ไลฟ์แฮ็ก

🚗 "ประกันภัยรถยนต์ จำเป็นแค่ไหนเมื่อ Work from Home"

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
🚗 "ประกันภัยรถยนต์ จำเป็นแค่ไหนเมื่อ Work from Home"

ในช่วงที่ผู้คนส่วนใหญ่จะต้อง Work From Home หรือทำงานจากที่บ้านทำให้ไม่จำเป็นต้องขับรถไปทำงาน แถมสถานที่ท่องเที่ยวหรือห้างร้านต่าง ๆ ก็ต้องระงับกิจการชั่วคราวตามมาตรการ Lock down เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลาย ๆ คนแทบจะไม่ต้องออกจากบ้านไปไหน ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ประกันภัยรถยนต์สิ้นสุดลงในช่วงนี้พอดี หลายคนก็อาจจะเกิดคำถามขึ้นมาว่า ในเมื่อฉันไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากบ้าน แล้วการต่อประกันรถในช่วงนี้จะมีความจำเป็นแค่ไหน ?road

คำถามที่ได้กล่าวไปในข้างต้นก็ตรงกับเหตุการณ์จริงที่ผู้เขียนกำลังประสบ เนื่องจากประกันภัยรถยนต์ของผู้เขียนได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่ง ณ เวลานั้นก็เป็นช่วงที่กำลังมีมาตรการ Lock down กันอย่างเข้มข้น ตัวผู้เขียนถึงแม้ว่าจะไม่สามารถ Work from Home ได้ แต่ก็พักอยู่ในบ้านพักของที่ทำงาน ส่วนเวลารับประทานอาหารก็จะใช้วิธีการสั่งและให้มาส่งที่บ้านพัก จึงแทบจะไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องเดินทางไปไหนมาไหนโดยใช้รถยนต์เลยแม้แต่น้อย

Advertisement

Advertisement

แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าช่วงนี้เราจะมีธุระจำเป็นที่จะต้องเดินทางออกจากบ้านหรือไม่ และการขับรถบนท้องถนนทุกวินาทีมีความเสี่ยง แม้ว่าที่ผ่านมาผู้เขียนจะยังไม่เคยมีประสบการณ์เฉี่ยวชนกับรถคันอื่น แต่การขับรถยนต์ที่ประกันขาดออกไปนอกบ้านก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกไม่มั่นใจอยู่ดี จึงตัดสินใจที่จะโทรหาประกันบริษัทเดิมที่เคยทำเพื่อสอบถามเรื่องการต่อประกัน ซึ่งผู้เขียนเองก็เพิ่งขับรถยนต์คันแรกมาได้ประมาณ 1 ปี และประกันที่ได้มาก็เป็นประกันที่แถมมากับตัวรถ ดังนั้นตัวผู้เขียนเองจึงไม่ค่อยมีความรู้เรื่องประกันสักเท่าไรนัก2

เมื่อโทรไปสอบถามยังบริษัทประกันไอโออิ ที่เพิ่งหมดสัญญาไป ก็ได้รับคำตอบว่าให้เรานำรถเข้าไปที่ศูนย์บริการรถยนต์ใกล้บ้านได้เลย ผู้เขียนจึงขับรถตรงบึ่งไปยังศูนย์รถยนต์ Toyota โดยไม่ได้โทรแจ้งไว้ก่อนล่วงหน้า เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่จึงได้ให้คำตอบว่าบริษัทประกันปิดทำการวันเสาร์จึงไม่สามารถตรวจเช็คเบี้ยประกันให้ได้ ขอให้ข้อมูลตอบกลับในวันจันทร์หน้า ทำให้ผู้เขียนต้องขับรถหมดประกันกลับมาบ้าน

Advertisement

Advertisement

3

วันจันทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันภัยรถยนต์ของศูนย์ได้ติดต่อกลับมาพร้อมแจ้งราคาเบี้ยประกัน ซึ่งรถที่ผู้เขียนขับเป็นรถยี่ห้อ Toyota รุ่น Yaris ATIV S Plus ปี 2019 เบี้ยประกันของบริษัทไอโออิซึ่งเป็นบริษัทเดิมจะอยู่ที่ 17,500 บาท โดยมีทุนประกันอยู่ที่ 470,000 บาท ซ่อมศูนย์ แถมฟรีพรบ. ซึ่งในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนจะต้องต่อประกันรถ ด้วยความที่เรายังไม่มีความรู้ว่าเบี้ยประกันในราคานี้เป็นราคาปกติหรือไม่ ผู้เขียนจึงขอเวลากลับมาตัดสินใจและหาข้อมูลเพิ่มก่อนภ

หลังจากที่นำข้อมูลไปปรึกษาคนอื่น ๆ ในที่ทำงาน และหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเองผ่านกลุ่มประกันภัยรถยนต์และกลุ่ม Yaris ATIV ใน Facebook ก็ได้รู้จักกับบริษัทประกันมากมายหลายบริษัท ซึ่งเพื่อน ๆ ที่ทำงานก็แนะนำมาว่าประกันราคานี้ค่อนข้างแพง ให้ลองหาประกันตัวอื่นที่มีเบี้ยประกันถูกลง ซึ่งเพื่อนคนที่มีรถรุ่นใกล้เคียงกันกับผู้เขียนได้ทำประกันมาในราคาประมาณ 13,000 บาท แต่ทุนประกันจะถูกกว่าคืออยู่ที่ 400,000 บาท และซ่อมอู่ ผู้เขียนจึงได้ลองสอบถามกลับไปยังพนักงานฝ่ายประกันภัยของทางศูนย์อีกครั้งเพื่อสอบถามถึงส่วนลดเบี้ยประกัน เนื่องจากรถยังไม่เคยมีประวัติการเคลมมาก่อน และเป็นรถที่มีผู้ขับเพียงคนเดียว พนักงานฝ่ายประกันก็ได้ให้คำตอบว่าราคานี้เป็นราคาที่ถูกที่สุดแล้ว และได้เช็คเบี้ยประกันของบริษัทอื่น ๆ ให้ก็พบว่ามีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่า

Advertisement

Advertisement

หลังจากหาข้อมูลและลองสอบถามเบี้ยประกันจากตัวแทนประกันต่าง ๆ ผู้เขียนจึงได้คำตอบว่าราคา 17,500 กับทุนประกัน 470,000 บาท และแถมพรบ. สำหรับรถที่ผู้เขียนขับน่าจะเป็นราคาที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว เนื่องจากหากอยากได้ราคาที่ถูกลงก็จะต้องแลกกับทุนประกันที่ลดต่ำลง และจะต้องซ่อมอู่แทนการซ่อมศูนย์ ซึ่งสำหรับผู้เขียนก็รู้สึกว่าการเพิ่มเงินอีกประมาณ 4,000 บาทแลกกับทุนประกันที่เพิ่มขึ้นถึง 70,000 บาท และรถเราได้ซ่อมศูนย์น่าจะซื้อความสบายใจได้มากกว่า

3และถึงแม้ว่าจะตัดสินใจได้คร่าว ๆ แล้วว่าสุดท้ายผู้เขียนคงเลือกที่จะต่อประกันกับบริษัทเดิมเป็นปีที่ 2 แต่เนื่องจากสถานการณ์ Lock down ที่ทำให้เรายังไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางออกไปไหน ทำให้ผู้เขียนยังคงลังเลที่จะตอบกลับไปยังพนักงานฝ่ายประกันของศูนย์ เพราะหากเราต้องการจะต่อประกันเขาก็จะเริ่มระบุวันที่ประกันให้เป็นวันที่เราเริ่มสัญญาทันที ไม่ได้ย้อนกลับไปวันที่ 5 เมษายน อีก ดังนั้นถ้าเราต่อประกันช้า ก็จะยืดระยะเวลาในการจ่ายประกันในปีถัดไป และตอนนี้พรบ.รถยนต์ของผู้เขียนก็ยังไม่หมด ช่วงนี้ผู้เขียนจึงงดออกจากบ้านชั่วคราวไปก่อน แต่คาดว่าหากภายในสัปดาห์หน้ารัฐบาลมีนโยบายผ่อนผันมาตรการ Lock down ออกมา ผู้เขียนก็จะทำการติดต่อไปยังฝ่ายประกันเพื่อขอต่อประกันภัยรถยนต์ในทันที


ภาพปกจาก Freepik

ภาพประกอบบทความ ถ่ายโดยผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์