ความหมายที่ลึกซึ้งของ “การฟัง”

หากพูดถึงทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เราคงจะหนีไม่พ้นกับ 4 ทักษะหลักที่สำคัญ นั่นคือ ฟัง พูด อ่านและเขียน ซึ่งหากเราคิดตามลำดับพัฒนาการในวัยเด็ก การฟังจะเป็นทักษะการสื่อสารแรกสำหรับมนุษย์ เช่นเดียวกันกับเด็กที่มักจะหันไปตามเสียงต่างๆ ที่ดังขึ้นและแสดงความสนใจกับเสียงนั่นเอง
แม้ว่า “การฟัง” จะเป็นทักษะที่เราใช้อยู่ตลอดเวลา ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถ “ฟัง” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะนั่นอาจจะเป็นเพียงแค่ “ได้ยิน” เท่านั้น เพราะความจริงแล้ว “การฟัง” และ “การได้ยิน” มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
หากพิจารณาตามตัวอักษรภาษาอังกฤษของคำทั้งสองคำ มันมีความหมายที่ซ่อนไว้อยู่อย่างลึกซึ้งมาก
“การได้ยิน” ภาษาอังกฤษเขียนว่า “HEAR” เห็นไหมคะ ว่าภายในคำนี้มีส่วนประกอบของคำว่า “EAR” ที่แปลว่า “หู” ซ่อนอยู่ จึงหมายความว่า หากเราต้องการได้ยิน เราต้องใช้หูเป็นอวัยวะที่สำคัญเพื่อช่วยในการฟัง เสียงนั้นจึงจะดังผ่านเข้าหูของเรา
Advertisement
Advertisement
“การฟัง” ภาษาอังกฤษเขียนว่า “LISTEN” หากเราวิเคราะห์ตัวอักษรของคำนี้ เราจะพบตัวอักษรที่สลับกันอยู่ เมื่อนำมาเรียงใหม่จะพบคำศัพท์คำว่า “SILENT” ที่แปลว่า “เงียบ” จึงหมายความว่า หากเราต้องการได้ฟัง เราต้องเงียบเพื่อมีสติและสมาธิในการรับฟัง จึงจะทำให้เกิดการสื่อสารอย่างสมบูรณ์ถูกต้อง
ทีนี้ลองมาดูตัวอักษรภาษาจีนกันบ้างนะคะ ถือได้ว่าภาษาจีนมีความหมายสอดแทรกอย่างลึกซึ้งมากเข้าไปอีก
คำว่า “ฟัง” ภาษาจีนอ่านออกเสียงว่า “TING” ซึ่งประกอบไปด้วยตัวอักษรย่อยรวมกัน ได้แก่คำว่า หู กษัตริย์ ตัวคุณ ตา การรวมสนใจเป็นหนึ่งเดียวและ หัวใจ มาดูความหมายของแต่ละองค์ประกอบกันค่ะ
- EAR (หู) หมายถึง การใช้หูเป็นอวัยวะสำคัญในการฟังเสียง
Advertisement
Advertisement
ลองทำความเข้าใจกับความหมายของ “การฟัง” แล้วหมั่นฝึกฝนการฟังของเราให้มีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้เราเป็นคนที่รู้จักให้เกียรติคนอื่นๆ และเข้าใจคนรอบข้างมากขึ้นด้วยการฟัง
Advertisement
Advertisement
ขอขอบคุณเครดิตภาพ :
ภาพปกจาก whoalice-moore โดย Pixabay
ภาพประกอบ 1 จาก PublicDomainPictures โดย Pixabay
ภาพประกอบ 2 จาก Couleur โดย Pixabay
ภาพประกอบ 3 จาก ผู้เขียน
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์