ภาพปกจากผู้เขียนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม้ประดับตระกูลแคคตัสนั้นเป็นต้นไม้ที่ใครเห็นก็ต้องพากันตกหลุมรัก เพราะนอกจากจะมีรูปร่างหน้าตาที่หลากหลายตามแต่ละสายพันธุ์แล้ว บางพันธุ์ก็ยังออกดอกสวยงามให้เราได้ชื่นชมกันอีกด้วยนะ และหนึ่งในความท้าทายอีกขั้นของการเป็นนักหัดเลี้ยงแคคตัสมือใหม่ก็คือการหัดเพาะเมล็ดแคคตัสด้วยตัวเองนั่นเองค่ะ ซึ่งความจริงแล้วนั้นการเพาะเมล็ดแคคตัสก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย และในบทความนี้ก็จะมาแนะนำวิธีการเพาะเมล็ดแคคตัสอย่างละเอียดแบบให้ได้อ่านกันค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียนเราจะหาเมล็ดแคคตัสได้จากที่ไหน ?สำหรับวิธีการได้มาซึ่งเมล็ดแคคตัสก็มี 2 วิธีด้วยกันค่ะ ได้แก่ การผสมเกสรด้วยตัวเอง และการซื้อเมล็ดแคคตัสมาหัดเพาะ ซึ่งหากใครอยากที่จะลองผสมเกสรด้วยตัวเองละก็สามารถทำได้ไม่ยากเช่นกันค่ะ เพียงแต่จะต้องใช้ระยะเวลากันสักนิดหนึ่ง ตั้งแต่รอให้แคคตัสของเราออกดอกพร้อมกัน จากนั้นจึงผสมเกสรตัวผู้ลงบนเกสรตัวเมียโดยให้ผสมข้ามต้น รอจนกระทั่งผสมติดฝักและฝักสุกเรียบร้อยจึงเก็บเมล็ดมาเพาะ และถ้าใครที่ไม่อยากรอละก็ อีกหนึ่งทางลัดง่าย ๆ ก็คือการซื้อเมล็ดแคคตัสมาเพาะ ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือควรเลือกซื้อกับร้านที่เชื่อถือได้ มีรีวิวอัตราการเพาะแล้วงอกจากลูกค้าให้ดู เพราะถ้าบางร้านแอบเอาเมล็ดเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วมาวางขายถึงแม้เราจะเพาะด้วยเทคนิคที่ดีแค่ไหนเมล็ดนั้นก็ไม่สามารถเพาะงอกได้อยู่ดีค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียนการเพาะเมล็ดแคคตัสมีกี่วิธี ?โดยทั่วไปวิธีที่นิยมใช้ในการเพาะเมล็ดแคคตัสจะแบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่ การเพาะเมล็ดในระบบเปิด ซึ่งก็คือการเพาะเมล็ดลงในดินปลูกจากนั้นก็รดน้ำตามปกติเหมือนกับการเพาะเมล็ดพืชสายพันธุ์อื่น โดยระวังอย่าให้ดินแห้งเพราะอาจทำให้การเจริญเติบโตของต้นอ่อนหยุดชะงัก กับการเพาะเมล็ดในระบบปิด การเพาะเมล็ดโดยวิธีนี้จะทำทุกขั้นตอนเหมือนกับการเพาะในระบบเปิด เพียงแต่หลังจากที่เราเตรียมกระถางเพาะต้นเมล็ดเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เรารดน้ำให้ชุ่มแล้วนำไปใส่ในถุงหรือกล่องพลาสติกปิดสนิทเพื่อไม่ให้น้ำระเหยออก วิธีนี้จะทำให้เราควบคุมความชื้นได้ง่ายกว่าและไม่ต้องคอยรดน้ำบ่อย ๆ ค่ะ ส่วนวิธีไหนจะดีกว่ากันนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน เราสามารถเลือกเพาะเมล็ดด้วยวิธีไหนก็ได้แต่สิ่งสำคัญก็คือจะต้องให้ต้นอ่อนที่งอกออกมาได้รับความชื้นอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแดดแรงจนเกินไปเนื่องจากเค้ายังไม่มีผิวลำต้นที่หนาพอที่จะทนต่อแสงแดดก็อาจทำให้ต้นสุกและเน่าได้ และคอยระวังอย่าให้มีโรคหรือแมลงรบกวน ซึ่งการเพาะระบบเปิดจะมีข้อเสียก็คือหากไม่คอยรดน้ำก็อาจทำให้ดินแห้งได้ และอาจมีแมลงศัตรูพืชหรือปัจจัยต่าง ๆ เข้ามารบกวน ส่วนการเพาะในระบบปิดก็จะต้องระวังเรื่องของความชื้นที่มากเกินไปและการเกิดเชื้อราค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียนการเพาะเมล็ดต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ?สำหรับวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ก็มีดังนี้ค่ะ1. เมล็ดพันธุ์ที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน2. วิตามิน B 1 (จะใช้หรือไม่ก็ได้)3. กระถาง4. ดินปลูก5. ถุงหรือกล่องพลาสติก (สำหรับการเพาะในระบบปิด) ภาพถ่ายโดยผู้เขียนการเพาะเมล็ดแคคตัส มีขั้นตอนอย่างไร ?1. เตรียมเมล็ดสำหรับเพาะ ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดก็คือการเตรียมเมล็ดให้พร้อมค่ะ โดยทั่วไปหากเป็นเมล็ดที่เพิ่งเก็บสด ๆ จากฝักเราจะต้องแกะเมล็ดออกจากฝักแล้วทำการล้างทำความสะอาดเยื่อเมือกต่าง ๆ ที่ติดมาจากในฝักให้เรียบร้อยเสียก่อน ไม่ควรนำเมล็ดที่มีเนื้อหรือเปลือกฝักติดอยู่ลงปลูกเลยเพราะอาจเป็นแหล่งเกิดของเชื้อราได้ หลังล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็อาจจะนำลงปลูกเลยก็ได้ หรือจะผึ่งไว้ให้แห้งก่อนแล้วจึงนำไปปลูกก็ได้ค่ะ แต่โดยทั่วไปแนะนำว่าควรรีบปลูกเลยทันทีเพราะจะทำให้มีอัตราการงอกสูงกว่า ในทางตรงกันข้ามหากเราปล่อยเมล็ดทิ้งไว้นาน ยิ่งนานมากก็จะทำให้เมล็ดฝ่อไปและทำให้เพาะไม่งอกในที่สุดหลังจากได้เมล็ดมาเรียบร้อยแล้วเราก็อาจจะนำเมล็ดนั้นแช่ลงในน้ำผสมน้ำยาวิตามิน B-1 เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการงอกของเมล็ด ซึ่งในขั้นนี้จะทำหรือไม่ก็ได้ค่ะ หากใครไม่มี B-1 ก็ไม่เป็นไร สามารถใช้เพาะได้ตามปกติค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียน2. การเตรียมดินสำหรับเพาะสำหรับผู้เขียนเองโดยทั่วไปจะใช้ดินที่ผสมเสร็จสำหรับปลูกกระบองเพชรมาใช้ในการเพาะเมล็ด แต่จะเน้นเรื่องความสะอาดของดินเป็นพิเศษซึ่งดินที่ใช้จะเป็นดินที่ผสมเอง (อ่านวิธีการผสมดินได้จากบทความ 🌵 มาผสม “ดินปลูกแคคตัส” กันเถอะ ! (สำหรับมือใหม่หัดปลูกแคคตัส)) เพราะหากดินสกปรกก็อาจจะส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ขึ้นได้ เช่น เกิดเชื้อรา มีเพลี้ยที่รากมาดูดน้ำแย่งสารอาหารจากต้นอ่อน เป็นต้น ทั้งนี้ดินที่นำมาเพาะควรจะมีลักษณะโปร่ง มีธาตุอาหารจำเป็นที่สมบูรณ์ เพราะหากเป็นดินที่จับตัวกันแน่นแข็งหรือดินที่ขาดสารอาหาร เช่น ใช้ทรายในการเพาะเมล็ด ก็จะทำให้ต้นอ่อนที่งอกออกมานั้นเจริญเติบโตช้ากว่าปกติหรือกลายเป็นต้นอ่อนที่ไม่สมบูรณ์ได้3. ขั้นตอนการเพาะหลังจากเตรียมเมล็ดและดินเพาะพร้อมแล้ว ก็ให้เรานำหินก้อนใหญ่โรยลงก้นกระถาง จากนั้นใส่ดินปลูกลงไป แล้วจึงโรยเมล็ดลงไปบนหน้าดินให้ทั่ว ควรเว้นระยะห่างของแต่ละเมล็ดให้เหมาะสมอย่าให้เมล็ดซ้อนทับกันจนเกินไปเพราะเวลาที่ต้นอ่อนงอกออกมาแล้วจะทำให้ต้นอ่อนเกิดการเบียดเสียดกันจนทำให้เสียทรงหรือทำให้แยกต้นอ่อนออกจากกันได้ยาก4. รดน้ำให้ชุ่มขั้นตอนต่อมาก็คือให้นำกระถางที่ได้มาแช่ลงในอ่างใส่น้ำรอจนกว่าน้ำจะซึมจากก้นกระถางจนถึงหน้าดินเพื่อให้ดินเพาะทั้งหมดเปียกอย่างทั่วถึง หรืออาจจะใช้วิธีการรดน้ำจากด้านบนก็ได้ แต่ต้องระวังอย่าให้เมล็ดที่เพาะนั้นโดนแรงจากน้ำจนเมล็ดกระจัดกระจาย หลังจากนั้นเราก็อาจจะรดด้วยน้ำผสมวิตามิน B-1 เพื่อช่วยในการเร่งรากและเร่งการเจริญเติบโตของต้นอ่อนอีกครั้งหนึ่ง และถ้าใครต้องการจะเพาะเมล็ดแบบเปิดก็ถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนการเพาะเมล็ดแล้ว ส่วนใครที่ต้องการจะเพาะเมล็ดแบบปิดก็ให้นำกระถางใส่ลงในถุงหรือกล่องพลาสติกแล้วปิดให้สนิท แล้วนำกระถางเพาะเมล็ดไปวางไว้ในจุดที่โดนแดดอ่อน ๆ เท่านั้น ภาพถ่ายโดยผู้เขียนนานหรือไม่กว่าเมล็ดจะงอก ?การงอกของเมล็ดนั้นขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยด้วยกันค่ะ โดยทั่วไปหากเป็นเมล็ดสดเก็บใหม่ก็มักจะงอกภายในไม่กี่วันหรือในช่วงสัปดาห์แรก ๆ หลังเพาะเท่านั้น ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้จากตุ่มเขียว ๆ เล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับเปลือกเมล็ด แต่แคคตัสบางสายพันธุ์นั้นอาจจะมีการงอกที่ค่อนข้างช้าดังนั้นเราอาจจะอดใจรอสักระยะหนึ่งค่ะ แต่หากรอนานเกินเดือนหรือเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววสักทีก็แสดงว่าเมล็ดนั้นอาจจะเสียไม่สามารถเพาะให้งอกได้ค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียนหลังเมล็ดงอกแล้วต้องทำอย่างไรต่อ ?เมือเมล็ดเริ่มงอกแล้วเราก็คอยดูแลให้ต้นอ่อนได้รับความชื้นและแสงแดดในปริมาณที่เหมาะสมจนกว่าเขาจะเติมโตเป็นต้นใหญ่ที่แข็งแรง โดยทั่วไปก็จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน จึงจะพัฒนาจากตุ่มเขียว ๆ จนมีลักษณะของแคคตัสตามสายพันธุ์ของเขาอย่างชัดเจน ซึ่งหากต้นอ่อนเริ่มมีความแข็งแรงดีแล้วหรือเริ่มโตขึ้นจนเบียดเสียดกันเราก็สามารถแยกไปปลูกในกระถางต่างหากได้เลย แต่ถ้าต้นยังเล็กอยู่แนะนำว่าให้เลี้ยงต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะแข็งแรงแล้วจึงค่อยแยกปลูกดีกว่าค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียนและทั้งหมดนี้ก็ถือขั้นตอนการเพาะเมล็ดแคคตัสซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ยากเลย แม้จะเป็นมือใหม่ที่ยังไม่เคยหัดเพาะเมล็ดมาก่อนก็สามารถลองทำได้ง่าย ๆ และประโยชน์ของการหัดเพาะเมล็ดแคคตัสนอกจากจะได้ความสนุกสนานและได้เรียนรู้ขั้นตอนต่าง ๆ ในการเพาะเมล็ดด้วยตนเองแล้ว เมื่อเมล็ดนั้นงอกเงยออกมาเป็นแคคตัสต้นใหญ่ เรายังได้ความภาคภูมิใจอีกด้วยค่ะ บทความอื่น ๆ ของผู้เขียนเกี่ยวกับกระบองเพชร- 🌵 แนะนำสายพันธุ์กระบองเพชรดอกสวย 🌸- 🌵 วิธีผสมเกสร "ดอกกระบองเพชร" ให้ติดฝักและได้เมล็ด- 🌵 มาผสม “ดินปลูกแคคตัส” กันเถอะ ! (สำหรับมือใหม่หัดปลูกแคคตัส)- 🌵 มาเปลี่ยนกระถางกระบองเพชรกันเถอะ !- 🌵 สาเหตุที่ทำให้ต้นกระบองเพชรเน่า พร้อมวิธีป้องกันและแก้ไข- 🌵 สายพันธุ์กระบองเพชร สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง- 🌵 เลี้ยงกระบองเพชรอย่างไร ? ให้มีดอก 🌸- 🌵 [แชร์เทคนิค] เลี้ยง “กระบองเพชร” สำหรับมือใหม่อย่างไรให้ไม่ตาย- 🌵 ชวนรู้จักกับ “แอสโตร” (Astrophytum asterias) กระบองเพชรเลี้ยงง่าย ดอกสวย 🌸- 🌵 การกราฟต์ (Grafting) กระบองเพชร คืออะไร ?- 🌵 [มือใหม่หัดเลี้ยงแคคตัส] ยิมโน LB 2178 "แท้" กับ "ไม่แท้" ต่างกันอย่างไรนะ ?- 🌵 มารู้จักศัพท์ เกี่ยวกับ “รากกระบองเพชร” กันเถอะ- 🌵 ชวนรู้จักแคคตัส "หูกระต่าย-หูมิกกี้เมาส์" (Opuntia microdasys)- 🌵 วิธีกำจัด “เพลี้ยแป้ง” ในรากกระบองเพชรสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง