ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ได้เริ่มลุกลามไปในแต่ละประเทศทั่วโลก และเริ่มควบคุมได้ยาก จนหลาย ๆ ประเทศเริ่มมีมาตรการ 'การปิดเมือง' เพื่อมาควบคุมสถานการณ์ และจำกัดวงกว้างของการแพร่ระบาด แต่ทราบไหมครับ ว่าการปิดเมืองคืออะไร แล้วทำไปเพื่ออะไรกัน ซึ่งแต่ละประเทศนั้นต่างก็มีวิธีการปิดเมืองในแบบของตนเองที่น่าสนใจไม่น้อย รูปภาพจาก : Unsplash ถึงเวลาปิดเมืองแล้วหรือยัง? เชื่อว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ คำถามนี้คงเป็นหนึ่งในข้อสงสัยหลัก ๆ ในใจของใครหลายคนที่ว่าตอนนี้ประเทศไทยของเราถึงเวลาที่จะต้องปิดเมืองเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 กันได้หรือยัง โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศใหญ่ ๆ ต่างพากันทยอยประกาศปิดเมืองกันไปตาม ๆ กัน แต่ทราบมั้ยครับ ว่าความหมายของการปิดเมืองในแต่ละประเทศนั้นไม่ได้มีความเหมือนกันซะทีเดียว บางประเทศอาจปิดแค่คนออกประเทศ บางที่ก็อาจจะจำกัดพื้นที่ของผู้คน หรืออาจไปถึงขั้นปิดตายเมืองกันไปเลยก็มีเหมือนกัน รูปภาพจาก : Pixabay ปิดตายเมืองแรก อู่ฮั่น อย่างที่เราทราบกันดีว่าเมืองแรกที่ถูกประกาศปิดก็คือจุดต้นกำเนิดของเจ้าเชื้อไวรัสอย่าง เมืองอู่ฮั่น (หูเป่ย์) นั่นเอง โดยหลังจากที่ได้มีการประกาศมาตรการเพื่อป้องกันให้คนในเมืองมีการเข้าออกให้เหลือเพียงทางเดียว จำกัดการออกมาข้างนอกบ้านเฉพาะการทำธุรกรรมที่จำเป็น และต้องอยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร รวมไปถึงจำกัดการใช้ยานพาหนะให้เหลือเพียงแค่หน่วยงานสาธารณสุขเท่านั้น เพื่อจำกัดเชื้อให้อยู่ในวงแคบ และสามารถรักษาได้ทันท่วงที นับเป็นมาตรการที่ค่อนข้างเด็ดขาดและชัดเจน เพื่อให้ประชาชนที่ติดเชื้ออยู่ภายในเมือง ไม่ออกไปแพร่ด้านนอกนั่นเอง แต่น่าเสียดายที่มาตรการนี้ออกมาช้าเกินไป เพราะได้มีประชาชนจำนวนมากได้ทยอยออกไปจากเมืองไปพร้อมเชื้อก่อนหน้านี้แล้ว รูปภาพจาก : Unsplash เกาหลี ปิดทั้งเมืองหรือแค่แทกู อย่างที่ทราบว่าเมืองที่เริ่มระบาดอย่างรุนแรงถัดมาจากอู่ฮั่นนั้นก็คือ แทกู สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ที่มีปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทางรัฐกลับประกาศเพียงแค่ให้เมืองแทกูเป็น "เป็นเขตบริหารพิเศษด้านสาธารณสุข" ไม่ได้เป็นการปิดการเข้าออกของผู้คนภายในเมืองแต่อย่างใด และมีมาตรการในการงดการใช้พื้นที่สาธารณะในการชุมนุม หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงการจำกัดผู้คนที่เดินทางเข้าสู่ประเทศ ซึ่งปัจจุบันมาตรการนี้ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีพอสมควร เพราะผู้ป่วยเริ่มมียอดที่ชะลอตัวและเชื้อมีการกระจายไปยังเมืองต่าง ๆ น้อยมาก แต่โดยรวมก็ยังถือว่าส่งผลต่อการใช้ชีวิตทั้งประเทศอยู่ดี อย่างกรุงโซลที่ดูเงียบเหงาลงไปมาก หลังจากที่พบว่ามีผู้ป่วยเข้ามารักษาภายในเมือง แม้จะยังไม่ระบาดเป็นวงกว้างเหมือนแทกู แต่ก็ทำให้ผู้คนเกิดความตื่นตัว และระมัดระวังในการออกไปข้างนอกมากขึ้น รูปภาพจาก : Unsplash ศูนย์กลางการแพร่ฝั่งยุโรป อิตาลี นับเป็นประเทศแรก ๆ ที่มีการประกาศปิดเมืองทั้งประเทศ จากตอนแรกเริ่มที่มีการจำกัดการเข้าออกของผู้คนในเมืองต่าง ๆ ที่เริ่มมีการระบาด จนต่อมาเริ่มพบว่ามีผู้ติดเชื้อกระจายออกไปในหลายเมืองมากขึ้น จนสถานการณ์เริ่มบานปลายและเริ่มควบคุมไม่ได้ จนในที่สุดทางรัฐบาลอิตาลีต้องออกมาประกาศมาตรการปิดเมืองทั้งประเทศเพื่อคัดกรองผู้คน และสามารถคัดแยกผู้ติดเชื้อได้ โดยที่ภายในประเทศต้องงดกิจกรรมการชุมนุมประเภท รวมถึงการเดินทางข้ามเมืองเช่นกัน รูปภาพจาก : Unsplash เพื่อนบ้านเริ่มต้านไม่ไหว แล้วไทยล่ะ? และล่าสุดกับประเทศเพื่อนบ้างอย่างมาเลเซียที่พึ่งประกาศปิดประเทศไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยออกมาตรการจำกัดการเดินทางของผู้คนในประเทศและนอกประเทศ ห้ามชาวมาเลเซียออกนอกประเทศ หรือหากกลับเข้าประเทศจะต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน และห้ามชาวต่างเข้าประเทศจนถึงสิ้นเดือนนี้ (31 มี.ค.) งดกิจกรรมทุกชนิด ปิดหน่วยงานราชการทั้งหมด และเดินหน้าคัดกรองผู้เสี่ยงติดเชื้อเต็มกำลัง ส่วนประเทศสิงคโปร์ก็ได้ออกมาประกาศห้ามเข้า นักท่องเที่ยวจากยุโรป 4 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี เยอรมัน สเปน และฝรั่งเศส แต่ยังไม่มีนโยบายปิดประเทศเพราะเชื่อว่ายังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในขณะที่เมียนมาร์และลาวประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับจีน ที่ถึงแม้จะยังไม่มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อ แต่ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวในมาตรการปิดเมือง อย่างเมียนมาร์ที่ได้ออกมาระงับวีซ่า 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยง และสั่งการปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ ส่วนทางสปปลาว เองก็เริ่มมีมาตรการปิดท่าเรือเพื่อป้องกันการเดินทางเข้าออกโดยไม่ได้ผ่านการคัดกรองเชื้อเช่นกัน และถึงแม้ว่าปัจจุบันไทยเราจะยังคงไม่ออกมาตรการปิดเมืองนี้ออกมา แต่ก็ได้เริ่มมีคำสั่งในการปิดสถานที่ชุมนุมหลายแห่งเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อไปบ้างแล้ว และเชื่อว่าถ้าหากพวกเราทุกคนปฏิบัติตนตามมาตรการการดูแลตัวเอง และป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น รัฐไม่ปิดเมืองแต่เราสามารถปิดบ้านอยู่ดูอาการตนเองได้ เท่านี้พวกเราก็จะช่วยกันผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้อย่างแน่นอน อ้างอิง : DailyNews , DailyNews , Bangkokbiznews , Banfkokbiznews , ThaiPBS , Thairath , The Standard เรื่อง : PARICH ภาพหน้าปก : Unsplash