สวัสดีค่ะเพื่อนชาว True ID-Trend ทุกคนจ๊าา วันนี้เราพามาร้านใกล้ๆแถวมหาวิทยาลัยอีกแล้วว เนื่องจากในบทความแรกๆของเราเคยรีวิวเกี่ยวกับร้านอาหารใกล้มหาวิทยาลัยของเรา มรภ.จันทรเกษม ซึ่งหนึ่งในร้านที่เราพาไปกินคือร้านอาหารตามสั่งลุงกัง แต่อย่างที่บอกว่าร้านนี้นอกจากจะมีอาหารตามสั่งที่ให้เยอะ ราคาถูกแล้ว ร้านที่พึ่งปรับปรุงใหม่ เรียกว่าใหญ่ขึ้น และเพิ่มร้านอาหารมาด้วย ! ร้านส้มตำลุงกัง เรียกได้ว่าเป็นร้านส้มตำอีกหนึ่งรานที่เด็กจันทรเกษมต้องมาลิ้มลองสักครั้ง ปกติคนตำส้มตำจะเป็นผู้หญิงใช่ไหมคะ แต่ร้านนี้คนตำส้มตำเป็นพี่ผู้ชายมีหนวด !! ขอกระซิบว่าร้านส้มตำร้านนี้มีเมนูเยอะ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ยำ น้ำตก ที่อร่อยเด็ดที่สุดที่เราเคยกินมาคือ คอหมูย่าง มันมีความมันของหมู ความฉ่ำของเนื้อแบบฟินๆ 📌 พิกัด : หลังมรภ.จันทรเกษม รัชดา 36 แยก 7 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวันเวลา 09.30 - 20.00 น. ร้านนี้เป็นร้านใหญ่ ในร้านจะนี้จะประกอบด้วยร้านย่อยๆ หลายร้านเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านส้มตำ อาหารตามสั่ง ร้านข้าวขาหมู และร้านที่เราคาดไม่ถึงคือร้านอาหารอิตาเลี่ยน เมนูหลักๆที่เขาแนะนำคือพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยน ถ้ามีโอกาสต้องมาลองสักครั้งแล้วหล่ะ ส่วนเรื่องบรรยากาศถือว่าเป็นร้านที่น่านั่งร้านนึงเลย เพราะเป็นร้านที่เปิดโล่งมีลมพัดโกรกตลอดเวลา ถ้าเลือกนั่งโซนข้างหลังจะได้บรรยากาศเหมือนนั่งกินส้มตำในสวนส่วนตัว เพราะมีต้นไม้เยอะ เรื่องที่นั่งไม่ต้องพูดถึงเพราะมีโต๊ะให้เราเลือกมากกว่า 10 ที่ !! และโต๊ะนึงน่าได้มากกว่า 5 คน ถ้าจะนั่งตรงไหนก็ไปจับไปจองกันได้เลย ไม่ต้องแย่งกัน แต่จะต้องเป็นช่วงปลอดคนเท่านั้นนะ เพราะถ้าไปตอนเที่ยงๆคนนักศึกษาจะเยอะมากๆ เรียกว่าร้านใหญ่แล้ว แต่ยังจุคนไม่พอต้องรอคิวออกมาถึงข้างนอก แต่เราไปช่วงคนไม่เยอะจึงสามารถเลือกที่นั่งได้เลย ทำไมถึงต้องมากินที่นี้ !? อย่างที่บอกไปว่าร้านนี้มีอาหารให้เลือกหลายแบบ เราเคยมีปัญหากับเพื่อว่าวันนี้จะกินอะไรดี ซึ่งบางวันจะถือว่าเป็นโชคดีเพราะอยากกินอะไรที่เหมือนกัน แต่วันที่โชคร้ายนี่สิ ! อยากกินอะไรต่างกันไปคนละทิศละทาง ดังนั้น ถ้ามาร้านนี้ปัญหาทุกอย่างจะหมดไป อยากกินอะไรก็สามารถสั่งแยกมากิน แต่ยังกินที่ร้านเดียวกัน นั่งโต๊ะด้วยกัน ได้พูดคุยสนุกสนานกันเหมือนเดิม จะบอกว่าร้านนี้เปิดมายาวนานมากเจ้าของร้านส่งต่อรุ่นสู่รุ่น เราไม่เคยเจอลุงกังหรอก แต่เราจะได้กินอาหารฝีมือของลูกชายลุง ซึ่งพนักงานทุกคนมีความเป็นกันเองมาก อาหารอร่อย ถูก สะอาด ไม่แปลกใจที่เป็นร้านอาหารที่อยู่คู่กับนักศึกษา มรภ.จันทรเกษม มายาวนาน :) อย่างที่บอกว่าอาหารมีเยอะแต่วันนี้เราจะมารีวิวเมนูที่พึ่งมาสดๆใหม่ๆของเขาคือ เมนูตำถาด จากที่ดูรูปและวิเคราะห์จากราคาแล้ว เราคิดว่าเราไม่น่าจะกินหมด เลยชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มมานั่งกินกันซึ่งปกติเราก็มากินร้านนี้กับเพื่อนปกติอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยลองเมนูใหม่เมนูนี้ เมนูตำถาด (ราคา 150 บาท) ถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับเรา เพราะนี้เป็นการกินตำถาดครั้งแรกของเรา ส่วนตัวพอเห็นแล้วเราว่าความต่างระหว่างตำถาดและส้มตำปกติไม่มีความต่างกันเลยในตัวส้มตำ แต่ตำถาดจะมีเครื่องเคียงเยอะและเสิร์ฟมาด้วยภาชนะที่ใหญ่ มีหลากหลายสีสัน มีความน่ากินและที่สำคัญคือเหมาะกับการถ่ายรูปอวดลงโซเชียล เรามาดูกันค่ะว่าตำถาดราคา 150 บาท เราจะได้อะไรไปบ้าง !? เอาจริงๆ เพื่อนเราและเราเป็นคนที่ชอบกินตำมากนะ ยอมรับว่าเห็นครั้งแรก เครื่องเยอะ แต่ผิดหวังนิดนึงตรง ส้มตำที่เขาใส่มากลางถาดน้อยมาก แต่เครื่องเยอะเยอะและมาในถาดใหญ่จริงๆ เรามาเริ่มกันทีละส่วนนะ หมูยอ - เป็นหมูยอแท้ๆ เพราะมีความเน้น ความนุ่มเด้ง และมีความหอมของพริกไทยอ่อนๆ รสชาตินัวร์เค็มนิดๆ ซึ่งหมูยอเราถทอว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญของส้มตำ เพราะมันมีความเข้ากันกับส้มตำและเสริมรสชาติมากๆ โปเตโต้ - เป็นเครื่องส้มตำถาดที่เราไม่เคยเจอที่ไหนเลย ที่นี้ที่แรกอะ แต่กินกับส้มตำถือว่าโอเคนะ เพราะรสชาติของตัวขนมมันจืด ปกติเรากินขนมอันนี้บ่อยมากๆตอนที่เรายังเด็ก ไม่ได้กินนานมากแล้วเหมือนกันรสชาติยังเหมือนเดิม ไข่เค็ม - ปกติเราจะคุ้นชินกับการกินไข่เค็มคู่กับตำไทย แต่ส้มตำที่เขามีมาให้เป็นส้มตำปูปลาร้า ถามว่าเข้ากันไหม !? ส่วนตัวเราชอบกินกับตำไทยมากกว่า ไข่ต้ม - เขาต้มมาแบบกำลังพอดี ปลอกเปลืกมาให้พร้อมกิน ไม่สุกเกินไปแต่ไม่คาว กินกับส้มตำกำลังพอดี หอยเชอร์ร์รี่ - นี่เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ต้องใส่ หอยของที่นี้ เป็นหอยที่เขาคัดมาแล้วว่ามีความสดและมีเนื้อที่กรอบเด้ง ปกติรสชาติที่อื่นจะจืดๆ แต่ที่นี้จะออกเค็มนิดๆและกอมเครื่องสมุนไพรที่เขาต้อมหอย และที่สำคัญไม่คาวเลยค่ะ ส่วนเครื่องอื่นๆไม่ว่าจะเป็นพวกลูกชิ้นเราว่าดีนะ เข้ากับส้มตำ แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยชอบและเราคิดว่าไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่คือ ปลาหวาน เพราะส่วนมากเราจะติดรสชาติปลาหวานในยำมะม่วงที่ไปตัดรสเปรี้ยวของมะม่วงมากกว่ากินกับส้มตำ แต่รวมๆถือว่าและรสชาติส้มตำยังเป็นรสชาติที่ถูกปากเราเหมือนเดิมเพราะความนัวร์น้ำปลาร้าของที่นี้ ที่ไม่เหมือนที่อื่นๆ ⭐ จานนี้เราให้คะแนน 4/5 คะแนน ดูเมนูหลักๆที่เรากินไปแล้ว มาดูเมนูอื่นๆ ที่เราสั่งเพิ่มกัน ! สำหรับการมากินวันนี้นอกจากเราจะมาลองตำถามแล้วเรายังสั่งมากินอีก 2 เมนู ซึ่งได้เเก่เมนูของอย่างที่ห้ามพลาดคือ เมนูไก่ย่างน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด และเมนูหมูน้ำตกสุดแซ่บ เมนูไก่ย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว (ราคา 40 บาท) เมนูไก่ย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว - เป็นอีกหนึ่งเมนูของร้านลุงกังที่ไม่ควรพลาด เพราะของย่างที่นี้ขึ้นชื่อไม่แพ้กับอาหารอื่นๆ เตาย่างเป็นสัดส่วนวางอยู่ข้างร้าน คนย่าง ย่างกันแบบบไม่เปลี่ยนมือ จริงๆร้านนี้มีเมนูของย่างเยอะมากไม่ว่างจะเป็นคอหมูย่าง ตับหมู และเนื้อส่วนต่างๆ แต่วันนี้เราเลือกเป็นไก่ย่าง ซึ่งไก่ย่างร้านนี้เนื้อข้างในจะมีความกรอบและความฉ่ำน้ำมากๆ ส่วนหนังจะมีความกรอบ กินกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้านที่มีความเปรี้ยวนำบอกเลยว่าแซ่บ ! ราคาไม่แพงเพราะเป็นเนื้อเน้นๆ น้ำตกหมู (ราคา 50 บาท) น้ำตกหมู - ด้วยที่เราเป็นคนที่ชอบกินคอหมูย่าง เมนุตอบโจทย์เรามากเพราะหมูย่างที่เขานำมาทำน้ำตก มีความนุ่มและความมันไม่มีความแข็งของเนื้อ ยิ่งเครื่องน้ำตกของเรานะเข้ากับเนื้อมาก มีความเปรี้ยว เผ็ด เค็มและหวานหวานปลายๆ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในเมนูนี้คือข้าวคั่ว ข้าวคั่วของที่นี้จะมีความหอมซึ่งชูวัตถุดิบในจานในอร่อยมากยิ่งขึ้นเหมือนเป็นตัวเพิ่มความนัวร์ สำหรับเราถ้าเพื่อนๆ ได้มาทานร้านนี้จานนี้ต้องสั่ง ! ⭐ จบไปแล้วกับการรีวิวร้านลุงกังแล้วพบกับเราใหม่ในบทความหน้านะคะ :)