สวัสดีเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกคนนะคะ:) วันนี้เป็นวันว่างของเรา เลยอยากจะมาเล่าทริปเล็กๆ 1 วันที่ "บางประอิน" ให้ทุกคนได้ฟังกัน ขอออกตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคนอยุธยาหรือคนกรุงเก่าแท้ๆแต่แทบจะไม่ค่อยไปเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์สักเท่าไหร่เลย!! เรียกได้ว่าวันหยุดทีไรไม่พ้นต้องเช็คอินอยู่ที่ร้านคาเฟ่ที่นู่นที่นี่สักแห่งทุกที แฮะๆ บทความนี้จึงอาจจะไม่ได้มีเกร็ดความรู้อะไรมากมาย แต่ขอเรียกว่ามาเล่าประสบการณ์ใหม่ๆให้ฟังแทนละกันเนาะ เราและเพื่อนเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถไฟที่นั่งธรรมดาๆ ราคาประหยัดนี่แหล่ะ ลมที่หน้าต่างพัดแรงเข้าหน้าอย่างจัง เส้นผมเรียกได้ว่ากระพือกันชุดใหญ่5555 แต่ก็เป็นอะไรที่ชิลล์ดี นั่งได้ไม่นานเราก็มาถึงสถานีบางประอินกันแล้ว หลังจากนั้นพวกเราก็รีบพุ่งตัวตรงไปยังรถสองแถวเพื่อนั่งไปยังที่หมาย นั่นก็คือ "พระราชวังบางประอิน" นั่นเอง ในที่สุดก็มาถึงทางเข้า ที่นี่ค่อนข้างเคร่งครัดกับการแต่งกายที่มิดชิดและเรียบร้อยพอสมควร จึงไม่แนะนำให้ใส่ชุดสั้นและรัดรูปเกินไปน้า อ่อ มีเก็บค่าเข้าชมด้วยนิดนึง คนไทย 30 บาท ถ้าแสดงบัตรนักเรียน/นักศึกษาเพียง 20 บาทเท่านั้น พื้นที่ที่นี่กว้างมาก ประมาณ 115 ไร่ได้ หากใครไม่สะดวกเดินเค้ามีรถกอล์ฟให่เช่าด้วยนะ แต่ทางเรานั้นมีงบที่จำกัดขอเดินเองดีกว่า ?? จึงอาจจะไม่ได้พาไปชมทุกบริเวณ แต่ก็พยายามเก็บรวบรวมภาพบรรยากาศมาฝาก เข้าไปดูกันเลยดีกว่าา!! เริ่มด้วยที่แรก เราเข้ามาในศาลากลางน้ำที่มีชื่อว่ากระโจมเนตร (เสียดายมากๆที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู) บริเวณนี้สามารถให้อาหารปลาได้ด้วย หากมองออกไปก็จะเห็นพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์ สวยงดงามมากๆ ตั้งอยู่กลางน้ำ เห็นเด่นตระการตาตั้งแต่ไกลเลย ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้สร้างขึ้น ถัดมาที่ประตูเทวราชครรไล ด้านภายนอกตัวอาคารเป็นสีขาว มีลักษณะของเสาและตัวอาคารที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามและประณีตทุกรายละเอียด บริเวณรอบๆมีทหารคอยเฝ้าตามจุดต่างๆด้วย ด้านในมีจุดขายเครื่องดื่มและไอศกรีมให้กับนักท่องเที่ยวด้วยนะ มาต่อกันที่หอวิฑูรทัศนา หอคอยสูงสีเหลืองแดงสด จำได้ว่าในแผ่นพับบอกว่าเป็นหอคอยสูงเอาไว้สำหรับดูดาวนั่นเอง เดินต่อมาหน่อยก็จะเจอกับพระที่นั่งเวหาศจำรูญ พระที่นั่ง 2 ชั้นที่สร้างด้วยศิลปะแบบจีนได้อย่างลงตัว อากาศที่นี่เรียกได้ว่าร้อนเอาเรื่องมากๆ เลย เป็นไปได้ถ้าพกร่มและพัดไปด้วยจะดีมากๆ เลย และแน่นอนว่าบางประอินไม่ทำให้เราผิดหวัง เดินออกมาทางด้านนอกห่างจากตัวพระราชวังเพียงเล็กน้อย ก็จะพบกับวัดเล็กๆที่ความงามไม่เล็กอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ "วัดนิเวศธรรมประวัติ"นั่นเอง แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปชมความงามของวัดนั้น ต้องนั่งกระเช้าฝาก เพื่อข้ามแม่น้ำสายเล็กๆไปอีกฝั่งหนึ่งเสียก่อน ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของวัดนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อเข้ามาถึงแล้วจะพบก็โบสถ์สีขาวเหลืองที่งดงามมากๆ หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นโบสถ์คริสต์ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นโบสถ์ไทยนั่นเอง เข้าไปดูข้างในกันดีกว่า บริเวณด้านในจะประดับประดาไปด้วยกระจกแก้วใสหลากสี เวลาแสงเข้ามาตกกระทบสวยงามมากๆเลยหล่ะ เข้ามากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเพลินไปกับความงามของวัด เผลอแปปเดียวก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ได้เวลาเดินทางกลับบ้านแล้ว หวังว่าเส้นทางการเดินทางที่ยาวนานหนึ่งวันของเรานี้จะทำให้ผู้อ่านได้รับความสุขกลับไปบ้าง ไม่มากก็น้อยน้า ขอบคุณที่อ่านด้วยกันมาจนจบนะคะ บ๊ายย บาย ปู๊นๆ~~