การถนอมอาหารมีมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยโบราณที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ในสมัยนั้นยังไม่มีตู้เย็นที่จะเก็บรักษาอาหารไว้บริโภคได้เป็นเวลานาน จึงคิดค้นวิธีที่จะกักเก็บเพื่อยืดอายุอาหารไว้ได้นาน ๆ โดยไม่สูญเสียคุณภาพและยังคงโภชนาการการใกล้เคียงของเดิม ไม่บูด ไม่เสีย ไม่เน่า ในปัจจุบันจึงมีวิธีการถนอมอาหารหลากหลายวิธีสามารถทำได้เองและง่ายมาก เรามาดูเคล็ดลับวิธีถนอมอาหาร 10 เคล็ดลับ ที่สาว ๆ อย่างเราทำได้สบายมาก ขอบคุณภาพ by veerasantinithi from pixabay 1.การถนอมอาหารโดยวิธีการดองเค็ม อาหารที่นิยมนำมาดองเค็มเป็นจำพวกเนื้อสัตว์และผัก ขั้นตอนการทำก็ไม่อยากเลย ต้มน้ำส้มสายชู และเกลือให้เดือดปรุงรสเค็มจัด ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ใส่วัตถุดิบที่จะดอง เช่น ไข่เค็ม ปูเค็ม ปลาเค็ม ลงในขวดโหล กรองน้ำเกลือที่ต้มแล้วลงไป ตั้งทิ้งไว้ 7 - 10 วัน แต่ถ้าหากเป็นกะปิ จะหมักทิ้งไว้ประมาณ 45 วันถึงจะนำมารับประทานได้ ขอบคุณภาพ by edwina_mc from pixabay 2.การถนอมอาหารโดยวิธีการดองเปรี้ยว การดองเปรี้ยวจะนิยมนำผักมาดอง เช่น ผักเสี้ยน ถั่วงอก กะหล่ำปลี โดยการนำผักมาล้างให้สะอาดขยำกับเกลือคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำลงเรียงในขวดโหลหรือภาชนะที่ต้องการดอง ปิดฝาอย่าให้อากาศเข้าหมักทิ้งไว้ 4 - 7 วัน นำมารับประทานได้ ขอบคุณภาพ by AKuptsova from pixabay 3.การถนอมอาหารโดยวิธีการดองสามรส การดองสามรสคือ มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมนำผักมาดองอย่าง เช่น กระเทียม ขิง ผักกาดเขียวแตงกวา ขั้นตอนการทำคือล้างผักแล้วนำผักมาคลุกเคล้ากับเกลือ หลังจากนั้นต้มน้ำผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือต้มให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็น นำผักเรียงในภาชนะแล้วนำน้ำมาราดลงบนผักปิดฝาทิ้งไว้ 2 - 3 วันก็นำมารับประทานได้ ภาพโดยผู้เขียน : มะม่วงเบาดอง 4.การถนอมอาหารโดยวิธีการดองหวาน การดองหวานจะนิยมนำผักและผลไม้มาดองอย่างเช่นมะม่วง มะละกอ หัวผักกาด กะหล่ำปลีโดยการต้มน้ำตาล น้ำส้มสายชู เกลือ ให้มีรสหวานนำทิ้งไว้ให้เย็น นำมาราดบนผักผลไม้ ทิ้งไว้ 2 - 3 วันนำมารับประทานได้ ภาพโดยผู้เขียน : แป้งข้าวหมาก 5.การหมักดองที่ใช้ยีสต์เป็นตัวช่วยให้เกิดแอลกอฮอล์ คือการหมักอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล อย่างเช่นข้าวหมาก ไวน์ โดยการนำยีสต์ (ลูกแป้ง) มาผสมกับวัตถุดิบในสัดส่วนที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป มิเช่นนั้นจะเมาได้ ขอบคุณภาพ by moerschy from pixabay 6.การถนอมอาหารโดยการทำให้แห้งด้วยการตาก เป็นการนำความชื้นให้ออกจากอาหารมากที่สุดส่วนใหญ่จะนิยมนำเนื้อสัตว์ผักและผลไม้อย่างเช่น เนื้อเค็ม ปลาเค็ม พริกแห้ง และอาหารทะเล ขั้นตอนการทำคือล้างวัตถุดิบให้สะอาด แล้วนำมาตากแดด อาจจะเพิ่มรสชาติด้วยการหมักกับเกลือ ทำให้อาหารไม่เกิดการบูดเน่าอีกด้วย ขอบคุณภาพ by flyupmike from pixabay 7.การถนอมอาหารโดยการทำให้แห้งด้วยการย่าง การย่างเป็นการใช้พลังงานจากความร้อนคล้ายกับการทำให้แห้งด้วยการตากแดดแต่เปลี่ยนจากแสงแดดเป็นไฟ จะนิยมใช้กับปลาย่างซึ่งอาหารจะเก็บไว้นานเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับว่าจะทำให้ความชื้นหรือน้ำระเหยออกไปได้มากน้อยแค่ไหน หากออกไปได้เยอะก็จะเก็บรักษาได้นาน ถ้ายังชื้นอยู่ก็อาจจะเกิดการบูด เน่าเสียได้ง่าย ขอบคุณภาพ by MarkusHendrich from pixabay 8.การถนอมอาหารโดยการรมควัน การรมควันเป็นการทำให้แห้งเช่นกัน แต่จะเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติแปลก มีนิยมกันมากในปัจจุบันการรมควันโดยวิธีธรรมชาติซึ่งทำได้ในครอบครัวคือการสุมไฟด้วยกาบมะพร้าวและขี้เลื่อย โดยให้แขวนอาหารไว้เหนือกองไฟ ใช้ไฟอ่อน ๆ เพื่อรมควันอาหารไปพร้อมกับไอร้อน จะช่วยทำให้อาหารแห้งเร็ว เช่น รมควันปลาและเนื้อ ภาพโดยผู้เขียน : กล้วยฉาบ 9.การถนอมอาหารด้วยวิธีการฉาบ นิยมนำผักผลไม้เช่น กล้วย เผือก และมัน ที่ออกตามฤดูจนไม่สามารถรับประทานได้ทัน มาหั่นบาง ๆ ทอดจนสุก เคี่ยวน้ำตาลจนงวด นำผักผลไม้ที่ทอดสุกแล้วลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว พักไว้ให้เย็น ใส่ขวดโหลไว้รับประทาน หรือฉาบเกลือ นำเกลือมาโรยแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน อร่อยไปอีกแบบเค็ม ๆ มัน ๆ ภาพโดยผู้เขียน : แยมมัลเบอรี่ 10.การถนอมอาหารด้วยการกวน นิยมนำผลไม้ที่สุกมากมากวนโดยใช้ความร้อน อาจจะเติมน้ำตาลหรือไม่เติมก็ได้ ถ้ากวนจนแห้งนิยมใช้ผลไม้จำพวกมะม่วง สับปะรด กล้วย ทุเรียน หรือกวนทำแยม โดยใช้ไฟอ่อน คนสม่ำเสมอ จนได้ที่ เช่น ส้ม มัลเบอรี่ สตอเบอรี่เป็นต้น จากเคล็ดลับการถนอมอาหารทั้ง 10 เคล็ดลับ คงไม่ยากเกินไปใช่มั้ยคะ? คราวนี้หากมีอาหารชนิดไหนเยอะ ๆ ผัก ผลไม้ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ไม่มีที่เก็บ จะทิ้งก็เสียดาย ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปทำกันดู แล้วก็อย่าลืมมารีวิวด้วยนะคะ