ระนอง ดินแดนชายฝั่งทะเลอันดามัน ที่ใครหลายคนต่างก็ทราบดีว่าเป็นจังหวัดที่มีทะเลสวยมากๆ มีหมู่เกาะหลายเกาะที่มีชื่อเสียงโด่ง เช่น เกาะพยายาม เกาะช้าง เกาะค้างคาว เกาะเหลา ฯลฯ อีกมากมาย เป็นต้น ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต่างพากันหลงใหล เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง แต่นักท่องเที่ยวหลายคนก็ยังไม่รู้ว่านอกทะเลสวยๆ แล้ว จังหวัดระนองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงป่าไม้ ขุนเขา และน้ำตกที่สวยงามไม่แพ้กัน ซึ่งสถานที่เหล่านี้กำลังรอให้ทุกคนเข้าไปสัมผัส วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงป่าไม้ ชุนเขาที่เต็มไปด้วยทะเลหมอกในยามเช้า และน้ำตกในบรรยากาศสุดฟิน ตลอดจนทุกคนจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวในแง่มุมใหม่ๆ ของจังหวัดระนอง การันตีได้เลยว่าเมื่ออ่านจบแล้ว หลายคนจะอยากเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า วางแผนเดินทางไปเที่ยวจังหวัดระนองอย่างแน่นอน ขุนเขาทะเลหมอกที่เขาตาปัง เครดิตภาพ https://thai.tourismthailand.org/home การเดินทางสู่จังหวัดระนอง หลายคนอาจจะเคยใช้แต่เส้นทางหลัก แต่วันนี้เราจะพาทุกคนเดินทางโดยใช้เส้นทางสายชุมพร สวี บ้านเขาทะลุ ระนอง ซึ่งจัดว่าเป็นเส้นทางใหม่ที่เปิดโอกาสให้เราได้ค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหม่ โดยเป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้ ก็คือ การชมทะเลหมอกในยามเช้าที่เขาตาปัง นั่นเอง โดยเขาตาปังตั้งอยู่บนรอยต่อของจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหม่ที่ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ต่างพากันผลักดันให้นักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้น ด้วยการวางแผนการจัดการอย่างเป็นระบบ เช่น การจัดให้มีรถกระบะพานักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวข้างบนยอดเขา ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้น เป็นต้น จุดเด่นของเขาตาปังคือ เป็นจุดชมวิวที่มีทะเลหมอกสวยงามในยามเช้า วิวที่ทุกคนจะได้เห็นคือ ทะเลหมอกที่ถูกปกคลุมอย่างหนาแน่นในหุบเขา มีแนวหินปูนที่ถูกกัดเซาะเป็นช่องโพรงทะลุทอดยาวอยู่เบื้องหน้า อยู่ในมุมที่พระอาทิตย์ขึ้นพอดี ทำให้สามารถเห็นลำแสงส่องทะลุผ่านออกมาด้วย ยิ่งสำหรับหน้าหนาว คงไม่ต้องบรรยายว่าจุดชมวิวแห่งนี้จะฟินแค่ไหน แต่สำหรับในช่วงหน้าฝน ความหนาแน่นของหมอกในยามเช้าก็สวยงามไม่แพ้กัน เครดิตภาพ https://thai.tourismthailand.org/home รถปิกอัพจะพานักท่องเที่ยวขึ้นไปที่จุดชมวิว คิดราคา 500 บาท ต่อคัน โดยสามารถนั่งได้ 10 คนต่อหนึ่งคัน ภายในบริเวณใกล้จุดชมวิวมีจุดพักตั้งแคมป์สำหรับการเต้นท์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของชุมชนตาปัง เจ้าของสวนที่ตั้งอยู่ก่อนถึงยอดจุดชมวิว จึงสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งภายในหุบเขาแห่งนี้นอกจากจะมีจุดชมวิวทะเลหมอกแล้ว ยังมีหมู่บ้านหลายแห่งตั้งอยู่ภายในหุบเขาด้วย วิถีชีวิตของชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรชาวสวน ปลูกพืช ผลไม้ เช่น มังคุด ทุเรียน ลองกอง และหมากเป็นจำนวนมาก ตลอดจนมีการเลี้ยงจิ้งหรีด ทอเสื่อจูด ทอผ้าขาวม้า เป็นรายได้เสริม เครดิตภาพ https://thai.tourismthailand.org/home บ้านในวง เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ความโดดเด่นของหมู่บ้านแห่งนี้คือ มีจุดชมวิวหลายจุด และยังมีบัวผุดที่มีลักษณะคล้ายดอกบัวบานขนาดใหญ่ มีสีแดงสง่า เป็นกาฝากชนิดหนึ่งอาศัยอยู่บนเครือเขาน้ำ ซึ่งจะมีให้นักท่องเที่ยวได้ชม หรือถ่ายรูปในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม ของทุกปี เครดิตภาพ https://thai.tourismthailand.org/home ออกจากบ้านในวง มาต่อกันที่ บ้านระวิ ก่อนเข้าสู่อำเภอเมือง แวะเข้ามาเรียนรู้ และรับชมการแสดง เสน่ห์การรำมโนห์ราของเด็กบ้านระวิที่ได้รับการส่งเสริมจากโรงเรียนระวิวิราษฎร์บำรุง เด็กๆ เหล่านี้ได้รับการสอนจนเกิดความชำนาญในการรำ แถมยังสามารถหารายได้เสริมจากการรำมโนห์ราในงานต่างๆ อีกด้วย เครดิตภาพ https://thai.tourismthailand.org/home อุทยานแห่งชาติน้ำตกงาว ออกจากบ้านระวิ มุ่งหน้าสู่ "น้ำตกงาม" ด้วยความที่จังหวัดระนองเป็นเมือง “ฝนแปด แดดสี่” ทำให้สภาพป่าเขามีลักษณะดิบชืนแทบจะตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกงาว สถานที่ท่องเที่ยวที่ใครหลายคนพอจะทราบกันดีว่าเป็นน้ำตกที่สูงใหญ่ สวยงาม สง่า บรรยากาศดี สามารถมองเห็นได้แต่ไกล อยู่ตรงข้ามกับภูเขาหญ้าซึ่งเป็นจุดเช็คอินที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในจังหวัดระนอง เครดิตภาพ https://thai.tourismthailand.org/home ในช่วงฤดูฝน น้ำตกงาว แห่งนี้จะสวยงามที่สุดในสายตาของทุกคน มีสายน้ำไหลผ่านหน้าผาหินขนาดใหญ่ ดังนั้นการไปเที่ยวในช่วงฤดูฝนจึงเหมาะที่สุด นอกจากนี้แล้วภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกงาวยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ เรียนรู้ที่มาของแหล่งน้ำซึ่งมาจากยอดเขาสูงชัน ศึกษาพืชพันธุ์นานาชนิด และมี “ปูเจ้าฟ้า” เป็นปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก พบครั้งแรกที่น้ำตกงาวแห่งนี้ ลักษณะกระดองและก้ามเป็นสีขาว ส่วนปาก เบ้าตา และขาเป็นสีม่วงดำ พวกมันอาศัยอยู่ในบริเวณลำธารน้ำตก รอให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้เข้าไปเยี่ยมชมความสวยงามและความแปลกใหม่ในสถานที่แห่งนี้ เครดิตภาพ https://thai.tourismthailand.org/home ทั้งหมดนี้คือเส้นทาง แห่งเมืองระนอง เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวมิติใหม่แห่งเมืองระนองที่เราเอามาแชร์ให้ทุกคน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติทั้งหลายจะชื่นชอบ อีกทั้งยังได้เรียนรู้วิถีชุมชน และวัฒนธรรม เสน่ห์แห่งความเป็นไทย ทางตอนใต้ของประเทศ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน บางครั้งไม่เพียงแค่เราจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวบ้าน แต่ชาวบ้านเองก็อาจจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวด้วยเช่นเดียวกัน ผ่านการพูดคุย แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ซึ่งยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ สิ่งเหล่านั้นรอให้เราได้เข้าไปสัมผัสถึงความสวยงามในธรรมชาติ และในขณะเดียวกันเราทุกคนจะได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วยเช่นเดียวกัน