อื่นๆ

10 อันดับงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

49.3k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
10 อันดับงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

รูปภาพปกจาก : https://pixabay.com/th/

10 อันดับงูพิษที่ดุร้ายและอันตรายที่สุดในโลก ที่สามารถดับชีวิต เหยื่อได้ภายในไม่กี่นาที จะมีงูอสรพิษตัวไหนบ้างมาดูกัน

งู นั้นเป็นหนึ่งในสัตว์สายพันธุ์ที่น่ากลัวที่สุด แม้งูจะมีทั้งสายพันธุ์ที่มีพิษและไม่มีพิษ แต่ขึ้นชื่อว่างูก็ยังน่ากลัวอยู่ดี โดยเฉพาะเจ้างูทั้ง 10 สายพันธุ์ดังต่อไปนี้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอสรพิษ ที่มีพิษร้ายที่สามารถดับชีวิตมนุษย์ได้เพียงไม่กี่นาที มาดูกันว่า 10 อันดับงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดมีงูสายพันธุ์ไหนบ้าง

10. งูเดธ เเอดเดอร์ (Death Adder)

งูเดธ แอดเดอร์รูปภาพจาก :https://pixnio.com/

งูเดธ เเอดเดอร์ พบได้ในออสเตรเลียเเละนิวกินี มีลักษณะคล้ายงูไวเปอร์ ด้วยลักษณะร่างกายสั้นป้อมและมีหัวรูปสามเหลี่ยม มีเกล็ดขนาดเล็ก มันเป็นงูที่ล่างูด้วยกันเอง ในการกัดเเต่ละครั้ง งูเดธ เเอดเดอร์ จะปล่อยพิษออกมา 40-100 มิลลิกรัม ซึ่งประกอบด้วยสารพิษร้ายเเรง 0.4-0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม งูเดธ แอดเดอร์ นั้นเป็นที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก เพราะพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาท จะทำให้เหยื่อไม่สามารถขยับร่างกายได้ และอาจเสียชีวิตภายใน 6 ชั่วโมงหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เนื่องจากระบบการหายใจล้มเหลว โดยเหยื่อจะแสดงอาการจากพิษงูหลังถูกกัดภายใน 24-28 ชั่วโมง ทั้งนี้ งูเดธ เเอดเดอร์ นับเป็นงูที่มีความเร็วในการฉกสูงที่สุดในโลก โดยสามารถฉกครั้งที่สองได้ในเวลา 0.13 วินาที

Advertisement

Advertisement

9. งูไวเปอร์ (Vipers)

งูไวเปอร์รูปภาพจาก : https://pixabay.com/

งูในวงศ์ไวเปอร์ (Viperidae) เป็นงูพิษที่พบได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก เว้นแต่ที่ แอนตาร์กติกา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ มาดากัสการ์ และฮาวาย บรรดางูไวเปอร์นั้นสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและออกหากินในเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาหลังฝนตก พวกมันเลื้อยได้เร็วมาก แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดของงูพิษไวเปอร์นั้นก็คือพิษที่สามารถก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ โดยเริ่มจากการปวดในบริเวณที่ถูกกัด ตามมาด้วยอาการบวมในทันที มักจะพบว่าเหยื่อมีเลือดออกโดยเฉพาะจากเหงือก ความดันโลหิตลดลงและอัตราการเต้นของหัวใจไม่ทำงาน ซึ่งนำไปสู่ความตายในที่สุด

8. งูเห่าฟิลิปปินส์ (Philippine Cobra/Northern Philippine Cobra)

งูเห่าฟิลิปปินส์รูปภาพจาก : https://pixabay.com/

ถึงเเม้ว่างูเห่าส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีพิษร้ายพอที่จะเข้ามาอยู่ในรายชื่อได้ เเต่งูเห่าฟิลิปปินส์นั้นคือข้อยกเว้น เมื่อวัดความร้ายเเรงของพิษกันหยดต่อหยดเเล้ว งูเห่าฟิลิปปินส์นั้นมีพิษร้ายเเรงที่สุดในหมู่งูเห่าด้วยกันเเละมันสามารถยาวได้ถึง 3 เมตร พิษของมันนั้นเป็นพวกนิวโรท๊อกซินที่มีผลต่อการทำงานของหัวใจเเละระบบหายใจ ซึ่งพิษของงูเห่าฟิลิปปินส์ทำให้เกิดระบบประสาทเป็นพิษ, ระบบหายใจไม่ทำงานเเละตายภายใน 30 นาที เเต่พิษของมันนั้นทำความเสียหายเเก้เนื้อเยื่อน้อยมาก นิวโรท๊อกซินนั้นหยุดการส่งสัญญาณของระบบประสาทด้วยการไปบล๊อกจุดต่อของกล้ามเนื้อประสาท อาการของผู้ที่ถูกงูเห่าฟิลิปปินส์กัดนั้นได้เเก่ ปวดหัว, คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดที่ลำตัว, ท้องเสีย, มันหัว, ชักกระตุกเเละตาย ถึงเเม้ว่างูเห่าส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีพิษร้ายพอที่จะเข้ามาอยู่ในรายชื่อได้ เเต่งูเห่าฟิลิปปินส์นั้นคือข้อยกเว้น เมื่อวัดความร้ายเเรงของพิษกันหยดต่อหยดเเล้ว งูเห่าฟิลิปปินส์นั้นมีพิษร้ายเเรงที่สุดในหมู่งูเห่าด้วยกันเเละมันสามารถยาวได้ถึง 3 เมตร พิษของมันนั้นเป็นพวกนิวโรท๊อกซินที่มีผลต่อการทำงานของหัวใจเเละระบบหายใจ ซึ่งพิษของงูเห่าฟิลิปปินส์ทำให้เกิดระบบประสาทเป็นพิษ, ระบบหายใจไม่ทำงานเเละตายภายใน 30 นาที เเต่พิษของมันนั้นทำความเสียหายเเก้เนื้อเยื่อน้อยมาก นิวโรท๊อกซินนั้นหยุดการส่งสัญญาณของระบบประสาทด้วยการไปบล๊อกจุดต่อของกล้ามเนื้อประสาท อาการของผู้ที่ถูกงูเห่าฟิลิปปินส์กัดนั้นได้เเก่ ปวดหัว, คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดที่ลำตัว, ท้องเสีย, มันหัว, ชักกระตุกเเละตาย

Advertisement

Advertisement

7. งูเสือ (Tiger Snake)

งูเสือรูปภาพจาก : https://australianmuseum.net.au/

งูเสือ เป็นงูพิษที่มักจะพบได้ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย รวมถึงหมู่เกาะชายฝั่งทะเล แม้ว่าสีสันของงูเสือค่อนข้างจะสวยงาม แต่พิษของมันนั้นคงทำให้เราอยากจะรีบถอยห่างออกไปไกล ๆ เพราะพิษของงูเสือสามารถทำให้ผู้ที่ถูกกัดเสียชีวิตได้ภายใน 30 นาที แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน 6-25 ชั่วโมงก็ตาม ความรุนแรงของพิษงูทำให้ก่อนมีการพัฒนาเซรุ่ม เหยื่อที่ถูกงูเสือกัดมีอัตราเสียชีวิตอยู่ถึง 60-70% เลยทีเดียว

6. งูแบล็กแมมบา (Black Mamba)

งูแบล็กแมมบารูปภาพจาก : https://pixabay.com/

งูแบล็กแมมบายังได้ถูกจัดให้เป็นงูที่อันตรายและเป็นงูพิษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา ด้วยความเป็นงูที่หากินบนพื้นเป็นหลัก คล่องแคล่วว่องไว อีกทั้งยังเป็นงูที่ไม่กลัวมนุษย์ มีอุปนิสัยดุร้ายก้าวร้าว เมื่อปะทะกับมนุษย์ซึ่ง ๆ หน้า จะไม่หลบหนีเหมือนงูชนิดอื่น ๆ

Advertisement

Advertisement

โดยคำว่า "แมมบา" นั้น หมายถึง "โลงศพ" เนื่องจากมีส่วนหัวแลดูคล้ายโลงศพของชาวตะวันตก ซึ่งชื่อนี้มีนัยถึงถึง "ความตายที่มาเยือน" พิษของงูแบล็กแมมบานั้นถือว่าร้ายแรงมาก ถูกจัดให้เป็นงูที่มีพิษอันตรายมากที่สุดติด 1 ใน 10 อันดับของโลก ก่อนหน้าที่จะมีการพัฒนาเซรุ่มแก้พิษนั้น ผู้ที่โดนกัดจะถึงแก่ความตายทั้งหมด โดยการกัดครั้งหนึ่งจะปล่อยพิษออกมาประมาณ 100-250 มิลลิกรัม มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง

ผู้ที่ถูกกัดจะเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวในเวลาเพียง 20 นาที แต่โดยเฉลี่ยคือ 2-4 ชั่วโมง จากความล่าช้าของการรักษา งูแบล็กแมมบาสามารถที่จะฉกกัดได้อย่างว่องไว และสามารถขู่ แผ่แม่เบี้ย และชูหัวได้เหมือนกับงูเห่า หรืองูจงอาง ซึ่งอยู่ร่วมวงศ์กัน แม้จะไม่ใหญ่เท่า แต่ก็สามารถฉกและชูหัวได้สูงถึง 2 เมตร เลยทีเดียว

5. งูไทปัน (Taipan)

งูไทปันรูปภาพจาก : https://unsplash.com/

งูไทปัน เป็นสกุลของงูในวงศ์งูพิษเขี้ยวหน้า (Elapidae) ใช้ชื่อสกุลว่า Oxyuranus เป็นงูที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นงูกลุ่มที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก มีลำตัวยาวโดยประมาณ 2-3.6 เมตร ลักษณะลำตัวมีสีน้ำตาลปนดำ มักอาศัยอยู่ตามซอกหินในทะเลทรายของประเทศออสเตรเลียพิษของงูสกุลนี้เป็นที่เลื่องลือในประเทศออสเตรเลียเป็นอย่างมาก ด้วยความเร็วในการออกฤทธิ์ ของพิษที่ไปทำลายระบบประสาท ภายในเวลา 45 นาที และการกัดแต่ละครั้งสามารถฆ่ามนุษย์ได้มากถึง 100 คน นับว่ามีพิษมากกว่างูเห่าถึง 50 เท่า เชื่อว่าการที่งูไทปันต้องมีพิษร้ายแรงแบบนี้ เป็นผลมาจากการวิวัฒนาการเพื่อฆ่าได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงมาก ซึ่งเหมาะสมเป็นอย่้างมากสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทราย ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ แห้งแล้ง ในน้ำพิษจะประกอบไปด้วย สารนิวโรท็อกซิน (neurotoxins) ซึ่งจะไปทำลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โปรตีนโปรโคอะกูเลนท์ (procoagulants) ทำลายระบบเลือดโดยทำให้เลือดไม่แข็ง แผลที่กัดจะมีเลือดไหลตลอดเวลา สารไมโทซิน (myotoxins) ทำลายระบบกล้ามเนื้อ

4. งูทับสมิงคลา (Blue Krait)

งูทับสมิงคลารูปภาพจาก : https://www.thainationalparks.com/

งูทับสมิงคลา หรืองูทับทางขาว เป็นงูพิษอันตรายถึงแก่ชีวิต ลักษณะเด่นคือ ลำตัวมีลายขาวสลับดำ ส่วนท้องมีสีขาว เกล็ดที่แถวกลางของลำตัวจะเป็นรูปหกเหลี่ยมมีขนาดใหญ่กว่าเกล็ดข้างลำตัว มีความใกล้เคียงกับ งูปล้องฉนวนบ้าน ซึ่งมีสีขาวสลับดำเช่นกัน แต่เป็นงูไม่มีพิษ และเกล็ดที่แถวกลางของลำตัวจะไม่เป็นรูปหกเหลี่ยม งูทับสมิงคลามีความว่องไวปราดเปรียว และดุร้ายกว่างูสามเหลี่ยม ออกหากินเวลากลางคืน โดยจับกบ เขียด งูขนาดเล็กกินเป็นอาหาร พบได้ทุกภาคของประเทศไทย แต่พบน้อยทางภาคเหนือและภาคตะวันตก อาการหลังถูกกัด เริ่มแรกอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศรีษะ ตามัว ชารอบปาก ก่อนจะมีอาการทางระบบประสาท คือ ผู้ป่วยจะลืมตาไม่ขึ้น พูดไม่ชัด กลืนน้ำลายไม่ได้ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก นอกจากนี้บริเวณที่ถูกกัดจะ"ไม่เกิดอาการบวมและไม่เกิดเนื้อตาย" หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ผู้ที่ถูกกัดได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลว

3. งูสีน้ำตาลตะวันออก (Eastern Brown Snake)

งูสีน้ำตาลตะวันออกรูปภาพจาก : https://pixabay.com/


งูสีน้ำตาลตะวันออก 1 ในงูพิษร้ายแรงติดอันดับโลก สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว ปราดเปรียว มีนิสัยดุร้าย และมักจะชอบไล่ตามเหยื่อและมีการโจมตีครั้งแล้วครั้งแล่า แม้แต่งูสีน้ำตาลตะวันออกที่มีอายุน้อยก็สามารถฆ่าคนได้ พิษของมันมีผลทั้งต่อระบบประสาท และมีผลต่อการแข็งตัวของโลหิต พบได้มากในย่านที่อยู่อาศัยของออสเตรเลีย

2.  งูไทปันโพ้นทะเล (Inland Taipan)

งูไทปันโพ้นทะเลรูปภาพจาก : https://pixabay.com/

งูไทปันมีการแพร่พันธุ์อย่างกว้างขวางในประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ และแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการขยายพันธุ์ในช่วงฤดูร้อน โดยงูเพศเมียจะวางไข่ราว 10-15 ฟอง และใช้เวลาฟักเป็นตัวราว 6 สัปดาห์ ส่วนพิษของงูไทปันนั้น เชื่อกันว่า ร้ายเเรงที่สุดในหมู่งูที่อาศัยอยู่บนบก และยังพบว่า ปริมาณพิษที่มากที่สุดที่งูไทปันโพ้นทะเลเคยปล่อยออกมา คือ 110 มิลลิกรัม ร้ายเเรงพอที่จะฆ่าคนได้ราว 100 คน หรือ หนู 250,000 ตัว ซึ่งรุนแรงกว่าพิษงูเห่าถึง 50 เท่า และพิษของงูไทปันยังออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาทอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 45 นาที เท่านั้น

1. งูทะเล (Sea Snake)

งูทะเลรูปภาพจาก : https://pixabay.com/

งูทะเล นับได้ว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในโลก โดยพิษของงูทะเลเพียงไม่กี่มิลลิกรัมก็มีฤทธิ์มากพอที่จะสังหารมนุษย์ได้ถึง 100 คนแล้ว การกัด 1 ใน 4 ครั้งมักจะมีพิษ อย่างไรก็ตาม งูทะเลนั้นมีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างจะเชื่องช้า โดยชาวประมงมักจะตกเป็นเหยื่อถูกงูทะเลกัดมากที่สุด เนื่องจากมักจะพบงูสายพันธุ์นี้ติดขึ้นมากับอวนหาปลาในมหาสมุทร งูทะเลสามารถพบได้ทั่วน่านน้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางตอนเหนือของออสเตรเลีย สำหรับพิษของงูทะเลนั้นมีความรุนแรงต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของงูทะเล โดย Dubois' seasnake นับเป็นงูทะเลที่มีพิษร้ายมากที่สุด


ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก

ภาพจาก : https://pixabay.com/

ภาพจาก : https://pixabay.com/

ภาพจาก : https://pixabay.com/

ภาพจาก : https://pixabay.com/

ภาพจาก : https://www.thainationalparks.com/

ภาพจาก : https://pixabay.com/

ภาพจาก : https://australianmuseum.net.au/

ภาพจาก : https://pixabay.com/

ภาพจาก : https://pixnio.com/

ภาพจาก : https://unsplash.com/


คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์