Hi! everyone, สวัสดีครับทุกคน บทความนี้เป็นบทความแบ่งปันระสบการณ์จากเด็กไทย ที่ไทยจริง ๆ ครับ ไทยแบบ ไทยจ๋า ไทยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ผมเรียนโรงเรียนไทยมาตลอดทั้งชีวิต ตั้งแต่เกิดยันจบมัธยมปลาย ใช้ชีวิตแบบเด็กปกติครับ เริ่มจากไม่มีความรู้ ความกล้า และความสามารถทางภาษามาก่อนเลย แต่ตอนนี้ผมต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นเด็กอินเตอร์ฯ ซึ่งในบทความนี้ผมจะมายืนยันครับว่า ภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิด และจะมาแบ่งปันว่า ผมเริ่มต้นอย่างไร เตรียมตัวอย่างไร เพื่อพัฒนาตนเองครับ ก่อนอื่นเลย ผมขอบอกก่อนนะครับว่าผมไม่ได้เป็นคนเก่ง กระทั่งตอนนี้ ผมก็ยังใช้ภาษาอังกฤษแบบผิด ๆ ถูก ๆ อยู่และยังไม่ได้เป๊ะเรื่อง gramma แต่ก็สามารถสื่อสารได้ และ สามารถใช้ชีวิตกับเพื่อน ๆ ต่างชาติได้อย่างปกติแล้วครับ คือจะบอกว่า สามารถใช้ชีวิตได้แบบไม่อดตายแน่ ๆ (หยอกนะครับ ฮ่าฮ่า) ผมเริ่มจากการตั้งเป้าหมายครับ ตอนนี้ผมอายุ 20 ปี ผมเริ่มเรียนภาษาอย่างจริงจังตั้งแต่ 3 ปีก่อน (ตอนนั้นประมาณ ม.5 ครับ) หลาย ๆ คนติดว่าจะทันไหม ทั้งเรียน ทั้งการบ้าน ไหนผมจะติดเกมอีก ไม่ตั้งใจเรียน แล้วจะเอาเวลาไหนไปเรียนภาษา ใช่ไหมครับ ผมค่อย ๆ เริ่มจากการแบ่งเวลาครับและเพิ่มความสนใจดังนี้ครับ คุยกับอาจารย์จากต่างชาติ ผมเริ่มจากการเพิ่มความกล้าที่จะคุยกับอาจารย์ต่างชาติครับ ในคาบเรียนอย่างน้อยต้องมี 1 คาบ (50 นาที) ต่อสัปดาห์ที่เราจะมีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์ที่เป็นชาวต่างชาติครับ พอเราเริ่มกล้าที่จะคุยแล้ว ก็ค่อย ๆ ใส่จริตจะก้านเข้าไปครับ ถ้า เราพูดผิดออกเสียงผิด หรือ มีคำไหนที่เราไม่แน่ใจ อาจารย์เขาเต็มใจที่จะช่วยเราปรับปรุงครับ อย่างตอนนั้นผมสงสัยคำง่าย ๆ อย่าง restaurant ว่าออกเสียงอย่างไรกันแน่ ผมก็ถามไปเลยครับ อย่าอายครับ เพราะ เราจะพัฒนา และ เนื่องจากผมมีโอกาสเดินผ่านอาจารย์เขาบ่อยครั้งเวลาอยู่ที่โรงเรียน ผมก็จะทักทายครับ ง่าย ๆ เลยก็ Hello, how are you? ตามสเต็ปครับ บางทีผมเบื่อที่จะทักแบบเดิม ผมก็เปิดถามอากู๋ครับ หาคำว่า how to say hi in other conversation หรือคำอื่น ๆ ได้หมดเลยครับแล้วแต่คุณสะดวก พออาจารย์เขาเริ่มเห็นว่าเราพยายาม เริ่มสนิทกันมากขึ้น บทสนทนาก็จะเพิ่มขึ้นเองครับ ส่วนตัวผมก็คุยไปเรื่อยครับ ไปไหนทำอะไรมา ทานข้าวหรือยัง แนะนำร้านอาหารบ้างอะไรบ้างครับ ฟังเพลงภาษาอังกฤษก่อนนอน ถามว่าเริ่มนี้ช่วยมากน้อยแค่ไหน สำหรับผมคิดว่าเรื่องนี้ช่วยผมในหลาย ๆ ด้านนะครับทั้งสำเนียง การออกเสียงและคำร่วมสมัย เพื่อน ๆ คงเข้าใจดีนะครับว่าภาษาพูดกับภาษาเขียนมันต่างกัน อีกทั้งยังมีคำแสลงอีกมากมาย แล้วก็ยังมีทั้งที่ใช้อยู่นิยมอยู่ และ ไม่นิยมแล้วอีกหลายอย่างเลยครับ ซึ่งที่เราเรียน ๆ อยู่ ไม่พอแน่นอนครับสำหรับการใช้ชีวิตจริง ผมอาศัยสื่อนี่แหละครับ คอย update ศัพท์ต่าง ๆ ให้ใหม่อยู่เสมอ ซึ่งบางทีในเนื้อหาเพลงพวกนี้ยังมีลูกเล่นอีกมากมายครับที่เราอาจไม่เคยพบ ผมขอยกตัวอย่างเพลง 16 Shots จาก Stefflon Don นะครับ (แหะ ๆ ไม่ต้องสืบเลยว่าติ่งมาจากวงอะไร) - ขอบคุณภาพจาก เพลง 16 shot ของ Stefflon Don (https://www.youtube.com/watch?v=m5TIDDx57-0)ตัวอย่างเนื้อเพลงNo gyal can tell me 'bout my mother...- ขอบคุณเนื้อเพลงจาก LyricFind จากเนื้อเพลงข้างต้น เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่า บางคำใช่ภาษาอังกฤษหรือเปล่า ใช่ครับมันคือภาษาอังกฤษ แต่อยู่ในรูปแบบที่แปลกออกไปมันคือการเขียนตามการออกเสียงครับ ต้องลองฟังเพลงครับ (gyal = girl, 'bout = about) นอกจากเพลงนี้ ผมคิดว่าเพลงของ ADELE ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะครับ ผมเริ่มฝึกตั้งแต่เพลง Rolling in the Deep เลยครับแล้วไล่มาเรื่อย ๆ ผมว่าฟังง่ายแล้วก็เข้าใจง่ายด้วยครับ ดูภาพยนต์พร้อมซับภาษาอังกฤษ นอกจากจะได้ความสนุกแล้ว ความรู้ก็ยังได้ ผมเริ่มจากเรื่องที่เคยดูแล้ว และหลาย ๆ ครั้ง เราเข้าใจเรื่องแล้ว อาจเริ่มจากการเปิดเป็นซับไทยก่อนครับ แต่หลังจากดูจบซักหนึ่งรอบ อยากให้เพื่อน ๆ ลองเปลี่ยนมาดูเป็นซับภาษาอังกฤษครับ เรื่องที่ผมจะแนะนำก็มีไม่กี่เรื่องครับ ผมแนะนำว่าให้หาแนวที่เพื่อน ๆ สนใจนะครับ อย่างผมชอบแนวแฟนตาซี กับ Romantic ผมก็จะหาภาพยนต์แนวนั้นดูครับ- ขอบคุณรูปจาก https://harrypotter.fandom.com/wiki/Harry_Potter_(film_series) เรื่องแรกขอแนะนำ series harry potter เลยครับ สนุก แถมยังได้สำเนียงแบบ british อีก สองต่อไปเลยครับ (เรื่องฝึกสำเนียงสวย ๆ จะมีต่อภาคหน้านะครับ)- ขอบคุณรูปจาก https://www.imdb.com/title/tt0147800/ เรื่องที่สองที่แนะนำ คือเรื่อง 10 things I hate about you ครับ ผมอินกับเรื่องนี้มาก สนึกแถมมีหลาย ๆ ฉากให้ประทับใจ อีกทั้งภายในเรื่องยังใช้ภาษาได้สวยมากครับสำหรับผม ใช้จริง ข้อนี้สำคัญที่สุดครับ คุณต้องใช้จริงครับ ตอนแรกผมก็ไม่รู้จะคุยกับใคร เพราะที่บ้านก็ไม่มีใครพูดกับ แต่!! อย่าเพิ่งเลิกล้มครับเพื่อน ๆ ต้องคุยกับตัวเองครับ ผมนี่แหละทำประจำหน้ากระจกตอนอาบน้ำ บางทีก็บ่นเองบ้างครับ อย่าไปสนใจว่าใครจะมองเราอย่างไรเราจะพัฒนาครับ คิดไว้แค่นี้ ถ้าเรามัวแต่ care สายตาคนอื่น เราก็ไม่มีวันพัฒนาได้ครับ คุยกับตัวเองบ่อย ๆ คิดเป็นภาษาอังกฤษ และหาเพื่อนในเกมเป็นชาวต่างชาติครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ มากนะครับ สำหรับบทความแรกผมขอเริ่มจากอะไรสั้น ๆ ก่อนนะครับ อยากให้เพื่อน ๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ก่อน ส่วนบทความหน้าและต่อไป ผมจะมาพูดถึง application ในมือถือที่ใช้จริง ช่วยจริงครับ แถม tips ต่าง ๆ อีกอย่าง การฝึกสำเนียง พูดอย่างไรให้ต่างชาติเข้าใจ ซึ่งอยากให้เพื่อน ๆ คอยติดตามด้วยนะครับผม หรือเพื่อน ๆ คนไหน อยากให้ผมพูดเรื่องอะไรเพิ่มเติม สามารถ comment ไว้ด้านล่างเลยนะครับ ขอบคุณครับผม Don't be afraid to fail, be afraid not to try - Lessons from Yoda and Dad (2.5 Minute Read)