จ.ตราดเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามหลายแห่ง มีชุมชนน่ารักๆ และยังเป็นเส้นทางเชื่อมโยงไปสู่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชาอีกด้วย สำนักงานพื้นที่พิเศษเกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง หรือ อพท.1 จึงเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ตราด-เกาะกง เพื่อการท่องเที่ยว วัฒนธรรม ชุมชน และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ การเดินทางมา จ.ตราดในครั้งนี้เราเริ่มกันที่ ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ที่ธนาคารปูม้าบ้านแหลมกลัด ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่วเชิงอนุรักษ์ ให้เราได้มาศึกษาเรื่องราวการเพาะพันธุ์ปูม้าโดยชาวบ้าน โดยเริ่มจากการรับปูไข่จากชาวประมงเพื่อนำมาเพาะไข่ จากนั้นเมื่อไข่ฟักตัวก็นำลูกปูปล่อยคืนสู่ท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีการทำหญ้าทะเลเทียม เพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่และสัตว์น้ำน้อยใหญ่ในท้องทะเล นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาร่วมกันทำหญ้าทะเลเทียมและนั่งเรือเพื่อไปวางหญ้าทะเลเทียมได้ ถือว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติที่ดีเลยที่เดียว จากบ้านแหลมกลัดเรามุ่งหน้าสู่ อ.คลองใหญ่ เพื่อไปที่ ศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาติไทย ไปเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ.2522 จากความไม่สงบในประเทศกัมพูชาทำให้มีผู้อพยพหนีจากภาวะสงครามเข้าสู่ จ.ตราด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจึงรับสั่งให้เปิดที่นี่เป็น ศูนย์สภากาชาดไทยเขาล้าน เพื่อเยียวยาชาวกัมพูชาผู้ลี้ภัยจากภาวะสงคราม ปัจจุบันที่นี่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ในครั้งนั้นให้แก่คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ หลังจากเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์กันแล้ว เราเดินทางต่อไปที่ หาดบาดชื่น ชายหาดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดบนชายฝั่ง จ.ตราด ที่นี่เป็นหาดทรายทอดยาว มีร้านอาหารหลายร้านให้เราได้นั่งดื่มดำธรรมชาติ หาดบานชื่นมีหาดทราย ทะเล ที่สวยงามและสงบ เหมาะกับการพักผ่อนเป็นที่สุด จากนั้นเราหาที่พักพักผ่อนสักคืน ก่อนจะเดินทางไปที่ด่านพรมแดนบ้านหาดเล็ก เพื่อมุงหน้าเข้าสู่ประเทศกัมพูชาต่อไป ด่านพรมแดนบ้านหาดเล็ก ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของ จ.ตราด นอกจากจะเป็นจุดตรวจคนเข้าเมืองแล้วที่นี่ยังมีตลาดชายแดน มีสินค้าสำหรับขาช๊อปให้ได้เลือกซื้อ ทั้ง ปูทะเล กุ้งแห้ง ผลไม้ ฯลฯ ซื้อเสบียงเสร็จเราก็เตรียมตัวเดินทางต่อกัน การผ่านด่านพรมแดนที่นี่ไม่ยากเย็น แค่มีหนังสือเดินทางก็สามารถเดินทางเข้าสู่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชาได้แล้ว จ.เกาะกง เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศกัมพูชา เป็นเมืองริมทะเลที่สวยงาม หลายคนอาจจะรู้จักเกาะกงในเรื่องของโรงแรมและคาสิโน แต่ครั้งนี้ เราอยากพาทุกคนไปรู้จักเกาะกงในแง่ของธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านกันบ้าง เริ่มกันที่ การไปศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเกาะกงที่ วัดปากคลอง กันก่อน ที่นี่ในอดีตเคยเป็นที่จำพรรษาของหลวงพ่อหมึก เกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดนี้มีพื้นที่ติดกับชายทะเล มีทัศนียภาพสวยงาม ด้านในวัดประดิษฐานรูปปั้นหลวงพ่อหมึกขนาดใหญ่ให้ประชาชนศักการะบูชา เหมือนเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนการเดินทาง จากนั้นเราไปต่อกันที่ ป่าโกงกางบางคะยัค ไปนั่งเรือชมความงามของป่าโกงกางเนื้อที่กว่า 25,000 ไร่ ซึ่งเป็นป่าชายเลนที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ ที่นี้ยังมีหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งมีเชื้อสาย ไทย-เกาะกง คือคนเกาะกงที่สามารถพูดภาษาไทยได้ ทำอาชีพประมงอยู่กันอย่างเรียบง่าย หลังจากซึมซับวิถีชีวิตชาวประประมงกันแล้วเรือของเราแล่นออกมาในช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตก พระอาทิตย์ตกที่นี่สวยงาม ทิวทัศน์ป่าโกงกางและแม่น้ำที่ไหลไปบรรจบกับทะแล รวมกับภาพดวงอาทิตย์เคลื่อนลับของฟ้าไปเรื่อยๆทำให้ที่นี่สวยงามเกินบรรยายเลยจริงๆ นอกจากนี้ จ.เกาะกง ยังมีที่เที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์อีกมากมาย เช่น น้ำตกตาไต น้ำตกขนาดใหญ่ที่เกิดจากแม่น้ำทั้งสาย หรือเทวสถานโกรวครก เป็นเทวสถานกึ่งมณฑปกึ่งเจดีย์ศิ่งศักดิ์สิทธ์ของเมืองเกาะกง ฯลฯ ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ออกไปค้นหา เชื่อว่าเส้นทาง ตราด-เกาะกงนี้ เป็นเส้นทางที่น่าสนใจอีกเส้นทางหนึ่งเลยทีเดียว ขอขอบคุณ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)