูกพูดกับคุณพ่อว่าเล่นชิงช้ากับใครก็ไม่สนุกเหมือนเล่นกับคุณพ่อ นั่นคือความทรงจำที่ตราตรึงใจมากที่สุด คุณพ่อท่านหนึ่งกล่าว
- การวาดรูป การวาดรูปของเด็ก ๆ เกิดขึ้นตามจินตนาการที่ไม่มีการปรุงแต่งเป็นภาพวาดที่น่ารักที่สุดของลูก คุณพ่อท่านหนึ่งซึ่งเป็นชาว ฮ่องกงเล่าให้เราฟัง ภาพวาดเขียนเล่นด้วยดินสอสีตามผนังบ้านคือสิ่งที่คุณพ่อท่านนี้จดจำและประทับใจ ต่อให้มีผลงานศิลปะราคาหลายล้านมากมายก็เทียบไม่ได้กับรอยขีดเขียนบนฝาผนังฝีมือลูก ๆ คุณพ่อท่านนี้ปล่อยให้ลูก ๆ ได้ขีดเขียนตามผนังบ้านราคาแพง ๆ ได้ตามอำเภอใจ ซึ่งเค้าเองจะหาเวลาว่างมาร่วมขีดเขียนกับลูก ๆเสมอ เมื่อเค้าย้อนกลับดูภาพเหล่านั้นเค้าจะนึกภาพทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เสมอ ทุกวันนี้คุณพ่อท่านนี้อายุ 60 ปี ยังคงเก็บรอยขีดเขียนของลูก ๆ ที่ผนังบนห้องทำงานและห้องอื่น ๆ ไว้ตลอดมา
- การทำอาหาร คุณเทียนคือคุณพ่อชาวพม่าที่มาทำงานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังเรื่องราวการทำอาหารให้ลูก ๆ ได้รับประทาน มีอยู่ครั้งหนึ่งคุณเทียนกลับมาจากทำงาน ถามลูก ๆ ว่ากินข้าวกันแล้วหรือยังและลูก ๆ ก็ตอบว่ายังไม่ได้กิน เทียนสำรวจในครัวมีเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียงสองห่อ เค้าจึงต้มน้ำแล้วตั้งใจจะทำบะหมี่ให้ลูก ๆ ได้กินเป็นมื้อค่ำ ขณะนั้นเองลูกชายคนโตอายุประมาณ 3-4 ขวบเดินเข้ามาในครัวพร้อมไข่ไก่ 3 ฟอง แล้วพูดว่า พ่อครับต้มไข่ด้วยนะครับ ซึ่งคุณเทียนสังเกตเห็นรอยแม่ไก่จิกที่ข้อมือจึงเดาได้ว่าลูกชายคนโตคงไปแย่งไข่มาจากแม่ไก่ใต้ถุนบ้าน จึงตอบกลับไปว่างั้นเรามาช่วยกันต้มบะหมี่ใส่ไข่ดีกว่านะ ครับพ่อ ลูกชายคนโตขานรับแล้ววิ่งออกไปข้างบ้าน สักพักวิ่งกลับเข้ามาพร้อมตำลึงและรอยหนามขีดข่วนที่ขา สรุปแล้วมื้อนั้นเทียนกับลูกชายคนโตก็ช่วยกันทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ใส่ไข่และใบตำลึง แม้เป็นเรื่องเล่าสนุก ๆ ของคุณพ่อกรรมกรชาวพม่าคนหนึ่งแต่เราสังเกตได้ถึงแววตาที่ปลื้มปิติที่ได้เล่าเรื่องราวนี้ เราคิดว่าคุณพ่อเทียนเองคงไม่มีวันลืมอาหารมื้อนั้นเช่นกัน
- การปิคนิคนอกบ้าน แม้ว่าการที่เราพาลูก ๆ ไปรับประทานอาหารนอกบ้านในร้านอาหารดี ๆ สามารถเป็นการแสดงถึงการเป็นคุณพ่อที่ดีและเพียบพร้อม ด้วยความสามารถในการหาปัจจัยต่างมารองรับความต้องการของลูกได้อย่างครบครันในปัจจุบัน แล้วเมื่อย้อนมองอดีตตัวเองเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก การที่พ่อพาเราและน้องชายนั่งรถซาเล้งเก่า ๆ เตรียมน้ำ ข้าว ไข่เจียว น้ำพริกปลาร้า และ แตงกวา ออกจากบ้านไปทำงานที่ฟาร์มวัวนม พอถึงช่วงพักกลางวันพ่อพาเราสองพี่น้องไปนั่งกินข้าวใต้ต้นไม้ในฟาร์ม และพ่อก็เก็บกระถิน กับยอดมะยมข้างฟาร์มมากินแกล้มน้ำพริก ความรู้สึกสมัยวัยเด็กมันดีจนอธิบายไม่ถูกจนถึงทุกวันนี้ ใช่แล้วมันคือการไปปิคนิคนอกบ้านที่น่าจดจำไม่มีวันลืมของคุณพ่อ น้องชาย และตัวเรานั่นเอง
- การตั้งเต็นท์ก่อกองไฟ เจมส์คุณพ่อวิศวกรชาวอเมริกัน เล่าให้ฟังถึงกิจกรรมสไตล์ผจญภัยของตัวเค้าและลูก ๆ เจมส์เล่าว่าช่วงวันหยุดฤดูร้อนเค้าพาลูก ๆ ไปพักกลางเต็นท์ และก่อกองไฟย่านสวนป่าห่างจากบ้านประมาณ 4-5 ไมล์ โดยไม่รู้เลยว่าบริเวณนั้นเป็นถิ่นอาศัยของเสือคูก้า หรือสิงโตภูเขา ในเวลาพลบค่ำเจมส์ได้ยินเสียงหวีดร้องของภรรยาดังมาจากข้างในเต้น จึงรีบวิ่งไปดูทันใดนั้นเองเค้าเห็นภาพเสือคูก้าวัยรุ่นกำลังกระโดดตะปบหยอกล้อฟัดเหวี่ยงกับลูกชายคนเล็กอยู่ เค้ากล่าวว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นการฝึกล่าเหยื่อของเสือวัยรุ่น ทันใดนั้นเจมส์จับพลั่วสนามได้และทุบไปที่กลางหลังของเสือวัยรุ่น เสือร้องดังลั่นวิ่งกระโจนหนีไปทางหลังเต็นท์ เจมส์กระโจนไปโอบกอดลูกไว้ โชคยังดีที่มีแค่รอยถลอกจากกรงเล็บที่หน้าเล็กน้อย เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ลูก ๆ มองคุณพ่อเจมส์เป็นฮีโร่ที่ได้ต่อสู้กับเสือ เพื่อพิทักษ์ครอบครัว นั่นก็คือสิ่งที่ทำให้เค้าภูมิใจและไม่มีวันลืมแคมป์ปิ้งครั้งนั้นเลย คุณพ่อเจมส์เล่าต่อว่าถ้าวันนั้นเปลี่ยนจากลูกเสือวัยรุ่นเป็นแม่เสือวัยฉกรรจ์แล้วล่ะก็ อะไรจะเกิดขึ้นก็ยากจะคาดเดาได้ และจริง ๆ จุดประสงค์การไปแคมป์ของเจมส์และครอบครัวคือการได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างเค้าและลูก ๆ ให้แนบแน่นมากขึ้น แต่ก็ควรจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของครอบครัวเป็นสิ่งแรก เจมส์กล่าว
Advertisement
Advertisement
นอกจากกิจกรรมทั้ง 10 อย่างที่มีเรื่องราวน่าจดจำและตราตรึงใจระหว่างคุณพ่อและลูก ๆ แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอย่างดี ๆอย่างอื่นที่เราอยากสนับสนุนให้คุณพ่อได้พาลูก ๆ ไปทำร่วมกัน เพราะเราคิดว่าสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวเป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่โอกาสที่ยิ่งใหญ่ของลูก ๆ ต่อไปในอนาคต
ภาพปกโดยhttps://www.pexels.com / ภาพที่1โดยhttps://www.pexels.com
ภาพที่2โดยhttps://www.pexels.com / ภาพที่3โดยhttps://www.pexels.com
ภาพที่4โดยhttps://www.pexels.com / ภาพที่5โดยhttps://www.pexels.com
ภาพที่6โดยhttps://www.pexels.com /ภาพที่7โดยhttps://www.pexels.com
ภาพที่8โดยhttps://www.pexels.com / ภาพที่9โดยhttps://www.pexels.com
ภาพที่10โดยhttps://www.pexels.com
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น