หลังสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก “เรือใบสีฟ้า” แมนซิตี้ อาจได้เฮต่อเนื่องหากเก็บ 3 แต้มเหนือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จะเก็บเพิ่มเป็น 83 คะแนนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 7 และเป็นการครองแชมป์ 3 จาก 4 ฤดูกาลหลังสุด และสภาพทีมตอนนี้สมบูรณ์สุดขีด จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมมากที่จะได้ ล้างตา! หลังโดนเชลซีเขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ FA Cup ที่เวมบลีย์ 0-1 ถือเป็นบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ สภาพความพร้อมของทั้งคู่เป็นอย่างไร พร้อมแล้วไปติดตามบทวิเคราะห์กันเลยครับ เริ่มกันที่เรือใบสีฟ้าเจ้าบ้าน ผ่าน 34 นัดนำเป็นจ่าฝูงที่ 80 คะแนน ชนะมาต่อเนื่องทุกรายการ 4 เกมหลังสุด เพิ่งเปิดบ้านทุบปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-0 จะยังไม่มี จอห์น สโตนส์ ที่ติดโทษแบนเป็นนัดสุดท้าย คาดว่าตัวที่ได้พักมาจากเกมยุโรปกลางสัปดาห์อย่างโรดรี้ , เฟร์ราน ตอร์เรส รวมถึงราฮีม สเตอร์ลิง และกุน อเกวโร่ ที่ได้ลงในช่วงท้ายเกม จะพร้อมใช้ความสดลงสนามช่วยทีมเป็น 11 คนแรกในเกมนี้ เวลาที่ได้พักถึง 4 วัน เพียงพอให้นักเตะที่เหลือฟื้นร่างกายไม่จำเป็นต้องโรเตชั่นยกชุด เป็ป กวาร์ดิโอลา น่าจะเลือกเน้นแนวรับโดยมีอายเมอริค ลาปอร์ต กับรูเบน ดิอาส สร้างความอุ่นใจหลังบ้าน อาจจะต้องมีการพักริยาร์ด มาห์เรซ สแตนบายด์ข้างสนาม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ สเตอร์ลิง และ กุน อเกวโร่ ได้ใช้ความสดเจาะตาข่ายเชลซี เป็ป กวาร์ดิโอลา มาในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูเอแดร์สัน คู่เซ็นเตอร์อายเมอริค ลาปอร์ต กับรูเบน ดิอาสแบ็กซ้ายซินเชนโก้ แบ็กขวาไคล์ วอล์คเกอร์ ขึ้นมาที่แผงมิดฟิลด์เควิน เดอ บรอยน์ , โรดรี้ , อิลคาย กุนโดกัน แนวรุกราฮีม สเตอร์ลิง , เฟร์ราน ตอร์เรส และกุน อเกวโร่ ต่อกันที่ทีมเยือนเชลซี มี 61 คะแนนจาก 34 นัด รั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน โดยมีเวสต์แฮมไล่จี้มาเหลือ 3 แต้ม สภาพทีมขาดเพียงมิดฟิลด์โครเอเชีย มาเตโอ โควาซิช ที่ยังเจ็บ ฟอร์มเฉพาะในลีก 3 เกมหลังสุดเก็บคลีนชีทไม่เสียประตู โดยเป็นการเสมอไบรท์ตัน 0-0 , ออกไปเยือนเวสต์แฮมชนะ 0-1 และเปิดบ้านชนะฟูแล่ม 2-0 นัดนี้โธมัส ทูเคิล แม้จะยังรักษาอันดับ 4 ของตารางเอาไว้ได้ แต่คงยังไม่วางใจทีมอย่างเวสต์แฮม , สเปอร์ส และลิเวอร์พูล ที่ไล่จี้มาแบบกระชั้นชิด จำเป็นต้องใช้ผู้เล่นชุดหลักลงทำศึกอย่างต่อเนื่อง แนวรับยังคงเป็นหน้าที่ของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ โดยมีเอ็นโกโล่ ก็องเต้ และจอร์จินโญ่ คุมเกมแดนกลาง และจะยังคงใช้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ทำผลงานได้ดีในระยะหลังยืนค้ำในตำแหน่งหน้าเป้า โธมัส ทูเคิล จัดทัพในระบบ 3-4-2-1 ผู้รักษาประตูเอดูอาร์ เมนดี้ แนวรับ 3คนอันโตนิโอ รูดิเกอร์ , ติอาโก้ ซิลวา , อันเดรียส คริสเตนเซน ขยับมาที่แผงมิดฟิลด์เบน ชิลเวลล์ , เอ็นโกโล่ ก็องเต้ , จอร์จินโญ่ และเซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แนวรุกเมสัน เมาท์ , คริสเตียน พูลิซิช หน้าเป้าไค ฮาแวร์ตซ์ บทวิเคราะห์ : สภาพความฟิตของนักเตะเชลซีหลังเพิ่งผ่านเกมกลางสัปดาห์มาคืนวันพุธ ได้พักเพียง 3 วัน เสียเปรียบเจ้าถิ่นเล็กน้อย มองว่าแมนซิตี้ลงสนามในสภาพรีแลกซ์ดูผ่อนคลายมากกว่า แค่ลุ้นว่าจะปิดเกมได้แชมป์วันไหนเท่านั้น ในสภาพไร้ความกดดันแบบนี้เป็นลักษณะของฟุตบอลที่ไม่มีอะไรฉุดได้อยู่ จะยังทำผลงานดีได้อย่างต่อเนื่อง สกอร์ที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 – 0 เชลซี ปิดสนามฉลองแชมป์ในบ้านตัวเองได้อย่างไม่มีปัญหา เกมการแข่งขันจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2564 เวลา 23.30 น.ถ่ายทอดสด True Visions ช่อง True Premier Football HD 1 เป็ป กวาร์ดิโอลา จะสมหวังได้ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกหรือไม่ อย่าลืมติดตามชมครับ.. มีเรื่องราวน่าสนใจในแวดวงฟุตบอลอย่าเก็บไว้คนเดียว มาบอกเล่าเรื่องราวของนักเตะ และทีมที่คุณชื่นชอบกับทรูไอดีได้ที่นี่ >>คลิก<< ภาพประกอบโดย ภาพปก Manchester City , Chelsea / ภาพที่ 1 : Manchester City / พื้นหลัง Pixabay : OpenClipart-Vectors / (PNG) Premierleague Official Manchester City , Chelsea บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ - วิเคราะห์ก่อนเกม แมนยู VS ลิเวอร์พูล แดงเดือดนัดแตกหัก! (ลิงก์ดูฟรี) - ศึกแดงเดือดเกิดจากอะไร? ทำไมถึงต้องเป็น แมนยู VS ลิเวอร์พูล (ฉบับแฟนบอลรุ่นใหม่เข้าใจง่าย) ช่องดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก >> คลิกที่นี่ ดูบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทุกสัปดาห์ ผ่านทาง ID Station >> คลิกที่นี่ ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี