โอซาก้า เป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางความเจริญอีกแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นในหลายๆด้านทั้งการค้าและการท่องเที่ยว มีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้ประมาณสองล้านคน โดยใครที่จะมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนอกจากโตเกียวแล้ว ก็จะเป็นโอซาก้านี่แหละที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง โดยในวันนี้ผมจะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวและแลนด์มาร์กในเมืองโอซาก้ากันครับ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของโอซาก้าเลยก็ว่าได้ โดยสร้างขึ้นเมื่อ 400 ปีก่อน ด้านในปราสาทมีทั้งหมด 8 ชั้นโดยภายในมีทั้งลิฟท์และบันได ตัวปราสาทมีทั้งคูน้ำและกำแพงขนาดใหญ่สูงมากกว่า 30 เมตร โดยภายในปราสาทจะมีเรื่องราวของปราสาทโอซาก้าในอดีต เล่าถึงความเป็นมาก่อนที่จะมาเป็นปราสาทโอซาก้า และเมื่อเดินมาถึงชั้นบนสุดของตัวปราสาทจะเป็นจุดชมวิว สามารถมองได้ 360 องศาเลยทีเดียว (ค่าเข้า ผู้ใหญ่600เยน และเด็กต่ำกว่าอายุ15ปีเข้าฟรี) ย่านโดทมโบริ (Dotonbori) เป็นถนนสายเล็กๆเลียบคลองโดทมโบริ เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และความคึกคักของแสงสีเสียงในยามค่ำคืน โดยมีจุดเด่นคือ ป้ายไฟกูลิโกะขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีผู้คนมาถ่ายภาพด้วยมากที่สุด โดยใครที่มาโอซาก้าแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับป้ายไฟกูลิโกะยักษ์นี้ถือว่ามาไม่ถึงโอซาก้าเลยก็ว่าได้ โดยสองข้างทางมีร้านอาหารมากมาย ทั้งซูชิ ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ(พิซซ่าญี่ปุ่น) เป็นต้น หอคอยทสึเทงคาคุ (Tsutenkaku) เป็นหอคอยที่เป็นศูนย์กลางโอซาก้า โดยหอคอยนี้มีความสูงถึง 103 เมตรเลยทีเดียว ด้านในหอคอยมีร้านกูลิโกะที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์หาซื้อได้ที่เฉพาะที่นี่ที่เดียว และในส่วนชั้นบนสุดของหอคอยนั้นสามารถชมวิวได้ 360 องศา โดยด้านบนหอคอยจะมีเทพเจ้าชื่อ"Biliken" โดยคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เชื่อกันว่าถ้าเราลูบเท้าเทพเจ้าBiliken ความปราถนาที่คิดไว้จะเป็นจริงขึ้นมา และอีกหนึ่งความพิเศษของหอคอยคือ ตอนกลางคืนสีของหอคอยจะมีความหมาย โดยสีของหอคอยจะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศในวันถัดไปอีกด้วย (ค่าเข้า ผู้ใหญ่700เยน เด็ก400เยน) ชิงช้าสวรรค์ HEP Five เป็นชิงช้าสวรรค์ใจกลางเมืองโอซาก้า โดยชิงช้าสวรรค์จะตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของห้าง HEP Five ในตัวห้างนั้นเต็มไปด้วยร้านเครื่องประดับ ร้านเสื้อผ้า ร้านกระเป๋า เกินกว่า100แบรนด์ ในส่วนของชิงช้าสวรรค์ยักษ์นั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 75 เมตร โดยแนะนำว่าหากได้ไปชิงช้าสวรรค์นี้ ควรไปตอนพระอาทิตย์ตกดินหรือกลางคืน จะสามารถเห็นวิวรอบเมืองได้อย่างสวยงาม (ค่าเข้า ผู้ใหญ่600เยน และเด็กต่ำกว่าอายุ5ปีเข้าฟรี) ศาลเจ้า Sumiyoshi Taisha เป็นศาลเจ้าของคนญี่ปุ่น โดยจุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือสะพานสีแดงที่สะท้อนเงาของน้ำอย่างสวยงาม และสภาพอากาศที่ร่มรื่น