คุณเคยเห็นเด็กเก่งไหม เขาเก่งมากๆ แต่พอทำอะไรพลาดขึ้นมาสักอย่าง เขากลับร้องไห้เป็นวักเป็นเวรเพราะยอมรับความผิดพลาดไม่ได้ นั่นแหละครับ อันตรายของการชมลูกภาพโดย Marius Mangevicius จาก Pixabay ผมคิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินวิธีการเลี้ยงลูกด้วยคำชม ว่าคำชมคือการเสริมแรง หรือกระตุ้นในทางบวกให้เด็กๆ ทำในสิ่งพึงประสงค์ รู้กันมาอย่างนี้ คุณพ่อคุณแม่เลยชมลูกกันใหญ่“เก่งมากจ้ะ”“ยอดเยี่ยมเลย”“ดีมากลูก”ถ้อยคำเหล่านี้เป็นเสมือนยาพิษที่ฆ่าทักษะชีวิตของลูกคุณทีละน้อยๆ ลองคิดด้วยตรรกะแบบเด็กๆ ในทันทีที่คุณได้รับคำชม คุณดีใจ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นครับ ถ้าคุณทำพลาดจนไม่ได้รับคำชมคุณจะเสียใจมากใช่ไหมล่ะครับ ไม่ใช่แค่เสียใจ เด็กที่คุ้นชินกับคำชมแบบนี้ จะมีอาการ ‘รับไม่ได้’ ในทันทีที่เขาก้าวพลาด เพราะคำชมของพ่อแม่ได้ตีตราลูกเอาไว้แล้วว่า ‘ห้ามทำพลาด’ ครับภาพโดย Pexels จาก Pixabay ผมไม่ได้สนับสนุนให้คุณด่าลูก แต่ผมจะมาช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ชมลูกได้โดยไม่ทำร้ายเขาทางอ้อม วิธีง่ายๆ คือ อย่างชมแค่ว่าดีมาก เก่งมาก เยี่ยมมาก แต่ให้บอกเขาถึงวิธีการที่เขาทำสิ่งนั้นได้ดี ยกตัวอย่างเช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งลูกสาวผมตัดกระดาษได้ตรง คำชมของผมไม่ใช่แค่บอกว่าเก่งมาก แต่ผมบอกว่า “หนูมีความพยายามมากๆ เลย พ่อเห็นหนูค่อยๆ ฝึกทำทีละนิดๆ ทุกวันจนทำได้ นั่นยอดเยี่ยมมากเลยนะลูก”ผมไม่ได้บอกลูกว่า “เก่งมาก” เพราะถ้าพูดแค่นั้น ลูกจะคิดว่าเขาเก่งเพราะตัดกระดาษได้ตรง ถ้าวันหน้าเขาตัดไม่ตรง เขาก็จะผิดหวังกับตัวเอง สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง และเสียใจที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง แต่ผมบอกลูกครับว่าการที่ลูกฝึกทีละนิดทุกวันจนทำได้นั่นยอดเยี่ยมมาก การพูดแบบนี้เท่ากับผมส่งสาล์นให้ลูกว่าตัดตรงหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ สำคัญที่เขาฝึกจนสำเร็จ ถ้าวันหนึ่งเขาไปเจอแบบตัดกระดาษที่ยากกว่านี้แล้วเขาทำไม่ได้ เขาจะไม่รู้สึกผิดหวังกับตัวเอง แต่เขาจะกลับไปคิดหาวิธีทำให้มันตรง ด้วยการตั้งใจค่อยๆ ทำทีละนิดจนกว่าจะสำเร็จครับถ้าหากคุณชมแค่ เก่งมาก ดีมาก เยี่ยมมากจนติดปาก ให้คุณเริ่มง่ายๆ ด้วยขั้นตอน 3 ข้อ ต่อไปนี้1. ห้ามปากตัวเองให้ทัน อย่าเพิ่งชมแต่คิดก่อนชม2. เลิกโฟกัสผลลัพธ์แต่ให้โฟกัสวิธีการ กระบวนการ หรือสิ่งที่เขาจะเอาไปใช้แก้ปัญหาได้ในอนาคต เช่น เขาวิ่งแข่งได้เหรียญทอง คุณคิดเลยครับอะไรเป็นปัจจัยให้เขาชนะ คุณก็อาจจะได้คำตอบว่าเขาชนะเพราะเขาซ้อมหนัก มาถึงตรงนี้ อย่าโฟกัสที่การได้เหรียญทอง แต่จงโฟกัสที่การซ้อมภาพโดย Michal Jarmoluk จาก Pixabay 3. ชมสิ่งที่เราโฟกัสในข้อ 2. เช่น พอลูกเอาเหรียญทองมาอวด คุณก็บอกเลยว่า “พ่อเห็นหนูซ้อมหนักทุกวัน มาตลอดสามเดือน นั่นยอดเยี่ยมมากที่สุด เหรียญนี่เป็นรางวัลของการที่หนูตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก พ่อดีใจด้วยจริงๆ นะครับลูก”ถ้าคุณพูดอย่างนี้ หากวันข้างหน้าลูกคุณพลาดพลั้งไม่ได้เหรียญทอง เขาจะไม่ตีโพยตีพายแต่จะคิดได้เองครับว่าต้องกลับไปซ้อมให้หนักกว่าเดิม จนกว่าจะทำสำเร็จหยุดทำร้ายลูกด้วยคำชมแบบเดิมๆ แล้วหันมาเสริมทักษะชีวิตให้ลูก ด้วยคำชมที่ถูกต้องกันนะครับภาพโดย Mehrshad Rezaei จาก Pixabayเครดิตภาพปก ภาพโดย Hans Kretzmann จาก Pixabay ทัพสหพนธ์