ชีวิตคนเรา บางครั้งมันก็ไม่เเน่นอน บางคนอาจจะมีอายุที่ยืนยาว หรือบางคน อาจจะต้องเสียชีวิตไปตั้งเเต่ยังเด็กๆ สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บทความชวนดูหนัง หนังที่ผมจะชวนทุกๆคนไปดูในวันนี้คือหนังเรื่อง " If Cat Disappear From The World ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้ " ที่เกริ่นไปในไม่กี่บรรทัดที่ผ่านมา นั่นคือคอนเซ็ปของหนังเรื่องนี้ครับ หนังเรื่องนี้เป็นหนังเเนวดราม่า โรเเมนติก จากเเดนอาทิตย์อุทัย(ญี่ปุ่น) เเต่ทางบ้านเราก็ได้นำมาพากย์เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว เเต่ว่าส่วนตัวผมนั้นดูเเบบซับไทยมา เพราะจะได้ฝึกภาษาด้วย ถ้าหากใครอยากตามไปดู ก็ไปดูได้ที่เว็บไซต์หรือเเอปให้บริการหนังออนไลน์ได้เลยครับ เเนะนำให้ไปดูของที่ถูกลิขสิทธิ์นะ จะได้ช่วยผลักดันวงการหนังในไทยที่มารูปภาพ : Marjor Cineplexเรื่องย่อ : เรื่องราวกล่าวถึงบุรุษไปรษณีย์คนหนึ่ง เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตเรื่อยๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคตข้างหน้า วันหนึ่งตัวเขาได้มารู้ว่า ตัวเขาเองป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เเละอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ในอีกไม่กี่วันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง มันเลยทำให้ตัวเขาเครียดมาก เพราะในชีวิตไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย หลังจากกลับมาที่บ้าน เขาก็ได้ไปพบกับ ตัวเขาอีกคนหนึ่ง ที่นั่งรออยู่โต๊ะกินข้าว ตัวเขาคนนั้นได้เเทนตัวเองว่าเป็น ปีศาจ ปีศาจมาบอกให้เขาได้รู้ว่า ในวันพรุ่งนี้ ชีวิตของเขาต้องจบลง เเต่ถ้าหากอยากมีชีวิตอยู่ต่อได้อีก 1 วัน จะต้องเเลกกับของบางสิ่งบางอย่าง เเละของสิ่งนั้นจะต้องหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล ตัวเอกได้ทำการตัดสินใจทำให้ของสิ่งนั้นหายไปเรื่อยๆ ชิ้นเเล้ว ชิ้นเล่า จนกระทั่งมาถึงของชิ้นสุดท้าย ของสิ่งนั้นทำให้เขาตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง...ที่มารูปภาพ: Movie 5000ตัวละครหลักภายในเรื่อง บุรุษไปรษณีย์ / ปีศาจ รับบทโดย ทาเครุ ซาโต้ แฟนเก่าของบุรุษไปรษณีย์ รับบทโดย อาโออิ มิยาซากิเพื่อนสนิทของบุรุษไปรษณีย์ ทสึทายะ รับบทโดย กาคุ ฮามาดะแม่ของบุรุษไปรษณีย์ รับบทโดย มิเอโกะ ฮาราดะพ่อของบุรุษไปรษณีย์ รับบทโดย เออิจิ โอคุดะความคิดเห็นหลังดูจบ : เป็นหนังที่มีชื่อเกี่ยวกับเเมว เเต่เนื้อเรื่องช่วงต้นไม่ค่อยเกี่ยวกับเเมวเท่าไหร่เลยครับ 555 เหมือนเเมวคือคีย์หลักในตอนท้ายๆมากกว่า ส่วนใหญ่เเล้ว เนื้อเรื่องของหนังจะเล่าผ่านตัวของพระเอก หรือบุรุษไปรษณีย์คนนี้มากกว่า เริ่มต้นหนังจะไม่ได้ปูเนื้อหาอะไรมาให้เราเลย จะเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของพระเอก เเต่จะเริ่มมาเล่าเมื่อตอนที่พระเอกรู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง หลังจากนั้นมา เรื่องราวก็จะตัดภาพไปมา ไปมา ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จนบางทีผมก็งงว่า เอ๊ะ ฉากนี้มันคืออดีตหรือปัจจุบันกันเเน่ คือมันเป็นหนังที่คนดูต้องคิดตามพระเอก ถึงจะเริ่มรู้สึกอิน เเละไม่งงตอนดู พูดง่ายๆว่ามันคือหนังที่คนดูต้องจดจ่อเเละใส่ใจกับมัน ไม่อย่างนั้นอาจจะงงได้ คือเราไม่สามารถนั่งกินข้าวไป เล่นมือถือไป พร้อมกับดูหนังเรื่องนี้ไปได้ เพราะไม่งั้นเราอาจจะหลุดจากจุดโฟกัสเเน่นอน ตอนเเรกผมบอกเลยว่า ผมอยากจะเข้าไปดูความสัมพันธ์ระหว่างเเมวกับพระเอก เเต่มันไม่ค่อยจะโฟกัสเรื่องนั้นเลย ช่วงเเรกๆผมเบื่อมาก เบื่อที่พระเอกมันไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเเมวเท่าไหร่ เเต่พอลองดูไปเรื่อยๆ ประมาณ 30-40 นาที เจ้าเเมวตัวนั้นที่มันอยู่ในหัวผม กลับเเทนที่ด้วยเรื่องราวเเละอดีตของตัวพระเอกเเทน จริงๆอยากจะเล่าเรื่องของน้องเเมว เเละครอบครัวพระเอก เเต่มันจะเป็นการสปอยล์เกินไป การชวนเพื่อนไปดูหนัง ผมไม่อยากสปอยล์เพื่อน 555 เอาเป็นว่า ลองจับตาเจ้าเเมวน้อยให้ดี ถึงเเม้ช่วงเเรกจะไม่เด่น เเต่ช่วงหลังนางได้เป็นคีย์หลักอยู่บ้าง ทาสเเมวไม่ผิดหวังเเน่นอน โทนสีของหนัง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้อารมณ์คนดูมันเปลี่ยนตามไปด้วย ด้วยโทนสีที่มันดูหม่นๆ เศร้าๆ ทำให้มันกดอารมณ์เราลงไป ฉากเศร้าออกมาเเต่ละทีนี่ ถึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ บวกกับดนตรีที่คลอไปตามหนัง ดูเรื่อยๆสบายๆ เเต่มันเหมือนมาเพื่อเป็นจุดเสริมทำให้เราอินไปกับหนัง ตอนดูหนังเรื่องนี้ บ้านผมฝนตกปรอยๆ บรรยากาศมืดๆยามเช้า มันยิ่งทำให้ผมดูหนังเรื่องนี้เเล้วอินหนักเข้าไปอีกหลายเท่าเลย เพราะบรรยากาศในหนังก็อารมณ์ประมาณนี้ เรื่องข้อคิดต่างๆ เรื่องนี้ก็สอดเเทรกเข้ามาให้เราได้เห็นอยู่บ่อยๆ อย่างช่วงต้นที่ผมกล่าวไป ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมได้ข้อคิดมาจากหนัง ข้อคิดที่ว่าคือ คนเรามันมีเวลาชีวิตที่เเตกต่างกันออกไป บางคนจากไปเร็ว บางคนจากไปช้า เพราะฉะนั้น เราต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่าครับ เพลงประกอบ : เพลงประกอบของหนังเรื่องนี้คือเพลง Hizumi ขับร้องโดยคุณฮารุฮิ (HARUHI) โทนอารมณ์ของเพลงจะออกเเนวเศร้าๆเเละก็ให้กำลังใจกับคนที่ยังมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ เเละเป็นเพลงที่เหมือนกับเป็นการขอบคุณทุกสิ่งที่ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ที่ได้ให้อะไรกับเขามา ก่อนที่ตัวเขาจะต้องจากโลกนี้ไป ขอบคุณคนที่เคยมีความรู้สึกดีๆร่วมกัน ใช้ชีวิตมาด้วยกัน มันก็จะเชื่อมกับพระเอกของเรื่องนี้ ที่จะต้องจบชีวิตลงไปด้วยโรคร้าย ผมเองก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังประสบปัญหาชีวิต หรือคนที่กำลังป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย หรือกำลังป่วยสาหัสอยู่ ขอให้กลับมาเเข็งเเรงโดยเร็วนะครับ ส่วนคนที่กำลังประสบปัญหาชีวิตอยู่ ก็ขอให้ปัญหานั้นมันเคลียร์จบลงโดยเร็ว จะได้มีเวลารับเอาความสุขจากการที่ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป (ดูหนังเเล้วอิน T v T) อ้อ! เกือบลืมบอกไป หนังเรื่องนี้ มีในรูปเเบบของนิยายด้วยนะครับ คาดว่าตัวหนัง น่าจะดัดเเปลงหรือนำเนื้อหามาจากนิยายเรื่องนี้นี้ ถ้าหากให้ข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ นิยายเรื่องนี้มีชื่อว่า If Cat Disappear From The World ชื่อเเบบเดียวกันกับชื่อหนังเลย ส่วนผู้เขียนนิยายคือคุณ เกงกิ คาวามูระ ที่มารูปภาพ : homeforwordsเป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับบทความที่ผมได้ยกเอามานำเสนอในวันนี้ เป็นบทความชวนดูหนัง บทความที่สองเเล้วเนอะ ต่อจากบทความที่เเล้วที่ได้ชวนไปดูเรื่อง Murder Mystery. อะไรคือการชวนดูหนังตลก เเล้วมาชวนดูหนังเศร้าๆ 555 มันโคตรจะไม่เข้ากันเลย เเต่ถ้าให้คิดในเเง่ดี ก็เหมือนกับการเปลี่ยนบรรยากาศอ่ะเนอะ (เเถสีข้างถลอก ที่จริงอยากชวนไปดูความน่ารักของน้องเเมว) สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ด้วยนะครับ วันนี้ผมเองก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่ในบทความครั้งหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ