Travel on the Way : ทริปนี้ไม่โดนโกงเดี๋ยวไปไม่ถึงเวียดนาม Backpack ด้วยเงินคนละไม่เกิน 7,000 บาท ทริปนี้เป็นทริปที่อยากกลับไทยตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง เราไปกันแบบไม่มีใครเก่งภาษาอังกฤษกันสักคน ลุ้นกันมากจะรู้เรื่องไหม ช่วงที่ไปคือ 22-25 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา เวลาน้อยใช้สอยอย่างประหยัด กะเอาไว้คือเที่ยวแบบพยายามเก็บให้ครบเลยทีเดียว : ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 3 คน อีก 1 คนเทฮ่าๆ เพื่อนติดงาน แล้วจองไปแล้วเลยต้องเสียค่าเครื่องไปฟรี ๆ 1 คน เมื่อแตะถึงพื้นสนามบินก็เริ่มต้นความบันเทิงเลยจ้า กว่าเราจะได้รถคือต้องเปลี่ยนแผนกันใหม่จากที่จะไปมุยเน่ก่อนต้องเปลี่ยนเป็นไปดาลัดเพราะเหลือรถรอบดึกของวันนั้นแค่รอบเดียวไม่ต้องรอไปอีกวันเลย เนื่องจากมีปัญหากับแท็กซี่ที่สนามบินกว่าจะได้แท็กซี่ก็งง ๆ กับอูเบอร์ไปเพราะเข้าใจผิดนิดหน่อย แถมโทรศัพท์เพื่อนเกือบหายเพระาลืมไว้บนรถ ดีที่เค้าเอามาคืนให้ รอด พอซื้อตั๋วเรียบร้อยก็รอ รอ รอ รอ รอเกือบตีหนึ่งรถมารับไปขึ้นรถบัสอีกจุดนึงนอกเมือง พอถึงดาลัตหรือดาหลัต ช่วงเช้าประมาณตี 5 - 6 โมงเช้า หนาวมากแก นึกว่าฤดูหนาว และข้อมูลที่ศึกษามาเท่ากับ 0 คนความจำดีอย่างฉัน งงไปหมด คิดในใจไม่เป็นไรลุยเอาเที่ยวแบบไม่มีแบบแผนอีกแล้ว เก็บได้เท่าที่ได้ละกัน ที่ดาลัตหมอกลง อากาศดีมาก ๆ เลย ที่นี่คนขับรถกันแทบไม่เปิดแอร์ เปิดกระจกเอาบรรยากาศ นึกว่าหน้าหนาวบ้านเรา ดู ๆ ในรีวิวว่าให้นั่งแท็กซี่เข้าไปในเมืองดาลัด เราเลยลองเปิดแมพที่พักให้คนขับดู เค้าเลยพาเราไปถึงที่เลย ดี ๆ โอเคไม่โดนโกงไปหนึ่ง DAY 1 พอถึงที่พัก เช้าอยู่เลย ประมาณ 6 - 7 โมงเช้า เอาไงดี เลยลองเรียกคนดูแลเกรงใจก็เกรงใจ แต่ของฝากกระเป๋าก็ยังดี เขาก็ออกมาต้อนรับเรา ดีที่เราจองที่พักใน Booking ไว้ก่อน เกินคาดเจ้าของใจดีมาก ให้เราเข้าพักได้เลยบอกให้เราไปอาบน้ำจะได้สบายตัว ดีไปอีกเค้าเป็นกันเองดีนะคะ แนะนำๆ iDrom B&B Hostel ราคา 350,134 VND หรือ ประมาณ 500 บาทเองค่ะ 3 คน ไม่ได้อะไรจ้าประทับใจล้วนๆ อยากนอนต่อแต่ก็ไม่อยากเสียเวลา อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วเที่ยวต่อเลยจ้า เราเลือกเที่ยวดาลัดเก็บให้หมดทั้งวันละกัน เดินๆเลาะๆไป กะเอาประหยัด จะได้มีเงินไว้ใช้ต่อ (ไว้ให้โดนโกง ฮ่าๆ) เดินลัดเลาะถ่ายรูปไปเรื่อย เดินง่ายนะคะ ถ้าจะเดินเที่ยวเล่นในเมือง เราเดินจากที่พักไม่กี่นาทีก็ถึงสถานที่แรกที่จะเที่ยวกันแล้ว อากาศดีไม่ร้อนเลย ลมเย็นสบายเหมือนหน้าหนาวบ้านเรา จุดแรกที่เราไปกันก็คือ จตุรัส Lam Vien Square : ตอนแรกก็เดินถ่ายรูปปกติคิดว่าจะเดินไปให้ถึง อ่าวไกลเฉยมันต้องอ้อมสระน้ำไปถ้าจะไปตรงลานไม่เดินก็ได้ โบกแท็กซี่ละกันรอบ ๆ Lam Vien Square ก็จะมีรถม้ามีรถนำเที่ยวสองสามอย่าง เก๋ดีนะ เริ่มต้นน่าจะประมาณ 600,000 VND หรือ 800 บาท มั้งถ้าจำไม่ผิด จะมีผู้คนมาเดินเล่นถ่ายรูปกันเยอะค่ะ สวยดี บางทีก็จะมีคณะทัวร์ลง ด้านล่างใต้ดินจะเป็น Big C ด้านบนจะเป็นร้านกาแฟในโดมชื่อว่า Doha Cafe จุดที่สอง Hydangeas Garden : หลังจากนั้นเราก็ไปต่อกันด้วยการโบกแท็กซี่ ไม่แพงนะ เค้าไปรอรับกลับด้วยเลย เลือกขึ้นเอาเลยตามความพอใจ เริ่มต้นที่ 5-7 พันดอง ก็ตกคนละ 7-10 บาทเอารูปบวกกับสปีคว่าไปทุ่งไฮเดรนเยียค่าาาา งู ๆ ปลา ๆ ไป ถึงที่หมาย นั่งรถไกลอยู่นิดนึง แต่อากาศดีต่อใจมากๆ แอบเบลอนิดๆ เพราะคนเยอะมาก นักท่องเที่ยวเยอะไปหมด คนไทยก็เยอะนะ หามุมถ่ายรูปกันเอานะคะ อย่าลืมทากันแดดไปด้วย แดดแรงมาก แต่ไม่ร้อนนะเลยชะล่าใจ ผลคือผิวไหม้เลยจ้า จุดที่สาม (Thien Vien Truc Lam): วัดตั๊กลัม : กระเช้าลอยฟ้า : หลังจากนั้นก็มานั่งกระเช้าลอยฟ้ากันค่ะ สูงวิวสวยมาก พอไปถึงอีกฝั่งนึงจะเป็นวัดตั๊กลัม ให้คนไปกราบไหว้ขอพร เราก็เอาสักหน่อยขอพรให้ไม่โดนโกง 555 จุดที่สี่ Crazy House : สถาปัตยกรรมดูแปลกตา อารมณ์เหมือนอยู่ในโลกการ์ตูน จริงๆแล้ว ที่นี่คือโรงแรมค่ะ ใช่ค่ะโรงแรม ทางผู้สร้างและออกแบบได้กล่าวไว้ว่า ผู้เข้าชมจะรู้สึกเหมือนได้ไปเยือนดินแดนมหัศจรรย์อย่างใน Alice in wonderland ด้วยรูปร่างที่แปลกประหลาดในส่วนต่าง ๆ ของปราสาท เดินลัดเลาะมีจุดให้ชมวิวด้านบนสุด เสียว ๆ ตกตอนเดิน 555 เดินเสร็จก็กลับไม่มีอะไรให้ใช้เวลานานค่ะ แต่จะบอกว่าโยเกิร์ตตรงหน้าทางเข้าฝั่งที่แลกซื้อตั๋วอร่อย ไปชิม จุดที่ห้า Cho Da Lat : เริ่มเย็นแล้วเที่ยวต่อไม่ไหวแล้ว กลับเข้าในเมืองก่อนละกัน หาอะไรกิน บวกกับเงินดองหมดค่ะ กว่าจะหาที่แลกเงินได้ที่ร้านทองเขารับแลก เห็นข้อมูลในเพจอื่น ๆ ที่รีวิวหลาย ๆ ที่บอกว่ามันผิดกฎหมายใช่ไหม เคยเห็นแวบๆ แต่จะบอกว่าแลกได้เราก็ดีใจแล้ว เราไม่มีเงินดองเหลือแล้ว พอแลกเสร็จเราก็มีตังค์กินข้าวแล้วจ้าาาาา เดินลั้นลาต่อในเมืองต่อไป ดูวิถีคนที่นี่บ้าง ดูวัฒนธรรมของเขา ตลาดกลางเมืองดาลัด เหมือนว่าข้างล่างถ้าเดินไปเรื่อย ๆ จะเป็นตลาดดอกไม้ ต้นไม้ ขายเต็มไปหมด แต่ ไม่ไหวแล้ว เดินต่อไม่ไหว เมื่อยจากการเที่ยวมาทั้งวันเลยต้องเดินกลับที่พักแทน หิวข้าวแล้วด้วย ตั้งใจว่าจะไปกินปิ้งย่างที่เลื่องลือ แต่เดินไปเท่าไหร่ก็เอ่ะ ร้านไหนหล่ะ ความหวังเริ่มริบหรี่ บวกกับเดินไม่ไหวกันแล้ว จบที่ร้านข้าวตรงวงเวียนที่ใกล้ ๆ สระน้ำแถวที่พัก ด้วยข้าวน่องไก่กับน้ำจิ้มหวาน ๆ ไม่ได้แก ไม่ไหวเรากลืนไม่ลง หิวแค่ไหนเราไปต่อไม่ไหวจริง งือ อยากกินส้มตำปูปลาร้า คิดถึงเมืองไทย แต่จะบอกว่าพิซซ่าเวียดนามเห็นหลาย ๆ คนแนะนำว่าต้องลองกินมีขายเยอะไปหมด ไม่รู้จะชิมเจ้าไหนดี เลยลองเจ้านึงสีสันดูน่าอร่อย เลยลองชิมกันดู เอ้า...อร่อยเฉย ๆ ติดใจ อร่อยเครื่องเยอะ ไส้กรอกก็แน่น เครื่องทะลักเลย กินทีเลอะไปหมด แต่อร่อย ไปลองกันนะคะ DAY 2 7.00 AM เส้นทางนอนยาวๆ ดาลัต - มุยเน่ ตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวเชคเอ้าท์ และเราก็ได้รถดาลัตไปมุนเน่ โดยคุณป้าเจ้าของที่พักนี่แหละที่ติดต่อและแนะนำให้ คุณป้าใจดีมากๆจริงๆ น่ารัก ไว้มีโอกาสจะไปใหม่นะคะ ^^ ระหว่างทางฝนตกหนักมาก มีจุดแวะที่เดียวใครหิวบ่อย แนะนำว่าพกของกินมาด้วยนะคะ เพราะเค้าไม่ได้แวะพักบ่อย ๆ และห้องน้ำกลางทางที่ไม่มีหลังคา Open มาก ๆ อิอิ อยากจะแอบดูฝรั่งเหลือเกิน ที่นี่ครบทุกฤดูจริงๆ มีทั้งหนาว ฝน และสถานีต่อไป ร้อน(มาก) ร้อนจนไหม้ ดำเลยจ้า จุดแรกของวันนี้ก็คือ หาที่พัก รอบนี้ไม่ทำการบ้านจ้า หาเอาดาบหน้า : ไปถึงก็เที่ยงแล้ว ที่พักก็ไม่ได้ พอจะได้ก็มีปัญหา เนื่องจากจองผ่าน booking แล้วมันไม่ได้ตัดเงินเราก็กว่าจะคุยกับพนักงานก็เสียเวลาจนเลยเวลาที่นัดทัวร์ Half Day Trip ที่จองไว้ตั้งแต่ดาลัด ห้องก็ยังไม่มีจะนอนคืนนี้ กว่าจะคุยรู้เรื่องทำเอาน้ำตาแทบไหล สุดท้ายก็ได้ห้องพัก กะอีแค่ตัดบัตรเครดิตคุยยากมาก เพราะเราเงินดองไม่พอ จะจ่าย USD ก็ไม่รับ น่าตีจริงๆ สุดท้ายเราก็ขอโทษและขอบคุณไป เขาก็ขอโทษเรา ก็หายกัน ยัง ยังไม่จบพอรถมารับก็งงๆว่าเอ้า! ไหนจองทัวร์แบบ Joy Group ทำไมกลายเป็น Private เอ้า ไปก็ไป ไปแบบงง ๆ White sand dunes Mui Ne : ทำไมหล่ะ เสียเงินเพิ่ม อะไรหว่า ละคุยไม่รู้เรื่องอ่ะ บวกกับร้อนมากเพราะอารมณ์เสียมาก่อนหน้า เลยเอาก็เอาค่ารถ ขึ้นไปทะเลทราย ต้องเสียเพิ่มอีกคนละเกือบ 700 บาท เฮ้อ สัญญากับตัวเองว่าจะกลับไทยไปเรียนภาษาให้เก่ง ละจะไปแก้ตัวใหม่ทริปต่างประเทศทริปหน้า ลมแรงมาก แดดแรงมาก ทรายเข้าตาเยอะมาก แล้วเราก็กลับแบบห่อเหี่ยวให้เวลาถ่ายแค่ 40 นาที แกมันหมดไวมาก มีเวลาถ่ายถ่ายไป ปกติเวลาไปที่ไหนอยุ่เป็นชั่วโมงๆ อันนี้ไม่ชินเลย Red Sand Dunes และก็ย้ายมาอีกที่หนึ่ง คือ ทะเลทรายแดง ที่นี่จะไม่กว้างเท่า White sand ต้องคอยหลบมุมกันเอาเองนะ คนเยอะมาก มากจริงๆ คนไทยเยอะมากๆด้วยเช่นกัน มาถึงที่นี่ก็ดูพระอาทิตย์ตกดิน จะได้ภาพที่สวยงาม แต่เราต้องไปต่ออีกที่ เลยถ่ายรูปได้นิดเดียวเอง ไม่คุ้มเลย Muine Fishing Village กลิ่นอายความเค็ม กลิ่นอายปลาเค็ม แต่ชอบนะ เรียลดี สวยดีนะ มีชาวบ้านกำลังซ่อมแซมเรือที่ลักษณะคล้าย ๆ กะลามัง และเรือเยอะดี สวยนะใครที่ชอบถ่ายรูปแบบ Life และที่สุดท้ายของวันก็คือ Fairy Stream (ซุ่ยเทียน) แคนยอนแห่งเวียดนาม มีลำธารที่เราต้องเดินลุยไประดับน้ำประมาณตาตุ่มค่ะ เดินเลาะหามุมถ่ายรูปกันไปค่ะ ที่นี่สวยดีค่ะ เย็นดีด้วย เหมาะกับการถ่ายรูปแต่พอถ่ายเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำต่อนะ กลับที่พักนอน ริมทะเลและดินเนอร์ มื้อค่ำนี้ที่รอคอย ได้กินข้าวสักที ทั้งวันเพิ่งจะได้กินข้าวเนี่ยแหละ ซีฟู้ดสมใจ น้ำจิ้มอร่อยดีค่ะ ไม่เหมือนบ้านเรานะ มีผงๆ สีขาวๆ ดำๆ กับมะนาว แต่อร่อยดีค่ะและเมนูแทบทุกเมนูมีกระเทียมเยอะมาก จบ ทริป ปิดการเที่ยวเวียดนาม ซื้อเบียร์กลับห้องเบียร์ดีต่อใจ ถูกมาก ๆ กินหมดก็อาบน้ำนอน เหนื่อยมากทริปนี้ แต่ก็ลุยๆดี ได้ฝึกภาษาไปด้วย และตอนกลับในวันที่ 25 วันสุดท้ายในเวียดนาม ว่าจะไปเที่ยวต่อในเมืองโฮจิมินก็ไม่มี กว่าจะไปถึง กว่าจะหาที่กินข้าวได้ก็เกือบได้เวลาเชคอินกลับกทม ทริปนี้ โดนโกงบ้าง ไม่ได้กินข้าวบ้าง เถียงกับพนักงานโรงแรมบ้าง เงินหมดบ้าง โทรศัพท์เกือบหายบ้าง บลาๆ ทั้งหมดทั้งมวล ก็สนุกดี ถึงจะน้ำตาแตกฮ่าๆ ไม่แย่ แล้วพบกันใหม่ ทริปหน้าค่ะทุกคน ต้องลองออกไปพบโลกกว้างบ้าง ชีวิตจะได้มีสีสัน เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่พื้นที่ เที่ยวให้สนุก เปิดประสบการณ์ให้ตัวเอง เจอกันใหม่ทริปหน้าจ้า สรุปค่าเสียหายดังนี้ นะคะ 555 4000 บาท คือค่าเครื่องบินไปกลับ ค่าที่พัก ค่ากิน และค่าเดินทางคนละ ไม่เกิน 3,000 บาท รายละเอียดคือ หลักๆคือ ค่าเครื่องบินถ้าได้โปรที่ถูกก็จะประหยัดตรงนี้ไปค่ะ : ค่าเดินทางไปกลับรวมแล้ว 3,300 บาทต่อคน : ค่าที่พักคืนละไม่เกิน 900 2 คืน หาร 3 : ค่ากินไม่เกิน คนละ 1000 บาท ตลอดทริป : ค่าเดินทาง ไม่เกินคนละ 900 บาท รวมๆ จะเป็นค่าเดินทางที่จะหมดเยอะ ถ้าทำการบ้านไปดีๆ เซฟเงินแน่นอนค่ะ