"บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักแบดมินตันคู่มือผสมอันดับ 3 ของโลก คว้าแชมป์ "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น" (YONEX Thailand Open) เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 และ รายการ "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น" เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 มาครองได้สำเร็จ สร้างความสุขให้แฟน ๆ ชาวไทยที่ติดตามชมกันเป็นอย่างมาก “บาส-ปอป้อ” ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ และการแข่งขันก็ยังไม่จบเพียงเท่านั้น ยังมีรายการแข่งขัน รายการ “เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ 2020" ให้ลุ้นกันอีก แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เส้นทางการเป็นนักกีฬาของทั้งคู่เป็นมาอย่างไรบ้าง เราเลือกมาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักทั้งคู่มากขึ้น 10 เรื่อง ด้วยกัน 1. "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ บาส เกิดและเติบโตที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 ปัจจุบันอายุ 23 ปี ศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นนักกีฬาแบดมินตันทั้งประเภทชายคู่และคู่ผสม ชีวิตผูกพันกับการเล่นกีฬามาโดยตลอด บุคลิกของ บาส จะเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่ถ้าอยู่กับเพื่อน ๆ ก็จะมีความกวน ๆ สไตล์วัยรุ่นแฝงอยู่เช่นกัน ติดตาม บาส ได้ทาง IG :: b_dechapol 2. "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ปอป้อ เกิดและเติบโตที่จังหวัดอุดรธานี วันเกิด18 เมษายน พ.ศ. 2535 อายุ 28 ปี สำเร็จการศึกษาจาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมหาวิทยา เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยที่มีแฟนคลับติดตาม IG :: popor_sapsiree เป็นจำนวนมาก ของสะสมของ ปอป้อ คือ รองเท้ากีฬา ซึ่งสะสมด้วย และใช้ใส่ในการแข่งขันจริง ๆ ด้วย 3. จุดเริ่มต้นของการเล่นกีฬา แบดมินตัน ของ “บาส” บาส รักการเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก ๆ เล่นกีฬาได้หลากหลายชนิด ที่ถนัดมาก ๆ คือ ฟุตบอล และ เทนนิส แต่ตัดสินใจเลือกเล่น แบดมินตัน เพราะเป็นกีฬาที่สะดวกกับการใช้ชีวิตมากที่สุด เพราะสนามแบดมินตันอยู่ใกล้บ้าน คุณพ่อ คุณแม่สะดวกที่จะขับรถรับส่ง จึงเล่นมาเรื่อย ๆ แข่งมาเรื่อย ๆ ได้รับรางวัลจากการแข่งขันมาตั้งแต่เด็ก ๆ และในที่สุดก็ได้มาอยู่ในโครงการ เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี่ จุดเริ่มต้นของการเป็นนักกีฬาอาชีพ 4. จุดเริ่มต้นของการเล่นกีฬา แบดมินตัน ของ “ปอป้อ” ปอป้อ เริ่มจาการที่ จังหวัดอุดรธานีเพิ่งสร้างสนามแบตมินตันขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่จึงชวนไปออกกำลังกายด้วยกัน เมื่อมีการแข่งขันเกิดขึ้นจึงเริ่มแข่งทันที ครั้งแรกของการแข่งขัน ผลที่ออกมาคือแพ้ แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพราะกลับคิดว่าถ้าตั้งใจซ้อมจริง ๆ ก็น่าจะชนะได้ จึงตัดสินใจตั้งใจเล่นจริง ๆ จัง ๆ เป็นแรงกระตุ้นตัวเองว่า ถ้าตั้งใจจริง ๆ จัง ๆ จะทำได้ขนาดไหน ซึ่งผลงานที่เราได้เห็นกันในวันนี้ นั่นคือคำตอบ^^ 5. กีฬาแบตมินตัน ในความรู้สึกของ “บาส-ปอป้อ” แบดมินตัน สำหรับ ปอป้อ เป็นกีฬาที่มีเสน่ห์ ต้องใช้ไหวพริบ ต้องคิด ต้องแก้ไขสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพราะไม่รู้เลยว่าเวลาที่ลงสนามจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง คู่แข่งมีความแตกต่างกัน เทคนิคที่ใช้กับคนหนึ่ง ไม่สามารถใช้กับอีกคนได้ ต้องคิดแก้เกมอยู่ตลอดเวลา เมื่อคู่ต่อสู้แก้เกมกลับมา ก็ต้องคิดว่าจะต้องแก้เกมกลับไปอย่างไร ในช่วงเวลาสั้น ๆ ของการเล่นแต่ละครั้ง ส่วน บาส ชอบที่แบดมินตัน เป็นกีฬาที่ไม่ต้องมีการปะทะกัน และเห็นถึงความมีเสน่ห์ของ แบดมินตัน เช่นเดียวกับ ปอป้อ 6. จุดเริ่มต้นของการมาจับคู่กัน บาส กับ ปอป้อ รู้จักกันมานานแล้ว เพราะต่างก็ซ้อม แบดมินตัน ที่สนาม เอสซีจี เหมือนกัน เริ่มแรกต่างฝ่ายต่างตีประเภทคู่เป็นชายคู่หญิงคู่ของตัวเองอยู่แล้ว บาส ได้ไปขอโค้ชว่าอยากจะตีคู่ผสม คู่กับ ปอป้อ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ซึ่งเป็นการลองตีคู่ผสมแบบสนุก ๆ ในช่วงแรก ไม่ได้คิดที่จะเป็นคู่ในการแข่งแบบจริง ๆ จัง ๆ แต่เมื่อโค้ชเห็นการเล่นที่ประสานกันได้อย่างดีของทั้งคู่ เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคู่ในการแข่งขันจริง ๆ จึงให้ทั้งคู่ฝึกซ้อมกันอย่างจริงจัง และทั้งสองก็กลายเป็นคู่ผสมที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ 7. ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก บาส-ปอป้อ ลงแข่งชิงแชมป์ประเทศไทย หลังจากที่จับคู่ซ้อมกันได้ไม่นาน ทำให้พ่ายแพ้ในการแข่งครั้งนั้น เพราะยังเล่นไม่เข้าขากัน แต่ความพ่ายแพ้ ไม่เคยหยุด ปอป้อ เช่นเดียวกับที่เริ่มการแข่งขันแบดมินตันครั้งแรก เมื่อแพ้ ปอป้อ กับ บาส จึงหันมาคุยกันมากขึ้น ปรึกษา และปรับสไตล์การเล่น การดูรูปแบบเกม วิธีการในการเล่น เพราะการวิเคราะห์การเล่นหลังจากการพ่ายแพ้ จะช่วยให้การซ้อมเพื่อแข่งในครั้งต่อไปดียิ่งขึ้น 8. "ความโดดเด่น" ในความคิดของกันและกัน ปอป้อ มองว่า บาส มีจุดแข็งในเรื่องของความเร็ว และความแข็งแรง เพราะสามารถช่วยให้เกมสามารถดำเนินไปได้ด้วยดีได้ หากว่า ปอป้อ ปล่อยลูกออกไปได้ไม่ดีนัก ด้วยความเร็วของ บาส จะสามารถทำให้แก้เกม กลับมาได้ ทำให้เกมดำเนินต่อไปได้ จุดแข็งของ ปอป้อ ในความคิดของ บาส คือ ปอป้อ สามารถรับแรงตบจากคู่ต่อสู้ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นผู้ชายได้ดี และสามารถออกข้างหลังได้โดยไม่เสียเปรียบฝ่ายตรงข้าม ปอป้อ สามารถเติมเต็มให้ บาส ได้อย่างดี เช่น เมื่อ บาส กระโดดตบ แล้วตัวเองหลุดออกนอกสนามไป ฝ่ายตรงข้ามตีลูกเปลี่ยนทาง ปอป้อ ก็จะเข้าไปรับลูกได้อย่างทันท่วงที 9. เวลาในการซ้อมแบดมินตัน บาส และ ปอป้อ ซ้อมแบดมินตัน วันละ 6-7 ชั่วโมง โดยแบ่งการซ้อม เช้า 3 ชั่วโมง เย็น 3-4 ชั่วโมง ซึ่งทำอย่างนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ยังเรียน ก็จะตื่นมาซ้อมก่อนที่จะไปเรียน และหลังจากเลิกเรียนก็กลับมาซ้อม เรียกว่ามีความมุ่งตั้งใจอยู่ตลอดเวลา ในการแข่งขันแต่ละครั้งนั้น ปอป้อ บอกว่า ทุกความบกพร่อง คือสิ่งที่จะต้องแก้ไขในครั้งต่อไป เพราะทุกครั้งที่ลงแข่ง จะมีจุดบกพร่องเสมอ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ จะต้องมีจุดที่ต้องแก้ไขตลอดเวลา ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทั้งสองคนเรียนรู้ และแก้ไขในการแข่งขันครั้งต่อ ๆ ไปเสมอ 10. “เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” คือชัยชนะที่ 3 ที่ทุกคนรอคอย วันที่ 27-31 มกราคม คือช่วงเวลาที่ "บาส-ปอป้อ" ลงแข่งขัน “เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” เป็นช่วงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศ ร่วมเชียร์กันเต็มที่ เพราะหากชนะครั้งนี้เท่ากับทัวร์นาเมนต์ครั้งประวัติศาสตร์ 3 รายการ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ผู้ที่ชนะจะเป็นของไทยทั้งหมด ซึ่งจากการแข่งขันทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา "บาส-ปอป้อ" คนมองว่าเป็นไปตามแผนการเล่นที่วางไว้ และครั้งนี้ ทั้ง 2 คนก็พร้อมพร้อมอย่างเต็มที่เช่นกัน แม้ว่าจะต้องเจอศึกหนักก็ตาม คลิกอ่านเรื่องราว ปอป้อ เพิ่มเติม >>>>> ทำความรู้จัก "ปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย" นักแบดมินตันหญิงทีมชาติไทย ขอบคุณภาพจาก IG :: popor_sapsiree IG :: b_dechapol 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 อ้ปเดตข่าวนักกีฬา ส่องนักบอลดูสดทุกแมทช์บน App TrueID โหลดฟรี!