เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับแข้งใหม่สิงห์บลู ไค ฮาเวิร์ตซ์ จากห้างขายยา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน แห่งบุนเดสลีกาเยอรมัน แม้จะไม่เปิดเผยค่าตัวอย่างเป็นทางการแต่คาดว่าอยู่ในราว 71 ล้านปอนด์ ระดับเดียวกับ เกปา อาร์ริซาบาลากา ที่ถือเป็นสถิติค่าตัวแพงระยับของสโมสร พร้อมกับคำถามของแฟนบอลหลายคนสงสัยว่าฮาเวิร์ตซ์ คนนี้เป็นใคร ทำไมเชลซีของ แฟรงค์ แลมพาร์ด รวมถึงอีกหลายทีมก่อนหน้านั้นถึงต้องยอมทุ่มค่าตัวแพงเพื่อที่จะได้นักเตะวัยเพียงแค่ 21 ปี มีประสบการณ์ในทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่แค่ 7 นัดมาร่วมทีม จะพาทุกท่านไปไขคำตอบกันว่า ไค ฮาเวิร์ตซ์ มีดีอย่างไร และจะคุ้มค่ากับเงินที่เชลซีจ่ายไปหรือไม่ในแบบฉบับเจาะลึก นักเตะดาวรุ่งที่มีพัฒนาการเร็วที่สุด ฮาเวิร์ตซ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะอายุน้อยที่มีสถิติแบบน่าทึ่ง ไล่มาตั้งแต่ได้ขึ้นสู่ชุดใหญ่ของเลเวอร์คูเซนในวัยเพียง 17 ปี 126 วัน และลงสนามครบ 50 นัดตอนอายุ 18 ปี 307 วัน ทำลายสถิเดิมของ ติโม แวร์เนอร์ และปัจจุบันยังไม่มีนักเตะคนไหนทำลายสถิตินี้ลงได้ คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของเยอรมันตอนอายุ 17 และ 19 ปี ติดทีมชาติเยอรมันในระดับ U16 , U17 , U19 จน โยอาคิม เลิฟ บอกว่าไม่ต้องติด U21 ละ ขึ้นมาชุดใหญ่เลยตอนอายุ 19 ปี แม้จะมีสถิติกับชุดใหญ่แค่ 7 นัดแต่อย่าลืมว่าโควิด-19 ทำเอาทีมชาติไม่ได้เตะมาร่วมปี บวกลบคูณหารแล้ว ไค ฮาเวิร์ตซ์ ถือได้ว่าก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมในช่วงอายุที่เร็วมาก เมื่อเทียบกับนักเตะรุ่นเดียวกัน มาเชลซีจะไหวไหม? ไค ฮาเวิร์ตซ์ ถูกตั้งคำถามทันที เพราะตำแหน่งที่ถนัดของเค้าคือกองกลางตัวรุก แต่สามารถโยกฉีกออกมาทางขวาได้ กลางเชลซีตัด เอ็นโกโล ก็องเต้ ที่ยังไงถ้าฟิตสมบูรณ์ต้องลงเป็นตัวจริง จะเหลือโควตาที่ต้องแย่งกับ จอร์จินโญ่ กองกลางทีมชาติอิตาลี ที่ปักหลักเป็นตัวจริงทำผลงานได้ดีในฤดูกาลที่ผ่านมา แถมยังมี มาเตโอ โควาซิช ที่เล่นได้อย่างประทับใจแฟนบอล ตัวเก่าหนักพออยู่แล้ว เชลซียังได้ตัว ฮาคิม ซีเยค กองกลางโมร็อกโกจากอาแจ็กซ์ที่เซ็นสัญญากันไปล่วงหน้า ค่าตัว 40 ล้านยูโรที่ก็ไม่น่าจะซื้อมานั่งสำรอง ยังไม่นับดาวรุ่งเดิมที่มีอยู่อย่าง เมสัน เมานท์ , บิลลี กิลมอร์ หรือแม้แต่ รูเบน ลอฟตัส-ชีค น่าสนใจว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด จะจัดทีมอย่างไร วิเคราะห์แล้วขุมกำลังแดนกลางเดิมที่มีอยู่ บวกกับการมาของ ฮาคิม ซีเยค ที่ชัดเจนในตำแหน่งกองกลาง ความเป็นไปมากที่สุดในการเหลือพื้นที่ว่าให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ได้ลงสนามคือตัวกองหน้าฝั่งขวาในระบบ 4-3-3 ประสานงานกับ ทีโม แวร์เนอร์ ที่มาจากบุนเดสลีกาด้วยกัน เคยเจอกันมาในสนามน่าจะพอรู้สไตล์การเล่นกันมาบ้าง หรือดันขึ้นเป็นกลางรุก ไม่ก็หน้าต่ำไปเลยในระบบ 4-2-3-1 ที่แลมพาร์ดนิยมใช้ในระยะหลัง และอย่าลืมว่าฮาเวิร์ตซ์ เล่นให้กับเลเวอร์คูเซน 118 นัด ยิงไปถึง 36 ประตู ถือว่าไม่ธรรมดาในเรื่องทักษะการพังประตู ขอเดาใจว่าแลมพาร์ดต้องการใช้ร่างกายที่สูง 189 เซนติเมตร มาเสริมความอันตรายของลูกกลางอากาศ ถ้าจินตนาการจัดทีมที่มี ก็องเต้ – ซีเยค - โควาซิซ ประสานงานแดนกลาง ข้างหน้าเป็น แทมมี – แวร์เนอร์ – ฮาเวิร์ตซ์ ฝั่งซ้ายมี เบน ชิลเวลล์ ขึ้นมาเติมเกมส์ แฟนเชลซีบอก ขอเปิดฤดูกาลพรุ่งนี้เลยได้มั้ย.. บทสรุป ค่าตัว 72 ล้านปอนด์ถือว่าคุ้มค่าตัว เพราะถ้าไม่ใช่ช่วงโควิด-19 ที่หลายทีมต้องรัดเข็มขัด ไม่แข่งกันทุ่มแบบแรง ๆ ค่าตัวของฮาเวิร์ตซ์ระดับว่าที่ตัวสำคัญของทีมชาติเยอรมัน จะไม่อยู่ที่ราคานี้แน่นอน และสไตล์การเล่นแบบไม่เก็บบอลอยู่กับตัวนาน ฉลาดจ่ายบอล ร่างกายที่แข็งแกร่ง จะเอาตัวรอดในเวทีพรีเมียร์ลีกได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ในระยะยาวจะประสบความสำเร็จกับเชลซีหรือไม่คือคำถาม เพราะอย่าลืมว่า บาเยิร์น มิวนิค ก็จ้องตาเป็นมันเช่นกันแต่ยังต้องรักษาสภาพทางการเงินไม่พร้อมทุ่มซื้อ บางทีเชลซีอาจเป็นเพียงทางผ่าน เมื่อบาเยิร์นต้องการยากที่นักฟุตบอลเยอรมันคนไหนจะปฏิเสธ จึงเป็นเรื่องต้องติดตามว่าในอนาคต เชลซีจะรั้งตัวนักเตะไว้ได้ในระยะยาวหรือไม่ การเสริมตัวผู้เล่นอย่างเต็มพิกัดของเชลซีจะทำให้ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้จะซัดกันแบบไฟแล่บ ไม่ง่ายสำหรับลิเวอร์พูล ไม่ง่ายสำหรับแมนซิตี้ และไม่ง่ายสำหรับใครแน่นอน เป็นเรื่องที่เราต้องติดตามว่าพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้จะเข้มข้นสักแค่ไหน โปรดติดตาม.. อัปเดตเรื่องราวในวงการฟุตบอล และกีฬาทั่วโลกได้ที่ sport.trueid.net และวันหน้ามาติดตามเรื่องราวการวิเคราะห์ที่น่าสนใจแบบนี้กันได้อีกครับ 🤗.. ภาพประกอบโดย instagram official ภาพปก 1,2 / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 1,2 / ภาพที่ 4