วันนี้ประชากรทั่วโลกติดเชื้อโควิด 19 ใกล้ 100 ล้านคนแล้ว 😯 คงจะดีถ้าเราสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 จะได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แต่เนิ่น ๆ ทว่าในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครสามารถรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้ แต่สามารถคาดเดาได้ เช่นในภาพยนตร์เรื่อง Contagious ที่ในปี 2020 ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชมทั่วโลก ซึ่งสถานการณ์ในเรื่องก็ใกล้เคียงกับการระบาดโควิด 19 ตอนนี้อย่างมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากาก การใส่ชุด PPE การล็อกดาวน์ การกักตัว และการสร้างโรงพยาบาลสนาม เป็นต้น และภาพยนตร์ล่าสุดที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์ในตอนนี้และคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเกี่ยวกับโควิดอีกเรื่องหนึ่ง คงต้องยกให้เรื่อง Songbird (2020) ผลงานของ "ไมเคิล เบย์" การันตีด้วยผลงานภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง The Purge และ A Quiet Place วันนี้อยากจะมารีวิวหนัง โควิด 23 ไวรัสล้างโลก ให้ได้ติดตามกันค่ะ เรื่องย่อ "โควิด 23 ไวรัสล้างโลก" หรือชื่อภาษาอังกฤษ "SONGBIRD (2020)" เป็นเรื่องราวของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 23 ซึ่งเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายทางอากาศได้ โลกทั้งโลกถูกล็อกดาวน์ มีเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานเท่านั้น ซึ่งจะต้องสวมสายรัดข้อมือสีเหลือง ที่จะออกมาใช้ชีวิตภายนอกที่พัก หรือภายนอกสถานกักกันได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ใดที่เข้าสถานกักกัน Q-Zone นี้ไปแล้วจะไม่ได้ออกมา โดยเนื้อเรื่องให้ชายหนุ่ม นิโค (แสดงโดย เคเจ อาพา) เป็นคนเพียงไม่กี่คนที่มีภูมิต้านทานและสามารถออกมาใช้ชีวิตนอกที่พักได้ จึงทำให้เขาต้องอาศัยอยู่ตามลำพัง โดยเขาทำงานส่งของให้กับบริษัทส่งของชื่อดัง Lester's Gets แฟนของเขาคือ ซาร่า (แสดงโดย โซเฟีย คาร์ซัน) หญิงสาวผู้อาศัยอยู่กับคุณยายของเธอ วันหนึ่งเกิดการระบาดของไวรัสโควิด 23 ในที่พักที่ทั้งสองคนอาศัยอยู่ นิโคพยายามหาทางช่วยแฟนสาวให้สามารถออกมาใช้ชีวิตภายนอกที่พักกับเขาได้ โดยนิโคจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นเพื่อให้ได้มาซึ่งสายรัดข้อมือสีเหลือง และต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยแฟนสาวอย่างไร คงต้องไปติดตามกันเองค่ะความรู้สึกหลังจากได้ดู โดยส่วนตัวถือว่าโดยรวมหนังทำได้ค่อนข้างดี เนื้อหาน่าติดตาม เนื้อเรื่องมีการบรรยายถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด ที่เรียกได้ว่าเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้มากทีเดียว และมีการคาดการณ์รูปแบบการใช้ชีวิตหากมีการระบาดรุนแรงและยาวนาน ว่าต่อไปสามารถตรวจอุณหภูมิด้วยอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และเชื่อมข้อมูลสุขภาพสู่ส่วนกลางทันที มีการสวมใส่สายรัดข้อมือเพื่อแยกคนมีภูมิต้านทานกับคนไม่มีภูมิต้านทาน หากใครไม่มีภูมิต้านทานต้องกักตัวอยู่บ้านตลอดเวลา ถ้าติดเชื้อเมื่อไร่ต้องเข้าสถานกักกัน Q-Zone ทันที จะต้องมีเครื่องฆ่าเชื้อด้วยแสง UV ทุกบ้านสำหรับการรับพัสดุ นอกจากนี้ในหนังยังแสดงว่าโดรนในอนาคตน่าจะมีบทบาทในหลาย ๆ เรื่องมากกว่าแค่ถ่ายภาพมุมสูง ในหลาย ๆ ส่วนที่หนังคาดการณ์มานี้ถือว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้จริง ความเหมือนจริงของเนื้อเรื่อง มีบ้างบางครั้งที่รู้สึกว่า ทำไมมาตรงนี้ไปได้นะ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้นะ เช่น ถ้าสามารถส่งข้อมูลสุขภาพไปที่ส่วนกลางผ่านมือถือ ข้อความที่นิโค วีดีโอคอลกับแฟนสาว ไม่น่าจะรอดพ้นสายตาของส่วนกลางได้ อีกจุดเหมือนหนังจะเน้นเฉพาะว่านิโคจะช่วยแฟนสาวอย่างไร แต่หากมีการทำผิดกฎหมาย ก็ไม่มีพูดถึงในเรื่อง ซึ่งตรงนี้ต้องขอหักคะแนนหน่อย ว่าขาดความเหมือนจริงไปอยู่บ้าง ในเรื่องความตื่นเต้นในเรื่องก็มีอยู่ แต่ไม่ได้บีบหัวใจมาก อาจจะเพราะหนังดึงด้านความเป็นมนุษย์ของคนมานำเสนอ คือผู้คนมีการเห็นใจกันมาก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เลยทำให้ถึงแม้ดูแล้วลุ้น ๆ แต่ไม่อึดอัดมาก อาจจะเพราะเนื้อเรื่องเกี่ยวกับโรคระบาดมันก็หดหู่อยู่แล้ว ถ้าจะใส่เรื่องความเห็นแก่ตัวแบบหนัก ๆ เข้าไปอีก คงจะยิ่งหดหู่หนักไปอีก แต่อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ อาจจะต่างจากความคิดเห็นของผู้ชมท่านอื่น 🙏นักแสดง ในเรื่องได้นักแสดงที่มีชื่อเสียงหลายคนที่เดียว เช่น เดมี่ มัวร์ รับบทเป็นไปเปอร์ กริฟฟิน แม่ที่รักและห่วงใยลูกมากแต่ก็ยังเห็นใจเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน ซึ่งถือว่าเล่นได้ดีทีเดียว เห็นถึงความเป็นแม่ได้อย่างเต็มที่ เบรดลี่ วิทฟอร์ด รับบทเป็นวิลเลียม กริฟฟิน สามีของเดมี่ มัวร์ มีด้านมืดและยอมแหกเคอร์ฟิวเพื่อสนองตัณหาของตัวเอง เล่นได้สมจริงดูแล้วเห็นภาพว่าคงจะมีคนอย่างนี้ในโลกจริง ๆ อเล็กซานดรา แดนดราดิโอ นักแสดงชื่อดังจาก San Andreas, The Chainsaws ในเรื่องรับบทเป็นเมย์หญิงสาวที่มีความสามารถในการร้องเพลง และให้ความสุขก็เพื่อนมนุษย์ผ่านการร้องเพลงทางไลฟ์วีดีโอ ยอมรับเลยว่าเธอร้องเพลงเพราะจริง ๆ ปีเตอร์ สตอร์แมร์ รับบทเป็น ฮาร์แลนด์ หัวหน้ากองควบคุมโรค มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย ว่าใครจะเข้าไปอยู่ในสถานกักกันบ้าง เล่นได้ดิบ ๆ ดีดูแล้วก็รอลุ้นไปกับบทนี้ว่าจะลงเอยอย่างไร ทั้งสี่คนถือเป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยม ถึงในเรื่องจะมีบทพอสมควรแต่ไม่ได้มากเท่ากับตัวเอก นิโค และ ซาร่า แต่ทั้งสี่คนก็แสดงออกมาได้สมบทบาทดีมาก ฉากและภาพโดยรวมถือว่าทำได้ดีทีเดียว ดูแล้วรู้สึกถึงความเป็นหนังระทึกขวัญ ฉากสมจริง ดูเหมือนโลกกำลังผจญกับวิกฤตอย่างหนัก โดยรวมแล้วให้คะแนน 7.5/10 หากใครกำลังหาภาพยนตร์ไปชมในโรงภาพยนตร์ และชอบหนังระทึกขวัญ ลุ้นตลอดเวลา ขอแนะนำ Songbird 2020 โควิด 23 ไวรัสล้างโลกค่ะ เชื่อว่าน่าจะทำให้ผู้ชมลุ้นตลอดเรื่อง พร้อมทั้งได้อารมณ์ไปกับหนังที่คาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากโควิดต้องลากยาวไปถึงปี 2023 😥 ภาพยนตร์ โควิด 23 ไวรัสล้างโลก เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศไทยค่ะ ก่อนเข้าโรงหนังอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง ดูแลสุขภาพกันทุกคนนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ เครดิตภาพ : M Pictures Facebook : ภาพปก / ภาพ1 / ภาพ2 / ภาพ3 / ภาพ4 / ภาพ5 ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !