ไลฟ์แฮ็ก
<แนะนำ> 🌍 เที่ยวรอบโลกอย่างไร แบบได้ประสบการณ์
( cr. https://unsplash.com/photos/3NCA3tbaE5I)
การท่องเที่ยวไม่ได้ให้เราได้แค่ความสนุก เพลิดเพลินเท่านั้น แต่เรายังได้ประสบการณ์นอกห้องเรียน วัฒนธรรมแปลกใหม่ พบเจอคนหลากหลายเชื้อชาติ พูดภาษา รวมไปถึงศาสนาด้วย การท่องเที่ยวเป็นเหมือนการเปิดโลกทัศน์ มุมมองใหม่ ๆ ผลักขีดจำกัดของเราออกไป ความกลัวต่าง ๆ ที่เราต้องก้าวข้ามเพื่อจะได้พัฒนาตัวเอง
ซึ่งการออกไปท่องเที่ยวนั้นมีหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ปัจจัยทางด้านการเงิน และเวลาของแต่ละคน ความสะดวกของคนเรานั้นมันไม่เหมือนกัน บางคนทำงานประจำ ลาได้ไม่ถึงอาทิตย์ บางคนลาได้เป็นเดือน ๆ หรือลาออกไปเลย ( 555 ) วันนี้เลยขอมาแนะนำ การเที่ยวรอบโลกอย่างไรแบบได้ประสบการณ์ สะดวกแบบไหน เอาที่เราสบายใจเลยค่ะ
มาเริ่มกันที่วิธีแรกเลยค่ะ
- Wwoofing ( World Wide Opportunities on Organic Farms )
Advertisement
Advertisement
(cr. https://unsplash.com/photos/1hxgFZ68xZ4 )
ชื่อก็บอกว่า Organic farms งานส่วนใหญ่จะเป็นการทำงานในฟาร์ม โดยการสมัครใจของทั้งเรา และโฮส จะเสียค่าสมัครสมาชิกเพื่อจะได้เป็นสมาชิก และส่งจดหมายแนะนำตัวไปกับโฮสที่เราสนใจจะไปทำงานด้วย เราสามารถเลือกประเทศที่จะไปได้ และที่ ๆ อยากจะไปทำงานอาสา จะได้ที่พักฟรี อาหารฟรี ทำงานกับโฮส ปัจจุบันมีงานอื่น ๆ เสริมด้วยเช่น เลี้ยงเด็ก ฝึกภาษา เฝ้าเกสต์เฮ้าส์ ค่ายภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่ทำงานศูนย์ท่องเที่ยว ( tourist centre ) ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีีที่เราจะได้ซึมซับวัฒนธรรม ใช้เวลากับคนท้องถิ่น ฝึกภาษา ได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ มากมาย แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะด้วยค่ะ
เพิ่มเติม : https://wwoof.net/
2. Work and Travel
Advertisement
Advertisement
โครงการ Work and Travel นั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักศึกษาที่อยากจะมีประสบการณ์ช่วงปิดเทอมไปทำงานและท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดยระยะเวลาจะอยู่ที่ 3-4 เดือน มีโครงการมากมายให้เลือกในปัจจุบัน แถมถ้าเราสามารถหานายจ้างได้เอง จ่ายแค่ค่าโครงการราว ๆ 30,000 บาทเท่านั้นเอง อะไรจะถูกขนาดนั้น แต่ว่าส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายจะสูงในแรกเริ่ม แต่ถ้าเราตั้งใจทำงาน เก็บเงินเต็มที่ เผลอ ๆ ได้เงินเก็บกลับมาและเงินสำหรับท่องเที่ยวในอเมริกาด้วยค่ะ แน่นอนว่าประเทศที่นิยม เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ใครสนใจลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ข้างล่างค่ะ
เพิ่มเติม : https://www.ef.co.th/pg/work-and-travel/
https://www.oeg.co.th/work-and-travel-usa
3. HelpX ( Help Exchange )
Advertisement
Advertisement
เฮลพ์เอ็กซ์ ( HelpX ) จะมีค่าสมัคร 20 Euro ต่อ 2 ปี โดยจะเป็นการทำงานแลกกับที่พักและอาหาร มีประเทศให้เลือกมากมาย แล้วแต่ว่าเราสะดวกจะไป และวีซ่าที่อยู่ได้ จะไม่มีเรื่องเงินตอบแทนค่ะ งานก็จะมีตั้งแต่ สอนภาษา ทำงานในฟาร์ม โฮสเทล เลี้ยงเด็ก ช่วยงานต่าง ๆ หรือสร้างบ้านในชนบทเอย เลือกตามที่เราชอบ อยากพัฒนาตัวเองด้านไหน ฝึกตัวเอง หรืออยากพัฒนาภาษา ก็ไปประเทศที่เราอยากไปเลยค่ะ
เพิ่มเติม : https://www.helpx.net/
4. Workaway
(cr. freepik )
Workaway คล้าย ๆ กับ HelpX ค่ะ ทำงานแลกที่อยู่และอาหาร สามารถเลือกประเทศได้ และงานที่เราถนัด เช่น งานในโฮสเทล ฟาร์ม สอนภาษา เลี้ยงเด็ก อื่น ๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ค่ะ จะมีค่าสมัครอยู่ที่ 22 euro/2 ปี ดังนั้นควรวางแผนไว้ หากเราสมัครไว้แต่ไม่ได้ออกไปเที่ยวก็เสียเปล่าค่ะ
เพิ่มเติม : www.workaway.info
5. Au pair ออแพร์ หรือ เลี้ยงเด็ก
( cr. wikipedia )
โครงการเลี้ยงเด็กนั้นคล้ายๆ กับ Work and Travel แต่จะต้องมีคุณสมบัติบางอย่าง เช่น ต้องมีใบขับขี่ ขับรถเป็น เคยเลี้ยงเด็กมาบ้าง มีประสบการณ์ด้านดูแลเด็กมากก่อน ภาษาอังกฤษใช้ได้ หากคุณเข้าข่ายพวกนี้และชื่นชอบการดูแลเด็ก ก็เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจ นอกจากจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนท้องถิ่นแล้ว ยังได้ประสบการณ์เลี้ยงเด็ก หากมีเวลาว่างก็ได้เที่ยวเมืองอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้เงินค่าตอบแทนอีกต่างหาก ถ้าคุณมีทุนทรัพย์เพียงพอค่าสำหรับสมัครและเวลาที่เหมาะสม ก็ลองสมัครค่ะ คิดว่าน่าสนุกเหมือนกัน
เพิ่มเติม :
http://www.american-learning.com/au-pair/about-au-pair/
https://www.culturalcare.co.th/being-an-au-pair/the-au-pair-program
http://www.aupairthailand.org/
6. Couchsurfing
( cr. freepik )
Couchsurfing เป็นเว็บไซต์ที่เราหาโฮสเพื่อให้ที่พักฟรีกับเรา ไม่ว่าจะเป็นห้องฟรี ซฟา หรือพื้นที่ว่างในบ้านให้เราเข้าพัก นอกจากนั้นยังสามารถนัดเจอคนท้องถิ่นประเทศนั้น ๆ เพื่อเป็นการพบปะ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับนักท่องเที่ยว ไอเดียของ couchsurfing นั้นอยู่บนพื้นฐานการแบ่งปัน ( sharing ) แต่การเลือกโฮสนั้นสำคัญมาก ๆ โดยผู้หญิงเดินทางคนเดียว ควรอ่านรีวิวของคนที่เข้าพักก่อนหน้านี้เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ ความปลอดภัยในการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ
เพิ่มเติม : https://www.couchsurfing.com/
7. Blablacar บลาบลาคาร์
(cr. wikipedia )
เราได้มีโอากาสใช้บลาบลาคาร์หลายครั้งตอนช่วงท่องเที่ยวในยุโรป เป็นการหาคนเดินทางไปด้วยโดยแชร์ค่าใช้จ่าย เจ้าของรถจะโพส บอกเส้นทางบนเว็บไซต์บลาบลาคาร์ ปัจจุบันมีหลายประเทศในยุโรป หากเราจะเดินทางไปทางเดียวกัน เราก็แค่จองและจ่ายเงินพร้อมกับส่งข้อความแนะนำตัวไป ตามวันเวลาเดินทางที่เจ้าของรถโพสไว้ค่ะ ทำให้เราประหยัดไปได้เยอะ แถมบางทียังได้เพื่อนร่วมเดินทางใหม่ ๆ แลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ เรื่องราวต่าง ๆ รวมไปถึงทริคของเมืองนั้น ๆ ยิ่งถ้าเป็นคนท้องถิ่นด้วย ได้คำแนะนำดี ๆ อีกต่างหาก ใครมายุโรปก็ลองใช้บริการบลาบลาคาร์ดูนะคะ รับรองว่าสะดวกและไม่แพงสำหรับการเดินทางในประเทศหรือข้ามประเทศ
เพิ่มเติม : https://www.blablacar.com/
8. Airbnb
( cr. pixabay )
Airbnb นั้นเป็นการที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ หรือบ้านนำที่อยู่ตัวเองมาเปิดรับนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทาง โดยจะมีลักษณะเหมือนพักกับคนท้องถิ่น นอกจากจะได้ราคาไม่แพงแล้วเผลอ ๆ ยังได้พบกับโฮสต์ที่ทำให้ทริปเราเป็นทริปพิเศษ ทำอาหารให้ทาน ได้พูดคุยเกี่ยวกับเมืองและได้พักในบริเวณที่เหมือนคนท้องถิ่นอาศัยอยู่ เหมือนอยู่บ้านนั่นแหละค่ะ ลองใช้ดูนะคะ บริการจาก Airbnb
เพิ่มเติม : https://th.airbnb.com/
ความคิดเห็น