ภาพปกบทความจาก freepikณ วินาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับโรคระบาดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือที่เราเรียกว่า COVID-19 ซึ่งโรคนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงปลายปี 2019 ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ปัจจุบันเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้มีการแพร่ระบาดไปแล้วยังหลายประเทศทั่วโลก มีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแล้วเกือบแปดหมื่นราย ซึ่งหนึ่งในสี่ได้รับการรักษาจนหาย ขณะที่ผู้ป่วยอีกกว่าสองพันห้าร้อยรายนั้นเสียชีวิต โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องเสียชีวิตจากโรคนี้ด้วยภาพจาก freepikเชื้อไวรัสโคโรนา คืออะไรไวรัสโคโรนานั้นเป็นชื่อเรียกของกลุ่มไวรัสก่อโรคซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ มีขนาดเล็กมาก ประมาณ 80 ถึง 120 นาโนเมตร ไม่สามารถมองเห็นโดยการส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ทั่วไป สามารถพบการติดเชื้อได้ทั้งในสัตว์และในคน ซึ่งในอดีตเชื้อไวรัสตระกูลโครโรนาที่มีการแพร่ระบาดในมนุษย์มาแล้วก็ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) และโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV) แต่สายพันธุ์ที่กำลังมีการระบาดอยู่ในขณะนี้นั้นเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งได้รับการค้นพบเมื่อปลายปี 2019 จึงเรียกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด 19 (COVID-19) และยังไม่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจนว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นการติดต่อจากสัตว์สู่คนหรือมาจากสัตว์ชนิดใดหรือไม่ภาพจาก freepikช่องทางการติดต่อในช่วงแรกที่มีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อยังไม่พบการติดต่อจากคนสู่คน แต่ปัจจุบันได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเชื้อไวรัสนิดนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ โดยเชื้อจะเข้าไปเจริญเติบโตในร่างกายของมนุษย์และส่งต่อไปยังคนอื่น ๆ ได้ผ่านการสัมผัส การหายใจ เอาละอองฝอยของน้ำมูก น้ำลายหรือเสมหะที่มีเชื้อไวรัสเข้าไป การสัมผัสกับเยื่อบุเช่นเยื่อบุตา เยื่อบุช่องปาก รวมถึงพบเชื้อในอุจจาระด้วย และเชื้อสามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมปกติได้นานหลายวัน หลังจากเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะสามารถแพร่ผ่านไปยังอวัยวะต่าง ๆ โดยผ่านทางกระแสเลือดได้ภาพจาก freepikอาการหลังติดเชื้อไวรัสหลังจากได้รับเชื้อไวรัสก็จะเข้าสู่ระยะที่เรียกว่าระยะฟักตัว ผู้ที่รับเชื้อนั้นจะยังไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ซึ่งจากเดิมเข้าใจว่าระยะฟักตัวน่าจะอยู่ที่ 14 วัน แต่ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อที่มีระยะฟักตัวยาวนานถึง 27 วันแล้ว ดังนั้นการตรวจหลังจากมีประวัติสัมผัสเชื้อก่อนระยะฟักตัวจึงอาจให้ผลตรวจเป็นลบได้และเมื่อเข้าสู่ช่วงแสดงอาการ ก็จะมีอาการไข้ (อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป) ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจคล้ายกับไข้หวัด เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีอาการหายใจหอบเหนื่อย หากเป็นรุนแรงก็จะทำให้มีภาวะปอดอักเสบ ไตวาย ซึ่งหากเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เด็ก ก็อาจจะเกิดอาการที่รุนแรงจนทำให้เสียชีวิตได้ภาพจาก freepikการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019สำหรับวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่แพร่ระบาด และให้ใช้วิธีการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” คือการรับประทานอาหารปรุงสุก ไม่ใช้ช้อนร่วมกับผู้อื่น และล้างมือให้สะอาดโดยใช้น้ำสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ประมาณ 10 มิลลิลิตร ถูทำความสะอาดมืออย่างน้อย 15 วินาที ก่อนและหลังการหยิบจับสัมผัสอาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่เป็นของสาธารณะ ไม่ควรนำมือมาสัมผัสกับอวัยวะต่าง ๆ ที่อาจเป็นช่องทางของเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ เช่น ตา จมูก ปากและเมื่อต้องไปอยู่ในที่สาธารณะร่วมกับบุคคลอื่น ควรจะสวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าป้องกันไว้ตลอดเวลา โดยให้หันด้านที่เป็นสีเข้ม สีเขียว หรือสีฟ้าออกด้านนอกเสมอ สวมให้คลุมทั้งปากและจมูกโดยกดลวดให้แนบสนิทกับสันจมูก ห้ามเปิดหน้ากากออกเมื่อจะไอหรือจาม และเมื่อใช้เสร็จแล้วให้มัดพับด้านสีขาวไว้ด้านในแล้วทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดหรือถังขยะติดเชื้อเท่านั้นสำหรับพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ ที่อาจเสี่ยงต่อการพบเชื้อ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันใด ภาชนะบรรจุอาหาร เช่น จาน ช้อน เครื่องนอน เช่น ปลอกหมอน ผ้าห่าม ผ้าปูเตียง ที่เป็นของสาธารณะ รวมถึงสินค้าที่มีการนำเข้ามาจากพื้นที่แพร่ระบาด ควรให้ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ 70% หรือใช้น้ำผสมสบู่หรือผงซักฟอกในการทำความสะอาดได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถเจริญเติบโตบนพื้นผิวต่าง ๆ ได้นานหลายวัน โดยเฉพาะที่ที่อุณหภูมิต่ำ แต่เชื้อจะมีการเจริญเติบโตน้อยลงในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียสภาพจาก freepikการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงปัจจุบันทางองค์การอนามัยโลกยังไม่มีข้อห้ามในการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด สำหรับในประเทศไทยกำหนดให้การแจ้งเตือนโรคระบาดครั้งนี้อยู่ในระดับที่ 3 เนื่องจากพบจำนวนยืนยันผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นก็ควรยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ได้แก่ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ใต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่นภาพจาก freepikกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019สำหรับผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ก็ได้แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ หรือมีการเดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาด ผู้ที่ทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เช่น พนักงานขับรถขนส่งสาธารณะ บุคลากรทางการแพทย์ภาพจาก freepikข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อหากทราบว่าตนเองจัดอยู่ในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ควรเฝ้าระวังและสังเกตอาการของตนเองอย่างน้อย 14 วัน ส่วนการขอรับการตรวจหาเชื้อไวรัสนั้นจะยังไม่สามารถทำได้ทันทีเนื่องจากหากเพิ่งสัมผัสเชื้อ โอกาสตรวจพบเชื้อในระยะฟักตัวจะมีค่อนข้างน้อยมาก และให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจจะเป็นการแพร่เชื้อได้ ได้แก่การสวมหน้ากากอนามัย งดการเดินทางไปในที่ชุมชน งดการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น และเมื่อพบว่าตนเองมีไข้สูงหรือมีอาการผิดปกติใด ๆ เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจให้รีบไปพบแพทย์ทันทีค่ะภาพจาก freepikการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ รวมถึงยังไม่มียาที่คิดค้นขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาโรคนี้โดยตรง แต่จะใช้เป็นยาสูตรผสม โดยการนำยาฆ่าเชื้อไวรัสต่างชนิดกันที่มีใช้อยู่แล้วในปัจจุบันมาให้ร่วมกัน โดยจะประกอบด้วยยาต้านไวรัสเอดส์ซึ่งเป็นยาสูตรผสมระหว่างตัวยา Lopinavir / Ritonavir และยาฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชื่อ Oseltamivir ร่วมกับการให้ยารักษาอาการอื่น ๆ แบบประคับประคองอาการสำหรับยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรนั้น แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อไข้หวัด แต่ยังไม่มีการยืนยันผลการรักษาการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ส่วนยาใหม่ที่ชื่อว่า Remdesivir นั้นยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองในสัตว์ทดลอง ยังไม่มีการยืนยันประสิทธิภาพสำหรับการนำมาใช้ในการรักษาการติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ได้เช่นกันภาพจาก freepikมาตรการการป้องกันในประเทศไทยปัจจุบันประเทศไทยมีมาตรการรองรับการระบาดในระยะที่ 3 โดยจะมีการใช้หลักการ “แยก หยุด เสี่ยง ปิด” โดยจะมีการแยกผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลออกจากผู้ป่วยปกติ และให้ผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ปรากฏอาการแยกตัวออกจากแหล่งชุมชนเพื่อสังเกตอาการ ให้มีการหยุดงานหรือหยุดเรียนหากสงสัยพบการแพร่ระบาดชองเชื้อ หลีกเลี่ยงการจัดงานที่จะต้องมีการรวมตัวกันของกลุ่มคนจำนวนมาก และให้มีการปิดสถานที่ที่พบการแพร่ระบาดโดยจะมีการควบคุมการเข้าออก รวมทั้งประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดต่อไปภาพจาก freepikการติดตามข่าวสำหรับการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขอแนะนำให้รับข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื้อถือได้เท่านั้น เช่น จากเว็บไซต์กรมควบคุมโรคโดยตรง หลีกเลี่ยงกับรับหรือการส่งต่อข้อมูลจากโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เนื่องจากอาจเป็นข่าวปลอมและสามารถสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้อื่นได้ ภาพจาก freepikสำหรับสถานการณ์ของประเทศไทยในตอนนี้ ถึงแม้ประเทศไทยจะมีมาตรการในการป้องกันและรับมือเป็นอย่างดี แต่การหยุดยั้งการแพร่ระบาดนี้จะไม่มีทางสำเร็จได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือของประชาชนทุกคน ดังนั้นการที่ประเทศไทยรวมถึงทุกประเทศทั่วโลกจะสามารถก้าวข้ามวิกฤตการโรคระบาด COVID 19 ไปได้จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังขึ้นกับพวกเราทุกคนอีกด้วยแหล่งอ้างอิงข้อมูลจาก กรมควบคุมโรคประเทศไทย