การไปเที่ยวชมอุทยานทาโรโกะที่ฮัวเหลียนนั้นไม่ยากอย่างที่คิด จากการหาข้อมูลทาง เว็บไซต์ ทำให้รู้ว่าต้องจองตั๋วอย่างไร ในช่วงไหน ถึงแม้ขั้นตอนจะชวนสับสนแต่ก็สนุกดี เนื่องจากมีเวลาเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น และเป็นการเดินทางแบบไปกลับระหว่างเมือง ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าสถานที่ที่จะไปนั้น ต้องใช้เวลานานมากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นเลยตัดสินใจเดินทางกันแต่เช้า เพื่อให้สมดุลกับเวลาตอนกลับ เราจองตั๋วรถไฟขาไปออกหกโมงเช้า ถึงแปดโมง ขากลับออกจากที่ฮัวเหลียนสี่โมงเย็นมาถึงไทเปหนึ่งทุ่ม จะได้ไม่ดึกจนเกินไปพอถึงวันเดินทาง หลังจากนั่งรถไฟมาถึงสถานีที่ฮัวเหลียน ก็เดินออกมาหาที่ซื้อตั๋วรถบัสสำหรับเที่ยวชมอุทยานทาโรโกะ ตั๋วที่ว่าจะเป็นแบบเหมาจ่าย 1 วัน ในราคา 250 หยวน คุ้มดี สำหรับไปไม่กี่คน ตั๋วนี้มาสามารถใช้ขึ้นรถเมล์ที่วนรอบอุทยาน และสถานที่ท่องเที่ยวๆที่น่าสนใจรอบๆอุทยานได้เราเริ่มจากจุดที่หนึ่ง หาดชีซิงทาน (七星潭) ก่อน นี่เป็นจุดที่เราสนใจมากที่สุด ดูรูปในหนังสือท่องเที่ยวแล้วรู้สึกสนใจมากๆ น้ำทะเลสีฟ้าสวยมาก แต่ทว่า ในช่วงเวลาที่เราเดินทางไปนั้น ไม่ใช่ช่วงที่ฟ้าเปิดเท่าไรนัก อากาศช่วงเมษาที่ฝนตกทั้งวัน ทำให้ฟ้ามืดครึ้ม และลมก็แรง แต่ก็ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ หาดที่นี่เค้าพิเศษตรงที่หาดเป็นหาดหินค่ะ หลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจนั่งรถบัสยาวๆ ไปเริ่มที่จุดสุดท้าย แล้วค่อยเที่ยวจากหลังมาหน้า ระหว่างทางจะได้สำรวจสถานที่คร่าวๆด้วย วิวสองข้างทางระหว่างนั่งรถบัสก็ถือว่าคุ้มพอควร เนื่องจากข้างในอุทยานยิ่งลึกยิ่งสูง หน้าผายิ่งชัน และวิวก็สวยมาก เห็นแม่น้ำสีเขียวมรกตไหลลงมาด้วยสถานที่แรกที่เรามานั้นมีแลนด์มาร์กเป็นวัดที่อยู่บนเขา แล้วก็มีร้านเซเว่น และห้องน้ำ รวมถึงร้านอาหารอื่นๆ อยู่ที่นี่ด้วย คล้ายๆเป็นจุดพักรถ เมื่อลงจากรถแล้ว จากนั้นเราต้องเดินไปข้ามสะพานสองสะพาน ถึงจะไปถึงวัดค่ะข้างใต้สะพานมีแม่น้ำสีเขียวใสสวยมาก อากาศก็เย็นๆ ทั้งสะพานแล้วก็วัด ต่างก็มีบรรยากาศที่ชวนดึงดูด ตรงทางเข้าวัดจะมีศาลาใหญ่ๆอยู่ หลังจากนั้นก็มีบันไดขึ้นไป แต่ว่าเราไม่ได้ขึ้นไปถึงข้างบนเลยไม่รู้ว้างในวัดมีอะไรบ้าง จำได้ว่าตอนนั้นหนาวมาก ต้องทำเวลาด้วย เลยเดินชมรอบๆ แค่ศาลาทางเข้า แล้วก็ขึ้นบันไดไปนิดหน่อย จากนั้นก็เดินไปรอรถบัสไปชมจุดอื่นต่อเลยจุดต่อมาคือที่ป้ายนี้ Yanzikou (燕子口) เนื่องจากเราเดินทางจากหลังมาหน้า เพราะฉะนั้นสถานที่ท่องเที่ยวจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้ายรถที่เราขึ้น-ลงนะคะ เมื่อข้ามมาอีกฝั่งก็จะได้เห็นสะพานสองสะพานที่เชื่อมภูเขาสองลูก น่าเสียดายที่ตอนนั้น เขาไม่เปิดให้ข้ามสะพาน อาจจะเพราะฝนตก พื้นมันลื่น อาจจะเป็นอันตรายได้นี่คือทางเข้าของ Yanzikou ค่ะ ข้างในไม่ได้มืดมากอย่างที่คิด มีช่องให้แสงลอดเข้ามา และเห็นวิวข้างล่างชัดเลยค่ะ เราชอบแม่น้ำของที่นี่มาก เป็นสีฟ้าอมเขียวดูสะอาดตา แถมตอนนั้นฝนลงเม็ดปรอยๆ อากาศเย็นๆท่ามกลางภูเขา และยิ่งเห็นวิวแบบนี้ก็พลอยรู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้นไปอีก อันที่จริงแล้วตรงนี้จากพื้นข้างล่างตรงแม่น้ำเนี่ย สูงไม่ใช่เล่นๆนะนี่คือสุดทางสำหรับ Yanzikou ของเรา ไม่แน่ใจว่าสามารถเดินจากตรงนี้ไปต่อที่อื่นได้ไหมนะคะจากตรงนี้เห็นถนนลอดภูเขาอีกจุดนึง ข้างๆกันก็มีศาลาสีแดงๆอยู่ ตรงนั้นเป็นจุดพักค่ะ มีห้องน้ำให้เข้าด้วยหลังจากเดินชมจนพอใจเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินกลับไปที่ป้ายรถเมลล์ ใช่แล้วค่ะ เดินกลับไปที่เดิม ที่ๆลงรถเมลล์นั่นแหละ ระวังอย่าขึ้นผิดฝั่งด้วยนะคะ ต้องดูดีๆ เพราะทั้งสองฝั่งมีป้ายเหมือนกัน จุดที่เราจะไปลงเป็นจุดต่อไป และเป็นจุดสุดท้ายสำหรับทาโรโกะด้วย คือ Changshun Shrine (長春祠步道) ขึ้นรถแล้วลงป้ายถัดไปได้เลย จุดนี้มีแลนด์มาร์กเป็นศาลาวัดที่มีน้ำตกเล็กไหลออกมา ท่ามกลางภูเขาสูง จุดนี้เป็นอีกจุดมาร์กที่ต้องไปชมเลยมาถึงแล้วค่ะ พอลงจากป้ายมา เดินไปตรงจุดชมวิว ก็จะเห็นวิวแบบนี้เลยค่ะ สวยมากๆ จากท่ารถเราต้องเดินข้ามสะพานแล้วถึงจะเจอทางเข้า ทางเข้าเป็นถ้ำเล็กๆ เดินแปปเดียวก็ถึงแล้วค่ะ เมื่อเข้าถ้ำไปก็จะเจอพระพุทธรูปค่ะ จากนั้นเราต้องเดินต่อไปตามทางเข้าถ้ำจากมุมข้างในนี้เราจะสามารถเห็นท่ารถ และคาเฟ่ตรงจุดที่เราลงรถได้ รวมทั้งเห็นภูเขาเรียงรายข้างหลังด้วยข้างในก็จะเป็นศาลาสีแดงสวย มีทางเดินสองชั้น เป็นแบบวนกลับ ตอนเข้ามาเราเดินข้างล่าง แล้วพอขึ้นบันไดไป ก็จะเป็นทางเลี้ยวกลับออกไปข้างนอก และมีน้ำตกเล็กๆไหลลงลอดศาลาลงข้างล่างไปรวมกับแม่น้ำค่ะหลังจากชมจุดนี้เสร็จ เราเดินกลับมาที่ป้ายรถเมลล์เพื่อรอรถ หลังจากเช็กตารางเวลารถแล้ว และพบว่าต้องรออีกนาน เลยเข้าไปนั่งรอที่คาเฟ่ที่ให้บริการอยู่ด้านล่าง มีห้องน้ำด้วยค่ะ หลังจากขึ้นรถอีกครั้งเราก็นั่งยาวๆตรงกลับไปที่สถานีรถไฟ เพื่อรอรถไฟกลับเลย เนื่องจากอาจจะไม่ทันขบวนได้ ที่นั่นก็แวะซื้อหาหารทานเล่นในเซเว่นที่สถานีรอรถไฟนี่คือตั๋วรถไฟของที่นี่ค่ะ ดูวินเทจดีหลังจากขึ้นรถไฟ เราก็หลับกันยาวๆเลยค่ะ ขากลับเราใช้เวลาราวๆสามชั่วโมงถึงจะถึงไทเป มาทาโรกะ เดินเยอะมาก เหนื่อยมาก แต่ก็สนุกมากเช่นกันค่ะหวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ^^ สวัสดีค่ะ ภาพทั้งหมดโดยนักเขียน