TOEIC การสอบเพื่อวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ มักจะใช้ในการสมัครงาน หรือ ใช้เป็นเกณฑ์ในการวัดภาษาอังกฤษสำหรับเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท หรือ ใช้เพื่อแทนคะแนนภาษาอังกฤษในการสำเร็จการศึกษา การจะสอบให้ได้คะแนนปัง ๆ แน่นอนว่าต้องมีเคล็ดลับแน่ ๆ วันนี้แอดจะแชร์เคล็ดลับสอบ TOEIC ซึ่งแอดได้ใช้เทคนิคนี้กับตัวเองแล้วมันปังมาก จึงอยากมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ฟังกันTOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication เป็นข้อสอบที่ทำขึ้นมาเพื่อวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ สอบ TOEIC มีด้วยกัน 2 แบบ คือ Listening & Reading Test กับ Speaking & Writing Test แต่แบบแรกเป็นแบบที่ได้รับความนิยมในการสอบมากกว่า วันนี้จึงจะกล่าวถึงเทคนิคของการสอบแบบแรกให้อ่านกันค่ะข้อสอบ TOEIC แบบ Listening & Reading มีด้วยกันทั้งหมด 200 ข้อแบ่งเป็น Listening 100 ข้อและ Reading 100 ข้อ ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง คะแนนจะอยู่ระหว่าง 10 - 990 คะแนนข้อสอบ Listening มีทั้งหมด 100 ข้อ 45 นาที คะแนนเต็ม 495 คะแนน นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 Part ดังนี้Listening Part 1 : มีทั้งหมด 6 ข้อ ในกระดาษคำตอบข้อ 1-6 ในแต่ละข้อจะมีตัวเลือก A, B, C, D (ตัวเลือกเปล่าไม่มีเขียนข้อความ) คู่กับรูปภาพ 1 ภาพ และในแต่ละข้อเราจะได้ยินเสียงพูด 4 ครั้ง ครั้งละประโยคเชื่อมโยงกับตัวเลือก A, B, C, D ตามลำดับ ให้เลือกประโยคคำตอบที่ใกล้เคียงกับรูปภาพที่สุด และเวลาทำข้อสอบ Listening Part 1 ถ้าทำได้ให้ดูรูปภาพก่อนจะได้ยินประโยคที่พูด และลองจินตนาการว่าประโยคที่จะได้ฟังต่อไปใกล้เคียงกับรูปแค่ไหน ตัวอย่างจากรูปต่อไปนี้(A) He's adjusting his tie. (B) He's standing next to a tree. (C) He's checking the time. (คำตอบที่ถูกต้อง) (D) He's taking his shoe off. Listening Part 2 : มีทั้งหมด 25 ข้อ (ข้อ 7-31) ในกระดาษคำตอบจะมีตัวเลือก A, B, C (ตัวเลือกเปล่าไม่มีเขียนข้อความ) ในแต่ละข้อเราจะได้ยินประโยคคำถามหรือประโยค 1 ครั้ง และจะได้ยินประโยคตอบโต้ตามตัวเลือก A, B, C ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เช่นคำถาม What time is the team meeting? (A) The meeting room is on the right. (B) Yes, everyone was talented. (C) I think it's at ten. (คำตอบที่ถูกต้อง) เวลาทำข้อสอบ Listening Part 2 ให้ตั้งใจฟังให้ดี เมื่อได้ยินคำถามหรือประโยคลองจินตนาการดูก่อนว่าคำตอบควรเป็นอะไรListening Part 3 : มีทั้งหมด 39 ข้อ (ข้อ 32 - 70) ข้อสอบในส่วนนี้จะเป็นบทสนทนาระหว่างคน 2 คน บางบทสนทนามีภาพประกอบ หนึ่งบทสนทนาสำหรับข้อสอบ 3 ข้อ และในกระดาษคำตอบของแต่ละข้อจะมีประโยคคำถามและคำตอบที่เชื่อมโยงกับบทสนทนาที่ได้ยิน ถ้าสามารถอ่านคำถามคำตอบก่อนที่จะได้ยินบทสนทนา จะช่วยให้พอเดาคำตอบได้ดีกว่าการฟังอย่างเดียวแล้วค่อยอ่านคำถามคำตอบListening Part 4 : มีทั้งหมด 30 ข้อ (ข้อ 71 - 100) เป็นบทพูดสั้น ๆ ของผู้พูดหนึ่งคน เช่นเสียงประกาศทางรถไฟ เสียงประกาศสนามบิน เสียงในสปอตโฆษณา เป็นต้น ประมาณ 10 ประโยค หนึ่งบทพูดสำหรับข้อสอบ 3 ข้อ ในกระดาษคำตอบของแต่ละข้อจะมีประโยคคำถามและคำตอบที่เชื่อมโยงกับบทพูดที่ได้ยิน เช่นกันกับ Part 3 ถ้าสามารถอ่านคำถามคำตอบก่อนที่จะได้ยินบทพูด จะช่วยให้พอเดาคำตอบได้ดีกว่าการฟังอย่างเดียวแล้วค่อยอ่านคำถามคำตอบข้อสอบ Reading มีทั้งหมด 100 ข้อ 75 นาที คะแนนเต็ม 495 คะแนน นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 Part ดังนี้Reading Part 1 : มีทั้งหมด 30 ข้อ (ข้อ 101-130) ข้อสอบจะเป็นประโยคและเว้นให้เติมคำในช่องว่าง โดยมีตัวเลือกทั้งหมด 4 อัน A, B, C, D ซึ่งคำตอบก็จะเป็นได้ทั้ง objective / adjective / adverb / preposition มีหลากหลายเลยตัวอย่างเช่น Mr. Roger requested our company to send____a report by 4 P.M. tomorrow.เลือกคำตอบ (A) he (B) his (C) him (คำตอบที่ถูกต้อง) (D) theyReading Part 2 : มีทั้งหมด 16 ข้อ (ข้อ131-146) ข้อสอบจะมีบทความสั้น ๆ มาให้ หนึ่งบทความจะมีการเว้นให้เติมคำในช่องว่างทั้งหมด 4 ช่องว่าง อาจจะเติมเป็นคำคำเดียว หรือประโยคสั้น ๆ แต่ละข้อจะมีตัวเลือกให้เลือกได้ 4 คำตอบ A, B, C, DReading Part 3: มีทั้งหมด 54 ข้อ (ข้อ147-200) ข้อสอบจะเป็นบทความที่คัดลอกมาจากหนังสือพิมพ์ อีเมลล์ และนิตยสารเป็นต้น อ่านบทความให้เข้าใจและตอบคำถาม ในแต่ละบทความจะมีชุดคำถามคำตอบตั้งแต่ 2 - 4 ชุด และ Reading Part 3 นี้มีทั้งบทความเดี่ยว บทความคู่ และบทความ 3 ส่วน เคล็ดลับในการทำคะแนนให้ปังในในข้อสอบTOEIC1. พยายามดูหนัง Hollywood หรือซีรีส์ภาษาอังกฤษ หรือ ดูการ์ตูนเด็ก เช่น Peppa Pig พร้อมเปิด Subtitle ภาษาอังกฤษ ก็ช่วยฝึกการฟังให้มากทีเดียว เพราะว่าเราจะได้ตรวจด้วยว่าสิ่งที่เราได้ยินตรงกับ Subtitle ไหม อีกทั้งบางครั้งยังเพิ่มคลังคำศัพท์และสำนวนภาษาอังกฤษให้กับเราด้วยนะ2. ฝึกทำข้อสอบของ TOEIC โดยจับเวลาให้เหมือนจริง ทำวันละครั้งก็ได้ ซึ่งแต่ละครั้งถ้าเป็นการทดลองแบบเสมืองจริงจะใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงเลย การฝึกทำแบบฝึกหัดบ่อย ๆ จะช่วยให้เราได้ฝึกทำข้อสอบล่วงหน้าลดความประหม่าเวลาทำข้อสอบจริง และบางครั้งตอนสอบจริงก็เจอข้อสอบที่เราฝึกทำด้วย อีกอย่างเราจะได้รู้คร่าว ๆ ว่าเราจะได้คะแนนเท่าไร่ ถ้าห่างไกลจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ อาจจำเป็นต้องเรียนพิเศษ หรือเตรียมตัวก่อนสอบให้มากกว่าเดิม ซึ่งมีให้ทดลองทำหลายเว็บไซต์เลย เช่น https://yourenglishtest.com/https://www.examenglish.com/http://www.practice-the-toeic-test.com/ 3. จดคำศัพท์ที่เจอบ่อย ๆ ในข้อสอบ ช่วยให้จำได้ว่าถ้าเจอศัพท์นี้เนื้อหาจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องอะไร แนวทางการตอบเป็นอย่างไร4. นอนหลับให้เพียงพอก่อนวันสอบจริง เพราะเวลาสอบจริงนั้นใช้เวลาถึงสองชั่วโมง ถ้าเรานอนไม่พอเวลาสอบจริง เผลอหลับอาจจะทำข้อสอบไม่ทัน5. พยายามทำข้อสอบทุกข้อ เพราะหากทำผิดคะแนนไม่มีติดลบ แต่ถ้าไม่ทำอาจจะไม่ได้คะแนนข้อนั้นได้6. ไปก่อนเวลานัด ไม่ควรไปสาย เพราะว่าการสอบนั้นเริ่มตรงเวลา ซึ่งทำจริง ๆ ก็แทบจะไม่ทันอยู่แล้ว ถ้าไปสายอีกก็ยิ่งจะทำข้อสอบไม่ทันเข้าไปอีก จบไปแล้วนะคะกับเคล็ดลับสอบ TOEIC ให้คะแนนปัง ๆ ขอให้ทุกท่านโชคดีได้งานที่ฝัน ได้เงินเดือนขึ้น จบปริญญาโททันกำหนดหรือเร็วขึ้น สู้ ๆ นะทุกคน หากเพื่อน ๆ มีเรื่องราวน่าสนใจอยากเล่าให้กันฟัง เล่าผ่าน TrueID Intrend สิค่ะ เครดิตภาพ : unsplash ภาพปก ภาพ4 ภาพ5 ภาพ7 / dailyjourney ภาพ1 ภาพ2 ภาพ3 ภาพ6/ ETS TOEIC TEST ภาพ8หมายเหตุ วิธีการสมัครสอบ สามารถโทรจองนัดสอบล่วงหน้ากับศูนย์สอบ TOEIC อย่างน้อย 1 วัน โดยมีศูนย์สอบ 2 ที่คือศูนย์สอบกรุงเทพฯ อาคาร BB Tower ชั้นที่ 19 ห้อง 1907 ถนนอโศกมนตรี ซอยสุขุมวิท 21 กรุงเทพ 10110 โทร 02-2607061 , 02-259-3990ศูนย์สอบเชียงใหม่ อาคารนวรัตน์ ชั้นที่ 3 ถนนแก้วรัตน์ ซอย 3 เชียงใหม่ โทร 053-241-273, 053-241-274, 053-241-275เปิดให้สอบวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 2 รอบ เช้า 09.00 น. - 12.00 น. และช่วงบ่าย 13.00 น. - 16.00 น.ค่าสมัครสอบ TOEIC 1,800 บาท แจ้งข้อมูลเพื่อทำการสมัครสอบดังนี้ 1. ชื่อและนามสกุล (ภาษาอังกฤษเท่านั้น) 2. หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 3. วันที่และเวลาที่ต้องการสำรองที่นั่งสอบ 4. เบอร์ติดต่อสิ่งที่ต้องเตรียมในวันสอบ 1. ID (บัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ต) ที่ไม่หมดอายุ 2. นำเงินไปชำระค่าสอบ 1,800 บาท บทความที่เกี่ยวข้อง สำนวนภาษาอังกฤษ ที่เป็นประโยชน์ในที่ทำงาน พร้อมตัวอย่าง ตัวอย่าง Resume ภาษาอังกฤษพร้อมทริคการเขียนอย่างไรให้น่าสนใจ ติดตามข่าวสาร คอนเทนต์เด็ด ๆ คาเฟ่ปัง ๆ ก่อนใคร อย่าช้า โหลดเลยที่ TrueID !!