ความสบายเพียงชั่วคราวก่อให้เกิดความทุกข์ที่ยาวนานสมองเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความขี้เกียจ●เพราะก่อนที่เราจะลงมือทำสิ่งหนึ่งสมองจะคิดพลังงานที่ต้องใช้ไว้ล่วงหน้า เเละคิดถึงความทุกข์ทรมานจากการลงมือทำสิ่งหนึ่ง(ทรมานมากเเสดงว่าใช้พลังงานมาก เช่น การเรียนเรื่องยากๆ,การออกกำลังกาย)●ถ้าสิ่งนั้นใช้พลังงานเยอะสมองจะไม่อยากทำสิ่งนั้น ถ้าสิ่งนั้นใช้พลังงานน้อยสมองจะอยากทำสิ่งนั้นเเล้วจะเลือกสิ่งที่ใช้พลังงานน้อยก่อนเสมอจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากเล่นเกม,ดูหนัง,ฟังเพลง มากกว่าอ่านหนังสือ,ออกกำลังกาย,ทำความสะอาดบ้าน●เพราะเป็นสิ่งที่ใช้พลังงานน้อย เคลื่อนไหวน้อย,ไม่ต้องคิดมากความขี้เกียจคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่รอดในอดีต ●เพราะในอดีตมนุษย์นั้นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในสภาพเเวดล้อมที่ไม่เเน่นอนอย่าง เช่น ความเเห้งเเล้ง,น้ำท่วม,สัตว์ป่าดุร้าย,ความหนาวเหน็บ●จึงทำให้เราต้องรักษาพลังงานไว้ใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น เพราะจะทำให้เราเอาตัวรอดได้ทันเเละทนกับความขาดเเคลนอาหารได้ หากใช้พลังงานโดยเปล่าประโยชน์ เช่น ปีนเขาเพื่อชมวิว,วิ่งท่ามกลางทะเลทราย,เเข่งว่ายน้ำ ทำให้เมื่อถึงคราวที่ต้องใช้จริงๆ เช่น วิ่งหนีเสือ,โคลนดูดขา,จมน้ำเเละอดทนกับความหิวให้นานพอจนกว่าจะหาอาหารได้ เราจะไม่มีพลังงานไว้ใช้ทำให้เราไม่มีเเรงในการเอาตัวรอดได้เลย จึงทำให้เราเสียชีวิตในที่สุดความขี้เกียจ คือผลเสียในปัจจุบัน●อาหาร,ที่พัก,ยา,ผ้าห่ม,น้ำ มีให้เราใช้อย่างเหลือเฟือ เเละสภาวะเเวดล้อมก็อุดมสมบูรณ์ไม่มีสัตว์ดุร้ายในป่า เพราะฉะนั้นความขี้เกียจในการประหยัดพลังงานของสมองจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นในปัจจุบันอีกเเล้ว ●เเต่มันยังติดตัวเราทุกคนเสมอจึงทำให้เราอยู่ในโลกปัจจุบันนี้เหมือนตายทั้งเป็นเพราะความขี้เกียจเช่น▬ขี้เกียจอ่านหนังสือ(ก็ไม่มีความรู้เอาไว้ใช้)▬ขี้เกียจออกกำลังกาย(เกิดโรคมากมาย)▬ขี้เกียจกินของมีประโยชน์(โรคอ้วน,โรคไต,โรคมะเร็ง,โรคหัวใจ)▬ขี้เกียจทำงาน(ก็ไม่มีเงินเอาไว้ใช้)▬ขี้เกียจอาบน้ำ(ตัวเน่าเหม็น)▬ขี้เกียจเเปรงฟัน(ฟันผุ)▬ขี้เกียจทำความสะอาดห้อง(เกิดการสะสมเชื้อโรค) เป็นต้นสรุป●ขี้เกียจในอดีตทำให้รอดตาย ขี้เกียจในปัจจุบันทำให้ตายทั้งเป็น ถ้ากำจัดมันได้อยู่เย็นเป็นสุขขอบคุณภาพจากภาพปก,ภาพในปก/ ภาพ1 / ภาพ2 / ภาพ3