นวดแบบเชลยศักดิ์กับแบบราชสำนักต่างกันตรงไหน

วันนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงการนวดแบบชาวบ้านหรือเชลยศักดิ์กับแบบราชสำนักว่าต่างกันอย่างไร การนวดนั้นเป็นวิธีการรักษาที่มีมาแต่สมัยดึกดำบรรพ์มาแล้ว คนเราเมื่อเกิดอาการเจ็บปวดเคล็ดขัดยอกตรงส่วนใดของร่างกายเช่น หกล้ม หรือ ข้อเท้าข้อมือพลิกก็จะทำการบีบนวดช่วยเหลือตนเองก่อนเสมอ บางคนมีความชำนาญก็ทำการช่วยเหลือผู้อื่น ในประเทศไทยผู้เขียนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำเอาวิชาแพทย์แผนโบราณเข้ามาแต่ต้นตระกูลมาจากอินเดียหมอคนแรกของโลกในสมัยพระพุทธเจ้า คือ ปู่ชีวกโกมารภัจจ์ ในตอนนั้นได้ทำการรักษาพระเจ้าพิมพิสารที่เป็นริดสีดวงทวารเป็นการทายาเพียงครั้งเดียวและเป็นหมอรักษาพระพุทธเจ้าในขณะนั้นด้วยครับ
นวดแบบเชลยศักดิ์
- การนวดแบบนี้จะเป็นการนวดแบบทั่วไปครับจะไม่พิถีพิถันกันมากนักกิริยามารยาทจึงไม่เคร่งครัดเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการนวดชาวบ้านปุถุชนเดินดินธรรมดาไม่ได้มียศศักดิ์อะไร ฉะนั้นแนวทางการนวดจึงค่อนข้างเป็นกันเองมาก ๆ ครับใช้ศอกใช้เท้าเหยียบและคร่อมได้ครับ และสามารถ ดัด ดึง ใช้เทคนิคต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน ส่วนใหญ่การเรียนแบบเชลยศักดิ์นั้นจะเน้นปฏิบัติซึ่งปัจจุบันมีการสอนอยู่ที่วัดโพธิ์ครับ
Advertisement
Advertisement
การนวดแบบราชสำนัก
- กลุ่มเป้าหมายของราชสำนักเป็นเจ้าขุนมูลนาย มียศฐาบรรดาศักดิ์ที่อยู่ในรั้วในวังจึงจำเป็นที่จะต้องมีกิริยามารยาทที่เรียบร้อย การนวดจึงจะใช้ได้แค่เพียงมือและนิ้วมือเท่านั้นจะไม่ใช้ศอกหรือใช้เท้าใด ๆ ทั้งสิ้น ในส่วนการเลือกคนที่จะมาเรียนก็จะต้องพิถีพิถันมาก ๆ ต้องดูทั้งอุปนิสัยใจคอและดูความตั้งใจจริงกว่าจะจบออกไปเป็นหมอนวดแบบราชสํานักได้ยากเอาการเลยครับและต้องเรียนกายวิภาคร่วมด้วย นวดด้วยแรงเท่าใดตำแหน่งไหน มีทั้งสอนภาคปฏิบัติและทฤษฎีอย่างจริงจังอาจใช้เวลาเรียน 3-5 ปีเลยครับจนกว่าจะผ่านการทดสอบหลายขั้นตอนมากครับและต้องได้ใบรับรองว่าเราจบหลักสูตรนี้จริง ๆ ถึงจะออกไปเป็นหมอนวดได้ครับ
Advertisement
Advertisement
ภาพหน้าปกโดย:pixabay.com
ภาพประกอบโดยผู้เขียน
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์