หลังจากการมาเที่ยวพม่าของเราได้เกิดขึ้นอย่างงง ๆ เราได้บินมาลงยังมัณฑะเลย์ แล้วคืนนี้จะต่อรถไฟไปยัง Bagan หรือพุกามชื่อไทย เป็นเมืองเก่าแก่ ได้รับการยกย่องเป็นเมืองยูเนสโก ( UNESCO ) ประวัติศาสตร์ยาวนาน รวมกับบ้านเมืองที่ยังคงสภาพเก่าแก่ ไม่ได้เปลี่ยนไปมากมาย การมาพม่าของเราครั้งนี้ มาแบบแบ็คแพคเกอร์ เที่ยวเอง วางแผนเอง เที่ยวตามใจ ไม่รีบเร่งค่ะ การเดินทางเริ่มขึ้นเมื่อรถไฟเราออกตอน 21.00 น จากสถานีรถไฟเมืองมัณฑะเลย์ เราจองแบบห้องนอน ชั้นสองค่ะ ราคานั้นไม่แพงเลย ประมาณ 6-7 USD รถไฟก็ไม่ได้แย่มาก เหมือนรถไฟบ้านเรา แต่อาจจะเก่ากว่าเท่านั้นเอง ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) มีพัดลมอยู่ในห้องหนึ่งตัว หน้าต่างเปิดได้ จริงๆ แล้วห้องจะมี 4 เตียง แต่ของเรานั้นเค้าเห็นว่าเป็นชาวต่างชาติ จึงให้เรากับเพื่อนไปอยู่กันเอง ห้องริมสุด ซึ่งมาแค่สองเตียง ส่วนตัวเลยค่ะ ไปถึงในตอนเช้าตรู่ ตีห้ากว่า มีแท็กซี่มารุมตอมอย่างกับ…. ขอละเว้นไว้แต่เข้าใจกันเอง เราขี้เกียจเดินเข้าเมือง เลยต่อมาได้ราคา 200 บาทไทย ค่าเงินพม่าเรียกว่า จั๊ด ( kyat ) เทียบกันง่าย ๆ ก็ 1000 kyat = 20 บาท ค่ะ วันนี้เราพักโรงแรม Sky View Hotel จะอยู่พุกามเป็นเวลาสองคืน ทำไมถึงพักโรงแรมนี้ เพราะว่าอาหารเช้าฟรี เสิร์ฟบน Rooftop ยอมจ่ายเพราะวิวเลยจริง ๆ ค่ะ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) อาหารก็ง่าย ๆ ไม่มีเนื้อสัตว์เท่าไหร่นัก ผัดหมี่ ก๋วยเตี๋ยวพม่า ชา กาแฟ น้ำส้ม มีไข่เจียวแล้วก็แพนเค้กกับเนยแล้วก็แยมค่ะ พนักงงานน่ารัก บริการดี อาจจะพูดภาษาอังกฤษไม่เข้าใจบ้าง แต่การบริการดีจริง ๆ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) เช็คอินเรียบร้อย อาบน้ำเสร็จ เราก็จะออกเที่ยวเลยค่ะ ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยมาก เพราะเราเป็นสายแอดเวนเจอร์ ทำกิจกรรมนอกบ้าน ที่โรงแรมมีให้เช่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเช่ารถนี้ขับเที่ยวค่ะ เพราะวัดส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองเก่า เส้นทางคดเคี้ยว และที่สำคัญร้อนมาก ถ้าเช่าจักรยานเราคงไม่ไหวแน่ ๆ วันล่ะ 100 ค่ะ ไม่แพงเลย เพราะหารสองคน ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) พุกาม ( Bagan ) นั้นมีชื่อเสียง ถึงขนาดถูกขนานนามว่า ทะเลเจดีย์ เพราะมีเจดีย์มากกว่า 2,000 เจดีย์ในเขตเมืองเก่า เดิมทีเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรพุกามที่รุ่งเรือง ปัจจุบันเมืองพุกามมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมจากทุกมุมโลก ทำให้มีรายได้มาจากการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) จะขอยกวัดที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษมาให้ชมนะคะ วัดแรก... Thatbyinnyu Phaya Temple ตัววัดเป็นสีขาว สร้างในศตวรรษที่ 12 สมัยพระเจ้าสินธุที่ 1 มีรูปร่างคล้ายไม้กางเขนค่ะ แต่ไม่สมมาตร ส่วนใหญ่วัดที่มีชั้นสองและสาม เค้าจะห้ามคนขึ้นไปเนื่องจากมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในปี 2559 ทำให้เจดีย์วัดส่วนใหญ่ได้รับความเสียหาย และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากจะเห็นรอยร้าวได้บนผนัง ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) อีกที่ คือ Dhammayangyi Temple เป็นวัดสุดท้ายที่เราเยี่ยมชมในวันนั้น เนื่องจากอากาศร้อนมาก ๆ เราเริ่มจะไม่ไหวกับความร้อย ตัววัดใหญ่มาก และสวยมาก ยังคงไว้ทุกอย่าง สร้างในสมัยพระเจ้านะระตู (ค.ศ. 1167–1170) เรื่องเล่าของวัดนี้คือ พระเจ้านะระตูขึ้นครองราชย์โดยการปลงพระชนม์พระบิดาและพระเชษฐา เขาจึงสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อล้างบาปที่ตัวเองเคยทำ แต่สุดท้ายก็โดยลอบปลงพระชนม์อีกทีค่ะ น่าเศร้าจริง ๆ ชีวิตไม่จีรังยั่งยืน ไม่มีอะไรอยู่ตลอดกาลค่ะ เหลือไว้แต่ชื่อเสียงของเขาในด้านไม่ดีนัก ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) ก่อนจะปิดวันด้วยการขับรถไปจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน จะมีนักท่องเที่ยวมารอกันเต็มเลยค่ะ คนพม่าที่นี้นิยมเที่ยววัด จะมากันเป็นรถบัสใหญ่ ๆ แวะเที่ยววัด แต่งตัวเรียบร้อยมาก ๆ น่ารักค่ะ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน ) เคยมีนักประพันธ์ชาวอังกฤษเคยบอกว่า See Bagan and lives มันไม่เว่อร์เกินจริงเลยค่ะ เป็นเมืองที่คิดว่าอยากจะกลับไปอีกตลอด ๆ เพราะสวยงาม ชีวิตช้า ๆ ไม่ยึดติดกับชื่อเสียงเงินทอง การได้ตื่นมามองพระอาทิตย์ขึ้นช้า ๆ ตัดกับขอบฟ้าเข็ม เหมือนสัญญาณว่าชีวิตเรายังมีวันใหม่ ชีวิตยังต้องเดินต่อไป พุกามยังอยู่ในความทรงจำที่สวยงามของเราค่ะ ขอฝากบทความก่อนหน้านี้ EP. 1 มัณฑะเลย์ ( Mandalay ) เผื่อใครสนใจ อ่านต่อเพื่อความต่อเนื่องค่ะ พม่าไม่มาได้ไง EP.1 มันส์ไหน...มัณฑะเลย์ สรุปค่าใช้จ่าย : ค่าโรงแรม 12 USD = 366 บาท ค่าอาหาร 20 USD = 600 บาท ค่ารถไฟ 14 USD = 427 บาท ค่าตั๋วเข้าอุทยาน 50000 kyat = 1040 บาท จิปาถะ ( เช่ารถ ) 10000 kyat = 200 บาท รวม ( โดยประมาณ ) = 2633 บาท หมายเหตุ: เรท 1000 kyat = 20.82 บาท และ 1 USD (ดอลล่าห์สหรัฐ) = 30.54 บาท