ทุกคนคงจะเคยกราบไหว้อะไรประหลาดๆกันในชีวิตสินะคะ ตั้งแต่ต้นไม้ ใบหญ้า พระอาทิตย์ ไปจนถึงสิ่งไม่มีเหตุมีผล แต่เราเชื่อว่ามันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันจะช่วยเหลือเราให้พ้นจากวิกฤติร้ายๆที่เราเจอในชีวิตได้ อย่างโควิด 19 พิษเศรษฐกิจ หรือลูกค้าที่ไม่เดินเข้าร้านเราแต่ไปเดินเข้าร้านอีกคนที่ทำงานคุณภาพแย่กว่าเราแทน เราก็เลยทำการกราบไหว้แปลกๆ ตั้งแต่กราบไหว้เสาไฟฟ้า กราบไหว้สัตว์พิการ ไปจนถึงกราบไหว้ต้นไม้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้เพิ่งมาเกิด เพราะว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 2 หมื่นปีมาแล้วคนสมัยนั้นกราบไหว้จอกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหน้าตาก็คือจอกธรรมดาที่เจอได้ทั่วไป แต่เขาเชื่อว่ากันว่า จอกนี้มีแค่อันเดียวบนโลก ซึ่งปรากฏว่ามีการค้นพบภายในว่ามันคืออัฐิโบราณที่ทำจากปูนและถกค้นพบในอิสราเอล ซึ่งว่ากันว่าเป็นที่เก็บอัฐิของชาวยิว แต่ชาวคริสต์ศาสนากลับเชื่อว่าเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์เฉยเลยสิ่งที่พิเศษคือ้างบนจอกมีคำจารึกเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ อ่านไม่ออก ได้บอกว่า อยากโอบกอดบุตรชายของโยเซฟฟ น้องชายของพระเยซู ซึ่งนี้อาจเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าพระเยซูมีครอบครัวจริงๆ แต่นักวิชาการหลายคนเชื่อว่ามันน่าจะเป็นชื่อของบคคลธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับพระเยซูหรือคริสต์ศาสนาเลยสักนิด ซึ่งถ้วยโบราณเก่าแก่ที่มีรูปร่างคล้ายๆจอกและใช้เป็นที่เก็บอัฐิของชาวยิวนั้น ก็มีอายุมานานกว่า 16000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีอะไรเกี่ยวกับพระเยซูเลยสักนิดเดียวมงกุฏที่สามารถเปลี่ยนสีได้ของกษัตริย์องค์หนึ่ง เรื่องนี้ก็สร้างความแปลกใจให้กับผู้คนอีกแล้วเมื่อจู่ๆกษัตริย์ก็สามารถเปลี่ยนสีจากสีเขียวหยกมาเป็นสีแดง จาสีแดงไปเป็นสีน้ำเงินได้ อย่างกับแสงของดวงดาวที่ระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ไขปริศนานี้ด้วยเทคโนโลยีนาโนที่ทันสมัย เขามองว่าส่วนผสมอนุภาคของทองคำและเงินที่มีขนาดโมเลกุล 550 นาโนเมตร ทำให้สามาถเปลี่ยนสีของแก้วข้างในให้กลายเป็นแก้วที่มีพลังงานหักเหของแสงได้ตามคลื่นความถี่ที่มากระทบ ทำให้เกิดเป็นสีแดง สีเหลือง และสีต่างๆและถ้าคุณอยากเห็นมงกุฏอันนี้ คุณก็สามารถไปเยี่ยมชมได้ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ ห้อง 441 ซึ่งมันจะมีโชว์การเปลี่่ยนสีของมงกุฏด้วยนะคะ ซึ่งก็คงต้องรอให้จบโควิดก่อนถึงจะเดินทางไปเข้าชมได้คงไม่ใช่เรื่องปลกที่จะมีการขุดค้นพบซากเรือโบราณที่จมอยู่ในทะเลสาบ แม้แต่ในประเทศไทย เมื่อเราสำรวจทะเลที่ห่างจากหาดป่าตองไปสิบนาที เราก็ยังเจอกลุ่มเรือโจรสลัดที่ดักปล้นเรือเราและขโมยทรัพย์สินของเรารวมถึงทำลายชีวิตเราเลย ที่นั้นซากเรือโบราณก็เยอะเหมือนกัน แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศอิสราเอล ช่วงฤดแล้งที่ชาวบ้านพากันไปเดินเล่นที่ทะเลสาบ ก่อนจะพบซากเรือเก่าๆซากเรือหนึ่ง ซึ่งเขาสันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นเรือที่พระเยซูและลูกศิษย์ใช้แล่นไปตามทะเลสาบเพื่อแจกจ่ายอาหารอย่างขนมปังให้แก่ชาวเมืองกว่า 4 พันก้อนบางตำนานก็เล่าว่าพระเยซูใช้ขนมปัง 7 ก้อน และปลาตัวเล็กๆก็สามารถเลี้ยงคนได้ทัวทั้งเมือง ซากเรือเก่าๆนี้จึงได้กลายเป็นที่กราบไหว้ และที่เคารพบูชาเหมือนจุดแลนดิิ้งการกราบไหว้ขอพรขอความโชคดีความสิริมงคลของคนในหมู่บ้านไปด้ามจับดาบของพระเจ้าชาร์ลประเทศอังกฤษ บางตำราก็เล่าว่าดาบศักดิ์สิทธิ์์นั้นเป็นตัวตัดสินผู้บัญชาการและอัศวิน มันจึงเป็นของสำคัญของชาวฝรั่งเศส และเป็นที่มาของตำนานดาบเอกซ์แคลิเบอร์ด้วยผ้าห่อศพแห่งตูรินที่ดูยังไงก็เป็นผ้าธรรมดา ซึ่งทำมาจากลินิน ยาว 4.2 เมตร กว้าง 1.1 เมตร ซึ่งผู้คนเชื่อและศรัทธาว่าผ้านี้คือผ้าที่พระเยซูสวมใส่ก่อนที่จะถูกจับไปตรึงกางเขน และเป็นความเชื่อที่สืบทอดยาวนานกันมากว่า 2000 ปี และรอยดำๆเขียวๆที่อยู่บนเนื้อผ้านั้น เขาก็เชื่อกันว่ามันคือเลือดหรือพระโลหิตของพระเยซูค่ะ ซึ่งไม่ว่าเราจะดูยังไง มันก็แค่เศษผ้าเก่าๆสกปรกๆธรรมดาค่ะ ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ ทุกท่านที่อ่านก็โปรดใช้พิจารณาในการอ่านและเลือกสิ่งที่ตัวเองเชื่อนะคะ ขอบคุณค่ะขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปกรูปภาพประกอบที่ 1 โดย Clker-Free-Vector-Images / 2 โดย GDJ / 3 โดย Saydung89